พระรอด วัดพระสิงห์ ปี พ.ศ. 2496 จ.เชียงใหม่ หน้าเทวดา ก้นเกิน ( มีเนื้อล้นที่ฐานด้านล่างสุด) เนื้อเขียวคราบเหลืององนี้มีหน้ามีตา ศักดิ์สีหน้าเทวดา แค่ชื่อก็มงคลแล้ว บล็อกหายากแถมเนื้อหายากเข้าไปอีก เพราะพระเผาด้วยอุณหภูมิสูง ผิวคราบออกเหลือง ข้างในเขียว มีหมัดไฟประทุรวมแล้วหายากเป็นสองเท่า สภาพสวยเดิม ขนาดกว้าง 1.2 ซม. สูง 2.2 ซม. พร้อมบัตรรับรองพระแท้ จาก SK.check
พระรอดวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่ิอปี พ.ศ.2496 เป็นการจัดสร้างพิธียิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ล้านนา พระรอดเป็นหนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างสูงและมีราคาแพงมาก หากไม่มีพระรอด กรุวัดมหาวัน พระรอดที่มีพุทธคุณใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด ต่างยืนยันตรงกันว่า คือ พระรอดวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2496 นี่เอง ใช้ดีไม่แพ้พระรอดอายุพันกว่าปีของ จ.ลำพูนเลย
พระรอดวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2496 นี้ จัดสร้างขึ้นเพื่อสมทบทุนสร้างพุทธสถานเชียงใหม่ซึ่งได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2496 เวลา 11.45 น, และในเดือนเดียวกันนั้นเองได้ทำพิธีพุทธาภิเษกตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ปีมะเส็ง จัตวาศก จุลศักราช 1315 เริ่มพิธี 9 นาฬิกา 21 นาที 41 วินาที และเริ่มจุดเทียนชัยเวลา 19.20 น, โดยมี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์เป็นประธานประกอบพิธีมหามงคล สร้างพระรอดจำนวน 84,000 องค์ วัสดุในการสร้างใช้ดินบริเวณทิศเหนือของวัดพระคง จ.ลำพูน ซึ่งเชื่อกันว่า พระรอดวัดมหาวัน ในสมัยพระนางจามเทวี ก็ใช้ดินบริเวณนี้สร้าง จึงทำพิธีตั้งศาลเพียงตา อาราธนาขอจากพระพุทธรูปและอารักษ์ที่รักษาดินแดนแห่งนั้น จากนั้นขุดลงไปเพียงสามศอกก็พบดินขุยปูตามที่ต้องการ ลักษณะดินละเอียดเหนียว เมื่อนำมาสร้างพระแล้วแกร่งและสวยงามมาก เมื่อได้ดินที่ต้องการแล้วก็ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์แล้วน้ำมากรองด้วยผ้าขาวเก็บผงดินที่ละเอียดเหมือนแป้งมาผสมกับผงพระธาตุ , ผงพระเปิม ,ผงพระเลี่ยง , ผงพระคง , ผงพระรอด , ผงสมเด็จบางขุนพรหม , ผงตรีนิสิงเห , ผงปัทมัง ,ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าเช่น ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อผสมจนเข้าเนื้อเดียวกันแล้วก็ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเท่าผลส้ม ส่งลงมากรุงเทพฯ ให้อาจารญ์ฉลอง เมืองแก้ว (อาจารย์ขมังเวทย์ ) เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุ แล้วนำกลับสู่เมืองลำพูนเพื่อให้ช่างพิมพ์องค์พระออกมาซึ่งมีทั้งหมด 11 พิมพ์ แล้วนำกลับมาเข้าพิธีในวันดังกล่าวข้างต้น เมื่อถึงเวลา ฤกษ์พระมหาราชครูวามเทพมุณีและพระครูศิวาจารย์ พราหมณ์ประจำราชสำนักและโบสถ์พราหมณ์กรุงเทพฯ เป็นประธานฝ่ายพราหมณ์ กล่าวพิธีมหาปัญจพิธีโอมอ่านศิวเวทย์อัญเชิญท้าวเทพยดาทั้งหลายที่สิ่งสถิตในแผ่นดินล้านนาอัญเชิญพระวิญญาณเจ้าแม่จามเทวีและกษัตรย์ทุกพระองค์ พระมหาราชครูอ่านโองการชุมนุมเทวดาเส็จแล้วพราหมณ์เป่าสังข์ จบแล้วคณาจารย์ทั้งหมดนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คณาจารย์ที่ร่วมในพิธีอาทิ เจ้าคุณศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์ , เจ้าคุณศรีสุวรรณวิสุทธิ เจ้าคณะ จ.ลำปาง , ลป.นาค วัดระฆัง , ลพ.สด วัดปากน้ำ , ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม , ครูบาวัง วัดบ้านเด่น , พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ , ลพ.เปลี่ยน วัดใต้ , ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ,ลพ.ภักดิ์ วัดบึงทองหลาง , ลพ.ทบ วัดชนแดน , ลพ.แฉ่ง วัดบางพัง , ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ , ลพ.รุ่ง วัดท่ากระบือ , ลป.เผือ วัดกิ่งแก้ว , ลพ.สำเนียง วัดเวฬุวัน ฯลฯ ในขณะที่ทำพิธีบรวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี มีฝูงผีเสื้อเป็นจำนวนมากบินมาอยู่เหนือเครื่องสังเวยแล้วกระจายบินหายไป พื้นที่กระทำพิธีฟ้าคะนองตลอด เกิดแสงแปลบปลาบทั่วท้องฟ้า อากาศเยือกเย็นผิดกลับวันอื่นๆ ส่วนคณาจารย์ทั้งหลายที่มาปลุกเสกต่างเกิดนิมิตเป็นมงคลต่างๆกัน พระรอดวัดพระสิงห์ จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง สำหรับผู้นิยมชมชอบพระรอดมาช้านานตราบถึงปัจจุบัน
|