พยองคำครูบาวัดผาบ่องจังหวัดแม่ฮ่องสอน
พยองคำอีกหนึ่งสำนักที่เป็นตำนานและหายากมาก ๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่างเป็นที่หวงแหนของผู้ที่ได้ครอบครอง ตลอดการเวลาที่ผ่านมาอาจจะนานพอสมควรแต่ยังมีผู้ที่เก็บรักษาและหวงมาก ๆ สืบทอดกันมาถึงตอนนี้เป็นที่ต้องการและเก็บสะสมไว้บูชาของนักสะสมพระในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ต่างหาสะสมกันมาก บางท่านได้ไว้บูชาเพียงแค่ ๑ หัวไม้ขีดไฟหรือไม่เกิน ๕ หัวไม้ขีดไฟ แค่นั้นเอง เพราะเป็นที่นิยมและราคาเช่าบูชากันแพงพอสมควร
พยองคำท่านนั้นมีกรรมวิธีการสร้างกว่าจะสำเร็จต้องอาศัยสถานที่ถึงสามที่ หุงกันถึงสามครั้งเลย เมื่อแรกเริ่มท่านทำพิธีหุงต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถนัยว่าเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเป็นสถานที่เกิดใหม่ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จหนึ่งครั้ง จากนั้นนำไปหุงตรงทางสามแพร่ง นัยว่าเป็นสถานที่คนมารวมกัน พูดคุยหัวเราะกัน เป็นสถานที่นัดพบกัน หุงจนกว่าจะมีคนมาถามว่า “ครูบาทำอะไร” ท่านก็จะตอบว่า “ทำยาวิเศษโอสถทิพย์” ที่บันดาลให้คนที่พกพามีความร่ำรวย เป็นมหาเสน่ห์อย่างยิ่ง ถึงจะสำเร็จอีกหนึ่งครั้ง พิธีสุดท้ายที่ท่านทำพิธีคือท่านให้ลูกศิษย์ท่านสืบเสาะฟังข่าวว่ามีผู้หญิงตายท้องกลม ที่เป็นลูกหัวสาวผู้ชาย(ลูกคนแรกผู้ชาย)ฝังไว้ป่าช้าไหนบ้าง เมื่อทราบแล้วท่านก็จะไปทำพิธีเซ่นสรวงบัดพลีแล้วให้ลูกศิษย์ท่านขุดนำศพผีตายท้องกลมนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ให้พร้อมทั้งผัดหน้าทาแป้งให้ศพนั้น แล้วให้ลูกศิษย์ท่านผู้เป็นชายพรหมจรรย์ มีหน้าตาหล่อเหลาดูดี มีอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าไปโอบกอดศพนั้นจากข้างหลังแล้วนำขันสำริดที่บรรจุสีผึ้งนั้นวางบนมือผีนั้นโดยมีมือของผู้ชายคนนั้นซ้อนอยู่ อีกข้างก็ให้ถือไม้คนสีผึ้งโดยมีมือของผู้ชายนั้นซ้อนอยู่เช่นกัน เมื่อเริ่มพิธีก็ให้ชายนั้นประคองมือศพนั้นคนสีผึ้งโดยมีท่านครูบายืนบริกรรมคาถาอยู่ข้างๆ สักพักก็ให้ชายคนนั้นปล่อยมือจากศพผีตายท้องกลมนั้น ปล่อยให้ผีนั้นคนสีผึ้งเองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เมื่อผีนั้นคนสีผึ้งไปพลางก็จะยกขึ้นพลาง นัยว่าจะซดสีผึ้งนั้นซึ่งเชื่อว่าเป็นยาโอสถทิพย์สุดวิเศษซึ่งถ้าผีนั้นซดสีผึ้งนั้นได้ก็จะกลายเป็นผีดิบอมตะยากแก่การปราบปราม เมื่อผีนั้นยกขึ้นจนใกล้ปากที่สุดก็จะแย่งเอาขันสีผึ้งจากมือผีนั้น แล้วก็สะกดให้กลับลงไปนอนในโลงอย่างเดิม เป็นอันเสร็จพิธีการสร้างสีผึ้งพะยองคำอันวิเศษสุดตามกรรมวิธีของท่าน
สนใจสอบถามได้ครับ
|