แสงนกคุ้ม หรือคตไข่นกคุ้ม ในสมัยโบราณมีเรื่องเล่าจากนิทานชาดกสมัยพุทธกาลว่า ในขณะที่พระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ไปออกไปบิณฑบาตรในหมู่บ้านชาวมคธ และเมื่อฉันท์เสร็จก็เสด็จไปตามทางก็พบไฟป่ากำลังโหมร้อนแรง ชาวบ้านต่างกลัวตายจึงพากันดับไฟกันอย่างชุลมุน ทันทีที่ไฟลามใกล้เข้ามาหาพระพุทธเจ้า อยู่ๆไฟก็ดับไปเองสร้างความประหลาดใจแก่ทุกคนในที่นั้น พระพุทธองค์จึงได้ตรัสถึงเหตุที่ไฟป่าได้ดับลงนั้นว่า ไม่ใช่อานุภาพของพระองค์แต่เป็นอานุภาพของคำสัตย์อธิฐานเมื่อครั้งที่เคยเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์เป็นลูกนกคุ้มต่างหาก
พระองค์เล่าว่าเมื่ออดีตที่เคยเสวยพระชาติเป็นลูกนกคุ้มที่เพิ่งฟักไข่ปีกหางยังไม่แข็งแรง วันนั้นได้เกิดไฟป่าลุกลามมาเกือบจะถึงรัง จึงรำลึกถึงคุณแห่งศีลและสัจจะแล้วกล่าวว่า "คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ความสัจ ความสะอาดและความเอ็นดูมีอยู่ในโลก ด้วยระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลายในปางก่อน อาศัยกำลังสัจจะ ขอทำสัจจะกิริยา" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า "ปีกของเรามีอยู่แต่ก็บินไม่ได้ เท้าทั้งสอง ของเรามีอยู่แต่ก็เดินไม่ได้ มารดาและบิดาออกไปหาอาหาร ดูก่อนไฟป่าท่านจงถอกกลับไปเสียเถิด" ทันใดนั้นเองไฟป่าก็ดับลงไปในทันที นับแต่นั้นมานกคุ้มจึงเป็นเสมือนคติความเชื่อว่ามีพลัง วิเศษป้องกันอัคคีภัยได้ และหลายครั้งที่เกิดไฟไหม้ทุ่งหญ้าลุกลามไปทั่วแต่แล้วเมื่อไฟมอดดับลงก็พบว่ามีรังของนกคุ้มอยู่ในกอหญ้าซึ่งก็ไม่ไหม้ไฟอีกด้วย
ส่วนแสงนกคุ้มหรือคดไข่นกคุ้มก็คือไข่ที่กลายเป็นหินนั่นเองเป็นของกายสิทธิ์อีกชนิดที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน มีอานุภาพสูงส่งทางด้านป้องกันอัคคีภัยกันฟ้าผ่า ป้องกันอันตรายได้รอบตัว เป็นของวิเศษดีครอบจักรวาลที่หวงแหนกันมาแต่โบราณกาล
ชิ้นนี้เก่าเดิมถักลวดเงินโบราณใช้มาแต่เดิม สนใจสอบถามได้ครับ...
|