ครูบาวิชัยยะ สิริวิชชโย (ครูบาวัดไม้ฮุง) จ.แม่ฮ่องสอน #เป็นเมตตามหาเสน่ห์อย่างยิ่ง #บรรดาลให้คนที่พกพามีแต่ความร่ำรวย
สีผึ้งพะยองคำครูบาไม้ฮุงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานของสีผึ้งพยองคำ อันดับหนึ่งของล้านนา ที่หายากและแพงค่ามากที่สุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยก็ว่าได้ อีกทั้งต่างก็เป็นที่หวงแหนของผู้ที่ได้ครอบครอง เพราะประสบการณ์ที่มากล้นเหลือคณานับนั้นเอง
หลายคนเอาไปใช้ได้ดิบได้ดีและมีประสบการณ์มากมายจนมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าหากใครได้ครอบครองแล้ว #ใช้ทางโชคลาภเงิuทoงค้ๅvายก็จะได้เป็นเศsษฐี แต่หากใช้ทาง #มหาเสu่ห์แล้วเอาสีผึ้งป้ายหญิงหรือชายใด #ก็จักได้ครอบครองหญิงหรือชายนั้นอย่างแน่นอนเช่นกัน
สีผึ้งพยองคำ...ครูบาวัดไม้ฮุง เครื่องรางบันดาลโชคลาภ บารมี ที่เลื่องลือในหมู่นักแสวงโชค คหบดี พ่อค้ๅ ตลอดถึงคนทุกชนชั้น เพราะว่าหากบุคคลใดได้มาไว้บูชาจะเจริญด้วยโภคทรัพย์ s่ำsวย ลาภยศ เงิuทoงนานาประการณ์ด้วยอิทธิคุณแห่ง"สีผึ้งพยองคำ"ของครูวัดไม้ฮุงนั่นเอง
สีผึ้งพยองคำท่านนั้นมีกรรมวิธีการสร้างกว่าจะสำเร็จต้องอาศัยสถานที่ถึงสามที่ หุงกันถึงสามครั้งเลย เมื่อแรกเริ่มท่านทำพิธีหุงต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถนัยว่าเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเป็นสถานที่เกิดใหม่ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จหนึ่งครั้ง
จากนั้นนำไปหุงตรงทางสามแพร่ง นัยว่าเป็นสถานที่คนมารวมกัน พูดคุยหัวเราะกัน เป็นสถานที่นัดพบกัน หุงจนกว่าจะมีคนมาถามว่า “ครูบาทำอะไร” ท่านก็จะตอบว่า “ทำยาวิเศษโอสถทิพย์” ที่บันดาลให้คนที่พกพามีความร่ำsวย เป็นมหาเสu่ห์อย่างยิ่ง ถึงจะสำเร็จอีกหนึ่งครั้ง
พิธีสุดท้ายที่ท่านทำพิธีคือท่านให้ลูกศิษย์ท่านสืบเสาะฟังข่าวว่ามีผู้หญิงตาeท้องกลม ที่เป็นลูกหัวสาวผู้ชาย(ลูกคนแรกผู้ชาย)ฝังไว้ป่าช้าไหนบ้าง เมื่อทราบแล้วท่านก็จะไปทำพิธีเซ่นสรวงบัดพลีแล้วให้ลูกศิษย์ท่านขุดนำศพผีตายท้องกลมนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ให้พร้อมทั้งผัดหน้าทาแป้งให้ศพนั้น แล้วให้ลูกศิษย์ท่านผู้เป็นชายพรหมจรรย์ มีหน้าตาหล่อเหลาดูดี มีอายุไม่เกิน20ปี เข้าไปโอบกอดศwนั้นจากข้างหลังแล้วนำขันสำริดที่บรรจุสีผึ้งนั้นวางบนมือผีนั้นโดยมีมือของผู้ชายคนนั้นซ้อนอยู่ อีกข้างก็ให้ถือไม้คนสีผึ้งโดยมีมือของผู้ชายนั้นซ้อนอยู่เช่นกัน
เมื่อเริ่มพิธีก็ให้ชายนั้นประคองมือศพนั้นคนสีผึ้งโดยมีท่านครูบายืนบริกรรมคาถาอยู่ข้างๆ สักพักก็ให้ชายคนนั้นปล่อยมือจากศwwีตาeท้องกลมนั้น ปล่อยให้wีนั้นคนสีผึ้งเองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เมื่อผีนั้นคนสีผึ้งไปพลางก็จะยกขึ้นพลาง นัยว่าจะซดสีผึ้งนั้นซึ่งเชื่อว่าเป็นยาโอสถทิพย์สุดวิเศษซึ่งถ้าwีนั้นซดสีผึ้งนั้นได้ก็จะกลายเป็นwีดิบอมตะยากแก่การปราบปราม เมื่อผีนั้นยกขึ้นจนใกล้ปากที่สุดก็จะแย่งเอาขันสีผึ้งจากมือผีนั้น แล้วก็สะกดให้กลับลงไปนอนในโลงอย่างเดิม เป็นอันเสร็จพิธีการสร้างสีผึ้งพะยองคำอันวิเศษสุดตามกรรมวิธีของท่าน
ตลอดชีวิตของท่านได้มีการสร้างอยู่ ๓ ครั้ง สีสรรค์วรรณะจึงต่างกันออกไป บางที่ปรากฏเม็ดพลอยเล็กๆหรือก้อนเงินเเท้อยู่ในตลับ เพื่อเป็นการบูชาหัวใจของสีผึ้ง สันนิษฐานว่าทำพิธีหุงสีผึ้งครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ มีวรรณะออกสีดำใสๆ มีกากยาหยาบๆ มีทองคำเปลวโบราณชิ้นใหญ่อยู่มากพอสมควร นับเป็นรุ่นสุดท้ายที่ท่านใด้ทำพิธีหุงสีผึ้งวิเศ ษนี้
|