เหรียญหนุมานเนื้อเงินลงยาหลังจารหลวงพ่อกุนวัดพระนอนจังหวัดเพชรบุรี
ในอดีตถ้าจะกล่าวถึงตะกรุดที่มีราคาแพงที่สุด คงไม่มีใครไม่รู้จักหลวงพ่อกุน วัดพระนอน พระดีเมืองเพชรบุรีอีกรูปหนึ่งที่ทำตะกรุดได้เข้มขลัง ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดไมยราพสะกดทัพและอื่นๆ เรียกได้ว่านักเลงในสมัยก่อนยังนำตะกรุดของหลวงพ่อไปลองแขวนไว้ที่เสาบ้านใครเป็นได้หลับไม่ตื่นกันทั้งบ้าน จะทำเสียงดังอย่างไรก็ไม่ตื่นกันเลยทีเดียว เรื่องมหาเสน่ห์ก็เป็นเยี่ยม พระเกจิอาจารย์ที่สร้างรูปหนุมานไว้เป็นเครื่องรางของขลังคือหลวงพ่อกุน วัดพระนอน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ความจริงแล้วหลวงพ่อกุนเมื่อท่านสร้างตะกรุดอันเลื่องชื่อคือตะกรุดจันทร์เพ็ญ โดยแผ่นตะกรุดของหลวงพ่อกุนท่านจะลงอักขระและรูปลายเส้น เป็นรูปหนุมานจับทศกัณฐ์และนางมณโฑมัดผมเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นภาพเรื่องราวของรามเกียรติ์ตอนที่หนุมานไปเอาลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์ใช้หนุนต่างหมอน เพื่อนำมาบดยารักษาพระลักษณ์ที่ถูกหอกกบิลพัทธ์ของทศกัณฐ์ ซึ่งหอกกบิลพัทธ์นี้เป็นหอกที่พระอิศวรประทานแก่ท้าวลัสเตียนพ่อของทศกัณฐ และตกทอดมาถึงทศกัณฐ์
หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ตามอัตโนประวัติกล่าวว่า เกิดเมื่อวันพุธ เดือน ๖ ปีวอก พ.ศ.๒๔๐๓ ที่บ้านหนองกาทอง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี บิดาไม่ปรากฏนาม ส่วนมารดาชื่อม่วง เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวน ๕ คน ประกอบด้วยพี่ชาย ๒ คน คือนายพ่วง และนายเตอะ ส่วนน้องชายอีก ๒ คน คือนายเกตุ และนายเขียด ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดวังบัว และอุปสมบทที่วัดแห่งเดียวกันนี้ ในระหว่างที่อุปสมบทได้ใหม่ๆ ท่านได้เดินทางไปศึกษาวิชาจากอาจารย์แจ้งฆราวาสที่มีความรู้ในสูตรสนธิ์ดีผู้หนึ่ง จากนั้นยังได้ศึกษาวิชาจาก หลวงพ่อมุ่ย วัดใหญ่สุวรรณาราม และหลวงพ่อฤกษ์ วัดพลับพลาไชยและได้ย้ายมาพำนักที่วัดพระนอนเมื่ออุปสมบทได้ ๓ พรรษา มีพระครูสุวรรณมุนี (เกษ) เป็นเจ้าอาวาสวัดพระนอน ต่อมาท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระนอนสืบต่อ ทั้งยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตามที่ปรากฏอยู่บนรูปถ่ายที่ท่านเขียนสมณศักดิ์ไว้ว่า พระครูสุเมธาจารย์ แต่มีผู้เขียนประวัติท่านเขียนนามสมณศักดิ์ท่านว่าพระครูสุชาตเมธาจารย์ หลวงพ่อกุน มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ อายุได้ ๖๐ ปี พรรษาที่ ๔๐ ตะกรุดของหลวงพ่อนั้นกล่าวขานกันว่า