สีผึ้งหลวงปู่สุขวัดโพธิ์ทรายทอง
มีสรรพคุณในทางเมตตามหาเสน่ห์ โดยเฉพาะสีผึ้งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหนุนดวงชะตาผู้ใช้ คนสมัยโบราณถือว่าเป็นของดีมีคุณมากใช้ป้ายปากป้ายคิ้วเสียมันแผล็บ หรือไว้ใช้พกติดตัว เจิมหน้าผาก เจิมหน้า เจิมตา เจิมของขาย จะทำให้เป็นที่รักแก่ผู้คนรอบข้าง โดยมีวิธีสร้างและมีวิธีใช้เฉพาะทาง สรรพคุณของสีผึ้งให้ผลทางเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น แต่หากนำไปใช้ในทางผิดศีลธรรมว่ากันว่าอานุภาพจะเสื่อมลง เจรจาต่อรอง ติดต่อธุรกิจต่างๆ ทวงหนี้สินเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ไปไหนมาไหนมีแต่คนทักคนรักนิยมชมชอบ
สร้างตามตำราขอมโบราณจากสมุดข่อยที่จารึกวิชาอาคมของหลวงปู่ใว้ โดยผู้จัดสร้างคือพระอาจารย์พิชัย รตนญาโน จัดทำในวันเสาร์ 5 ปีพ.ศ.2512 ส่วนผสมสำคัญคือเทียนชัย108 ว่านยา และไม้มงคลต่างๆ การหุงและกวนสีผึ้งต้องไปทำที่ทางสามแพร่ง โดยใช้ไม้มงคล 9 ชนิดเป็นไม้ฟืน และก้านไม้กวาดดอกหญ้าที่ยังไม่ได้ใช้จำนวนเจ็ดก้านเป็นไม้กวนสีผึ้ง พร้อมกับการสวดภาวนาพระคาถาตามตำราไปด้วยตลอดเวลาที่ทำ จนกระทั้งเกิดอุคนิมิตเห็นตัวอักขระที่สวดภาวนาปรากฏในสีผึ้งที่หุงจึงจะยุติการกวนสีผึ้ง
เสร็จแล้วนำเอาสีผึ้งที่หุงแล้วไปฝังใว้ที่ทางสามแพร่งที่ทำพิธี รอจนเกิดนิมิตฝันว่ามีคนมาบอกให้ไปขุด จึงจะไปขุดเอาสีผึ้งที่ฝังใว้ขึ้นมาได้ แล้วจึงนำไปให้หลวงปู่ประสิทธิเมอีกครั้ง จึงจะครบตามตำรับการทำสีผึ้งมหาเมตตา มหาเสน่ห์ของหลวงปู่
ใครเคยใช้พกติดตัว หรือติดกระเป๋า ไม่ต้องเอามาทาหรือสี ถ้าเป็นของเก่าแท้เดิมแล้วนั้น จะทราบถึงพุทธคุณได้เป็นอย่างดีว่าสุดยอดเพียงใด สำหรับท่านที่ชอบก็หามาใช้ดู คนใช้เท่านั้นจึงจะรู้เองให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี
" โยภาวนาภิมัณฑัสสะ ปูชังนิจจังกะโรติโส ลาภัง ยะสัง สุขาทีนิ สัพพะทาอะธิคัชชะตีติ นะโมพุทธายะ นะโมนะนะ " 3 จบ
(พระครูภาวนาภิมนฑ์) หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้ ที่ชั่วโมงนี้ดังระดับประเทศ
หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นพระอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน 25 พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมาก มีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้มาต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข
ขณะปลุกเสกงาน 25 พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝนให้ท่าน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด 2ไม่ออก พอนัด 3 ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆ แล้วเป่าๆ แค่นั้น
มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา
" ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขนั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงปู่สุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)
ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะ เรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯ ว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก " ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง”
ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงปู่สุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงปู่สุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ที่มีครบเครื่องเช่นเดียวกัน
|