พระปิดตามหาลาภจตุรพิธพรชัย ปี ๒๕๑๘ หลวงพ่อกวย หลวงปู่สี หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ดู่ และพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมอีกมากมาย ร่วมปลุกเสกครับ
พระปิดตามหาลาภ เนื้อผงวิเศษ มีขนาดประมาณ 3 x 3.5 ซม. ด้านหน้าเป็นองค์พระประทับนั่งขัดเพชร ด้านหลังมีอักขระเลขยันต์ของลป.ดู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านรับเป็นธุระในการออกแบบพระให้ ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม หลังจากนั้นลป.ดู่ท่านได้นำพระชุดนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญจตุรพิพิธพรชัย 9 พระอาจารย์ที่วัดรัตนชัย จ.อยุธยา เมื่อปี 2518 อีกครั้งหนึ่ง
ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้
เมื่อ พ.ศ. 2518 นายเรียน นุ่มดี อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้ากราบเรียน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระอภิญญาแห่งสำนักวัดสะแก เพื่อขออนุญาตสร้าง พระปิดตามหาลาภ เพื่อการพระศาสนาที่ วัดเขาใหญ่ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในถิ่นกำเนิดของท่านผู้บัญชาการฯ
หลังจากได้รับอนุญาตจากหลวงปู่ดู่แล้ว คณะผู้จัดสร้างได้รวบรวมมวลสารต่าง ๆ มากมายหลายอย่าง อาทิ เช่น ดอกไม้บูชาพระนานาพันธุ์ ผงธูปบูชาพระ และ ว่าน 108 ชนิด ฯลฯ บรรจุในลังไม้อย่างใหญ่ เสร็จแล้วนำไปขอความเมตตา หลวงปู่สี อายุ 128 ปี วัดเขาถ้ำบุนนาค จังหวัดนครสวรรค์ ช่วยปลุกเสกมวลสารต่าง ๆ นั้นเพิ่มเติม...
เมื่อเข้ากราบเรียนให้ท่านทราบถึงความมุ่งหมาย หลวงปู่สีท่านนั่งนิ่งเฉย ไม่ยอมเสกให้ คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดต้องกราบขอร้องให้ท่านช่วยเสก ในที่สุดท่านบอกให้ยกลังมวลสารเข้ามาใกล้ ๆ ท่าน เสร็จแล้ว ท่านจับลังมวลสารเป่าทันที โดยไม่มีการภาวนาคาถาอาคมแต่อย่างใด หลวงปู่สีท่านเป่าลังมวลสารเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วท่านพูดว่า “เอาไปได้”
ท่านผู้บัญชาการเรือนจำฯ และคณะผู้ติดตามถึงกับหน้าเสีย สิ้นความศรัทธา แสดงว่า ไม่เชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ อะไรกันนี่ เป่าครั้งเดียว จะเกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
เมื่อเดินทางกลับมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านผู้บัญชาการเรือนจำฯ จึงให้ลูกน้องเอาปืนยิงลังมวลสารใบนั้น แต่ปรากฏว่า จะยิงย่นสักปานใด ก็ยิงไม่ถูกลังมวลสาร ทั้ง ๆ ที่ลังมวลสารใบนั้นใหญ่โตขนาดสองคนหาม นี่ก็แสดงให้เห็นว่า หลวงปู่สีท่านทรงคุณวิเศษในทางแคล้วคลาดมากน้อยเพียงไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กล่าวขวัญกันมาก
เมื่อสร้างเป็นรูปเคารพพระปิดตามหาลาภเรียบร้อยแล้ว ได้นำไปให้ “หลวงปู่ดู่” ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานานถึงหนึ่งเดือน จากนั้นได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่ วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ.อยุธยา เมืองกรุงเก่าอีกครั้งหนึ่ง มีพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมขลังปลุกเสกถึง ๑๖ รูป มีรายนามดังนี้ (พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 )
1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)
จากพิธีการสร้าง และพุทธาภิเษกตามที่กล่าว จึงนับว่า “พระปิดตาจตุรพิธพรชัย” รุ่นนี้ ได้ผ่านพิธีการต่างๆ เป็นที่น่าเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก โดยเฉพาะ “หลวงปู่สี” อายุ ๑๒๘ ปี พระผู้มีความขลังเป็นอมตะ แห่งวัดเขาถ้ำบุนนาค ย่อมเป็นประกาศนียบัตรรับรองความศักดิ์สิทธิ์ ของพระปิดตารุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
|