ตำหรับทำตะกรุดนี้จารึกไว้ในสมุดจีนใบปกเขียวๆ รูปที่เขียนเป็นเรื่องรามเกียรติ์ตอนหนุมานถวายแหวน ขั้นตอนการทำก็พิถีพิถันมากหลวงพ่อท่านใช้ฤกษ์เสาร์ห้า เป็นฤกษ์ในการลงอักขระเลยยันต์และปลุกเสก สถานที่ปลุกเสกท่านก็ไปปลุกเสกในป่าช้าเจ็ดป่าช้า มีป่าช้าวัดพลับ วัดแก่นเหล็ก และวัดพระนอน เป็นต้น หลังจากนั้นพอถึงคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองหลวงพ่อท่านก็จะใช้ลูกสะบ้ามอญ ลบถูรอยเหล็กจารที่ท่านได้จารไว้ออก และพอถึงฤกษ์เสาร์ห้าก็กลับไปจารที่ป่าช้าอีก ท่านทำเช่นนั้นจนครบ ๓ รอบท่านถึงจะนำออกมาแจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา พุทธคุณนั้นเหล่าเรื่องมหาเสน่ห์ก็ไม่แพ้พระขุนแผนสำนักไหนเลย ด้านตะกรุดโทนมงกุฎพระเจ้ายันต์ที่ท่านลงและปลุกเสกในตะกรุดเรื่องมหาอุด อยู่ยงคงกระพันก็เยี่ยมครับ แต่สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อท่านสั่งทุกคนที่ได้ของท่านไปว่า ขออย่างเดียวอย่าไปขโมยของเขา ถ้าไปขโมยของเขาก็จะใช้ไม่ขึ้น ของดีของหลวงพ่อกุนเลื่องลือมากสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ปลัดเมืองเพชรบุรียังเคยมาขอของท่านเพื่อไปคุมครองตัว แต่ของดีของหลวงพ่อนั้นมีน้อย เพราะกว่าท่านจะทำออกมาแต่ละอย่างใช้เวลามากขั้นตอนเยอะ เราๆ ท่านๆ คนรุ่นใหม่เลยหาของหลวงพ่อได้ยาก หลวงพ่อกุน มีชีวิตอยู่จนถึงปี พ.ศ.๒๔๖๓ ท่านก็ป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่หาย และมรณภาพลงด้วยอายุ ๖๐ ปี ๔๐ พรรษา นักเป็นการเสียบูรพาจารย์ที่สำคัญของเมืองเพชรบุรี
สำหรับเหรียญหนุมานนั้นหลวงพ่อกุนท่านได้สร้างตามตำราโบราณ มีทั้งแบบเหรียญหล่อสี่เหลี่ยม และเหรียญกลมบาง ปั๊มขอบกระบอก ห่วงเชื่อม มีสร้าง เหรียญทองคำลงยา เหรียญเงินลงยา หลากหลายสี ด้านหน้าเป็นรูปหนุมานเหาะ มือถือตรีเพชร ขอบเหรียญล้อมด้วยเม็ดไข่ปลา ด้านหลังเรียบ ซึ่งหลวงพ่อกุน ท่านจะลงอักขระยันต์หลายรูปแบบตามฤกษ์ยามด้วยตัวท่านเอง แล้วจึงปลุกเสกจนหนุมานจนมีอาการครบ 32 คือ ปลุกเสกจนเหรียญขยับได้ หรือลอยขึ้นเอง จึงจะใช้ได้ เหรียญนี้เป็นเหรียญหนุมานเนื้อเงินลงยาเป็นเหรียญเก่าโบราณ อายุเหรียญเกิน 100 ปี ที่มีสภาพสวยมาก และทรงอานุภาพในทุกๆด้าน ทั้งอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม มีประสบการณ์มากมาย และเป็นเหรียญเก่าที่หาได้ยากยิ่ง
หลวงพ่อกุน ท่านเป็นผู้สร้างตะกรุดไมยราพสะกดทัพอันเลื่องชื่อลือลั่น นอกจากตะกรุดอันเลื่องชื่อของท่านแล้ว เหรียญหนุมานเนื้อเงินลงยานี้ก็เลื่องชื่อลือลั่นไม่แพ้กัน เซียนพระใหญ่ๆระดับประเทศหลายๆท่าน ต่างอาราธนาติดตัว วัตถุมงคลของท่านหายาก และมีมูลค่าสูงทั้งนั้น
สนใจสอบถามได้ครับ
|