ในคัมภีร์พระเวทของศาสนาพราหมณ์ ที่มีอายุมากกว่า 4000 ปี
ระบุไว้ว่า “ พระฤาษี มีมาก่อนที่ในโลกนี้จะมีศาสนาหลักอย่างเป็นทางการ
เพราะเหตุว่า บทบันทึกของคัมภีร์พระเวทนั้นเกิดจากพระฤาษี 10 องค์
ได้แก่ พระฤาษีอัฏฐกะ พระฤาษีวามกะ พระฤาษีมามเทวะ พระฤาษีเวสสมิตวะ
พระฤาษียมตัดคี พระฤาษีอังคีรสะ พระฤาษีภารทวะชะ พระฤาษีเสฏฐะ พระฤาษีกัสสปะ พระฤาษีภัคคุ
ได้นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ที่ยอดเขาหิมาลัย ทุกท่านต่างเป็นผู้ที่มีธรรมบารมีสูงมาก
และพระฤาษีทั้ง 10 ต่างได้ยินเสียงทิพย์ ที่ล่องลอยมาจากสรวงสวรรค์
ในเวลาเดียวกัน มีความหมายเดียวกัน ประดุจดั่งมีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ผู้พลังมหาศาล ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเป็นผู้มาสอนวิชาความรู้
รวมถึงหลักธรรมสำคัญให้กับพระฤาษีทั้ง 10 องค์ได้ฟังจนเข้าใจ หลังจากเสียงหายไป
พระฤาษีทั้ง 10 ตื่นขึ้นจากการบำเพ็ญตบะพร้อมกันแล้วต่างมีความเห็นตรงกันว่า
“ ต้องบันทึกไว้จะได้เกิดความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน
และ เพื่อใช้ในการค้นคว้าศึกษาปรัชญาความรู้ของคำสอนเหล่านี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น"
ซึ่งบันทึกของพระฤาษีทั้ง 10 องค์นี้เรียกว่า “ ศรุติ “
ซึ่งหมายถึง ได้รับฟังมาจากพระผู้เป็นเจ้า
ถือว่าเป็นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาจากพระผู้เป็นเจ้าโดยตรง
เป็นของที่มีอยู่ชั่วนิรันดร เป็นลมหายใจของพระผู้เป็นเจ้า
เป็นสัจธรรมที่แสดงถึงประสบการณ์ทางวิญญาณของพระฤๅษีทุกองค์
และ ต่อมาก็ได้พัฒนาเกิดเป็น คัมภีร์พระเวทของศาสนาพราหมณ์ ( คำว่า เวท หมายถึง ความรู้ )
คัมภีร์พระเวทได้ถูกบันทึกไว้เป็นภาษาสันสกฤต เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ฉบับแรกของศาสนาพราหมณ์
ด้วยเหตุนี้พระฤาษีจึงเป็นนักบวช เป็น ครู ของเหล่าเทพเทวดา และ มนุษย์ ที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา
เพราะท่านต่างมีบารมีไม่แพ้เทพเจ้าองค์ใด และเทพเจ้าทุกองค์นั้นยังเคารพและยำเกรงท่าน
ในฐานะความเป็นครูผู้ทรงศีลที่มีบารมีขั้นสูง
พ่อปู่ฤาษี เนื้อสัมฤทธิ์ ใต้ฐานดินไทย ผิวหิ้งเดิมๆหน้าตัก 5 นิ้ว ความสูง 7 นิ้วครึ่ง
|