ตำนานตะกรุดผีเก็บ อาจารย์เณร วิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก
อ. สันป่าตอง เชียงใหม่
รางวัลที่ ๔ งานนิตยาสารท่าพระจันทร์ สามพรานนครปฐม
ที่มาเรียกขาน (ตะกรุดผีเก็บ) ที่เล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของชาวบ้านป่าสัก อาจารย์เณรท่านทำตะกรุดเมตตานี้ไว้ให้กับลูกศิษย์ลูกหา เป็นตะกรุดที่นำไปปลุกเสกที่ป่าช้า บ้านกลาง สันป่าตอง ตะกรุดท่านจะลงจารยันต์อักขระมาจากวัดแล้วนำมาลอง ก่อนนำมาปลุกที่ป่าช้า ทำพิธีในป่าช้าโดยมีชาวบ้านละแวกนั้นและพระลูกวัดป่าสัก ติดตามไปด้วยจำนวนหนึ่ง ตะกรุดที่ท่านทำเล็กๆสั้นๆประมาณ1cm ดอกเดี่ยว จำนวน40-50ดอก เนื้อทองฝาบาตรและเนื้อเนื้อ ก่อนทำพิธีปลุกท่านได้นำตะกรุดโยนไปตามบริเวณป่าช้า(เมรุ) แล้วอาจารย์เณรก็บอกให้ชาวบ้านรวมทั้งพระเณร ที่มา เข้าไปอยู่ในสายสิญสีเหลี่ยมที่ได้ลงอาคมยันต์ไว้ (ท่านบอกอย่าออกมาเด็ดขาด ข้าไม่รับลองถ้าออกจากสายสิญ) จากนั่นอาจารย์เณรก็เข้ามาในสายสิญพิธี และเอาบาตรที่ใส่ตะกรุดมา ไว้นอกสายสิญ จากนั่นท่านทำพิธีเรียกผีปลุกผี เพื่อใช้ผีให้ไปเก็บตะกรุดจากคำบอกเล่าของเช้าบ้านที่ได้ยิน (ว่า"ไปเก็บมาๆ มึงไปเก็บมา") (คำบอกเล่าของครูบาเลิศ) จากนั้นมีเสียงคล้ายคนเดินเยียบไม้เสียงกิ่งไม้หัก บริเวณรอบๆป่าช้า บ้างคนก็ว่าเห็นเงาดำๆบ้างคนก็ไม่เห็นได้ยินแต่เสียง แต่ เห็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ท่านเรียกตะกรุดกลับมาในบาตรได้ อย่างไม่น่าเชื่อ พระเณรที่ไปก็ต่างพูดถึง ความเข้มขลังและจิตอันเป็นพลังของอาจารย์เณร ที่เรียกผีให้เก็บตะกรุดมาไว้ที่เดิมในบาตร ทั้งๆที่ท่านได้โยนออกไปหมดแล้วแต่ตะกรุดที่ได้กลับมาไม่ครบหมด กลับหลักสิบ ไม่มากนัก และได้แจกชาวบ้านเฉพาะคนที่เข้าร่วมพิธีในป่าช้า บ้างก็นำไปใส่เชือกที่วัด ที่เหลือให้บูชาไม่มากนัก. จึงเป็นที่มาของตะกรุดเมตตา (ผีเก็บ) ตะกรุดนี้ใช้ในทางเมตตา มหานิยม เจรจาการงานเข้าหาเจ้านาย คนรักชอบ ใช้ทางคดีจักชนะโดยเสน่หา
ขอบคุณขอมูลจาก อ.แดง ฅ.ฅนกันเอง และหลวงพ่อเลิศ วัดป่าสัก มาณ.ที่นี้ด้วยครับ