ซอจีย์ ปางขี่นกฮูกบรมครูเทพนัตพม่าไทใหญ่ ซอจีย์ ปางขี่นกฮูก (ซีเกวี๊ยด)
ปางนี้บูชาเพื่อโชคลาภ ค้าขาย เมตตาครับ
บูชาติดบ้าน ติดร้าน หาผ้าขาวผ้าแดงรอง และโรยด้วยข้าวสาร บูชาดอกไม้
ซอจี หรือครู ซอคะยี ในตำนานกล่าวว่าท่านคือเทวดากลางหาว เหาะเหินเดินอากาศไปทั่วทิศทั้งสิบหรือที่ที่ไหนที่เงาพระมหาธาตุในเมืองม่านพาดผ่านไปถึงทั่วแผ่นดินม่าน(พม่า)ก็ไปได้ไกลขนาดนั้น นั่นเอง
ท่านคือผู้สอนเคล็ดลับวิชาให้แก่ท่านสะย่าหลายคน-ตน-รูป-องค์ เลยเชียวแหล่ะ
ซอคยี (Zawgyi) มีความหมายได้หลายประการ อาจหมายถึงคนทรง นักเล่นแร่แปรธาตุ นักมายากล นักเวทย์มนตร์ ฤษี โยคี หรือผู้วิเศษก็ได้ ซึ่งซอคยีมักจะเล่นไสยศาสตร์ เช่น ฝังเหล็กไหลหรือแร่ธาตุไว้ในร่างกายเพื่อให้มีอิทธิฤทธิ์เหนือคนธรรมดา ได้แก่ การเหาะเหินเดินอากาศ ดำดิน ดำน้ำได้ ซอคยีมักอาศัยอยู่ในป่า มีนิสัยร่าเริง รวมถึงยังชอบสมสู่กับนารีผล เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน ซอคยีมักจะบำเพ็ญตบะจนมีอิทธิฤทธิ์มาก มีอายุยืนผิดมนุษย์ทั่วไป ส่วนหนึ่งได้มาจากการกินสมุนไพรที่ได้จากภูเขาโปปา (ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ผีนัตหม่องทินเดและชเวนาเบอาศัยอยู่) และการปรุงยาสมุนไพรดังกล่าวจำเป็นต้องบริกรรมคาถากำกับ และจะต้องปรุงยาในช่วงเวลาที่เป็นมงคล
เมื่อกินยาวิเศษดังกล่าวแล้ว ซอคยีจะกลายเทพ นุ่งกางเกงและเสื้อคลุมสีแดง มีเครื่องประดับที่เป็นทอง สวมหมวกและรองเท้าสีแดง ถือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงการกลายเป็นเทพนี้ ซอคยีจะทิ้งร่างเดิมของตนที่จะกลายเป็นร่างคล้ายเด็กทารก มีสีทอง และมีกลิ่นหอมดั่งกล้วยหอมทั้งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากใครได้ร่างเดิมของซอคยี ก็จะกลายเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ แม้จะมีฤทธิ์ไม่มากเท่าซอคยี แต่ก็สามารถแคล้วคลาดจากอาวุธและของมีคมทุกชนิดได้
ซอคยี แท้จริงแล้ว มีมากมายนับไม่ถ้วน หลายท่านหลายกลุ่ม คล้ายกับเทวดากลางหาว หรือเทวดาเดินหน หรือวิทยาธร วิชาธร ของไทยนั้นเอง แต่จะมีเพียงแค่ตนหรือองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเป็นเสมือนผู้นำคณะ มีฤทธิ์มาก มีอำนาจ หรือที่เรียกกันในนามว่าวิชาโด นั่นเอง
ในพม่า มักจะปรากฏซอคยีในรูปของการแสดงต่างๆ เช่น การแสดงหุ่นกระบอก หรือระบำซอคยี
|