ผ้ายันต์เขียนมือครูบาก๋ง วัดศรีมงคล อ.ท่าวังผา จ.น่าน ผืนนี้ขนาด18x18นิ้ว ใส่กรอบพร้อมแขวน เป็นผ้ายันต์ลายมือครูบาก๋ง ซึ่งต้องยอมรับว่าผ้ายันต์เขียนมือสายนี้ตั้งแต่ครูบาก๋งจนถึงลูกศิษย์ท่านและเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน การเขียนผ้ายันต์สายนี้ขึ้นชื่อถึงความสวยงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และตัวหนังสือก็สวย ผืนนี้การวางสเกลสวยมาก เขียนได้เป็นระเบียบ ดูแล้วสบายตา ในล้านนาถือว่าเป็นวัดต้นๆเรื่องเขียนยันต์ไม่เป็นสองรองใคร ยันต์ที่ปรากฏมีทั้งยันต์อิติปิโส108 ยันต์ราหู ยันต์พระเจ้า5พระองค์แต่ลงแบบพิสดาร ฯลฯ ปัจจุบันผ้ายันต์เขียนมือลายมือครูบาก๋งแทบจะไม่เห็น ผืนนี้ผืนล่าสุดที่เจอ สภาพสมบูรณ์ เช่าไปบูชาไม่ผิดหวังครับ
ปัจจุบันผ้ายันต์เขียนมือโบราณของครูบาดังๆหรือไม่รู้ที่ จะพบเห็นน้อยลงมากเพราะว่าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์หรือนักสะสมหมด แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่มีการอนุรักษ์ไว้ ช่วงหลังๆยิ่งผ้ายันต์ครูบาดังๆมีราคาก็เกิดการเขียนปลอมขึ้นมา ต้องดูให้ดีๆ ผ้ายันต์เขียนมือสวยๆสมบูรณ์ๆ ถ้าเจอแล้วราคาจับต้องได้ เช่าได้ก็เช่าไว้เถอะ ซื้อโอกาสไว้ จำนวนการสร้างก็น้อยแค่หลักสิบ ผ้ายันต์ยุคใหม่ๆไม่มีการมานั่งเขียนแล้ว ใช้วิธีการสกรีนหรือปั๊มอย่างเดียว น้อยมากที่จะมานั่งเขียนแบบนี้ ทำให้ผ้ายันต์ยุคใหม่ขาดความคลาสิกและมนต์เสน่ห์ของผ้ายันต์ไปครับ
ประวัติของท่านนั้น เดิมท่านชื่อว่า พรหมมา นามสกุล ไชยปาละ บิดาชื่อ นายธนะวงศ์ มารดาชื่อ นางอูบแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 เดือนเมษา 2445 ณ บ้านดอนมูล ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
การศึกษา
ครูบาท่านได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลบ้านดอนมูล จนจบชั้นปีที่ 3 และได้ศึกษาหนังสือไทยล้านนาและไทยกลางที่ วัดดอนมูล
บรรพชาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2459 แล้วอุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี แต่ท่านต้องไปคัดเลือกทหาร โดยครูบาท่านตั้งสัตย์ไว้ว่าถ้าคัดเลือกได้ทหารก็จะขอรับใช้ชาติตลอดไปแต่ถ้าไม่ได้คัดเลือกเป็นทหารก็จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุตลอดชีวิต แล้วท่านก็ไม่ได้รับคัดเลือกเป็นทหาร วันต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2466 ครูบาท่านจึงอุปสมบทที่วัดดอนมูล แล้วท่านก็ขอลาครูบาอาจารย์เพื่อจะเดินออกธุดงค์ตามป่าเขาโดยครูบาก๋งนั้นท่านเดินธุดงค์จากน่าน เชียงราย เชียงตุงแล้ววกกลับมาทางเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่แล้วปฏิบัติธรรมในป่าช้าถึง6ปี
ต่อมาทางคณะศรัทธาบ้านก๋งทราบข่าวว่าท่านมาธุดงค์แถวนี้จึงขอนินมต์ท่านมาประจำที่วัดบ้านก๋ง เพราะวัดบ้านก๋งนั้นไม่มีพระอยู่เลย เมื่อท่านมาอยู่ที่วัดนี้แล้ว ท่านก็ทำนุบำรุงศาสนา จนท่านได้รับการแต่งตั้งหลายอย่าง จนเป็นที่นับถือชาวบ้าน
เมื่อท่านอายุ 87 ปี ครูบาท่านเริ่มป่วยเพราะความชราภาพ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2532 ครูบาก๋งได้เรียกผู้ใกล้ชิดและลูกศิษย์ พร้อมทั้งสั่งไว้กับพระอาจารย์มนตรีไว้ว่าขอมอบสังขารไว้ที่วัดศีรมงคล(วัดบ้านก่ง )
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี2532 เวลา 01.30 น. ครูบาท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ เหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ท่านได้ทำไว้ รวมสิริอายุ 87 ปี 66 พรรษา
ประสบการณ์ครูบาก๋ง
วัตถุมงคลหรือเรื่องเล่าจากครูบาก๋งนั้นหลายคนอาจจะได้ยินได้ฟังมาบ้าง หรือบางคนไม่เคยได้ยินกิติศัพท์ของครูบาก๋งเลยว่าท่านมีประสบการณ์ด้านใดบ้าง วันนี้ทางร้านขอเล่าเรื่องเล็กๆเกี่ยวกับครูบาก๋งให้ท่านฟัง เรื่องแรกนั้นเกิดจากในสมัยก่อนที่น่านมีการสู้รบกันดุเดือด (ปี2510-2525) ตำรวจทหารที่มาก็จะมาขอของดีติดตัวจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่โด่งดังในยุคนั้นก็คือครูบาดอนตันที่ดังในเรื่องคงกะพัน หมู่ตำรวจทหารมักไปขอของดีท่านเสมอ และอีกครูบาหนึ่งก็คือครูบาก๋ง วัดบ้านก๋งซึ่งหลายๆคนไปเข้าใจครูบาก๋งเก่งเรื่องเมตตาเท่านั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หมู่ทหารมาที่วัดบ้านก๋งเพื่อมาหาครูบาก๋ง หนึ่งในนั้นถามครูบาก๋งว่า ครูบาก๋งเก่งเรื่องเมตตาแล้วเรื่องข่ามคงครูบาเก่งก่อ เมื่อครูบาก๋งได้ยินทหารถามท่านแบบนั้น ครูบาก๋งท่านไม่ตอบ แต่เสกใบพลู วางไว้ให้ทหารเอาปืนพกที่ติดตัวมาทดลองยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออกสักนัด ทุกคนต่างตกใจไม่คิดว่าครูบาท่านจะเก่งเรื่องเมตตาเท่านั้นเรื่องข่ามคงก็ถือว่าใช้ได้ เพราะสมัยก่อนหลายคนไปเข้าใจว่า "อยากได้เมตตาไปหาครูบาก๋ง อยากข่ามคงไปหาครูบาดอนตัน"
เรื่องที่สองครูบาก๋งท่านจะมีชื่อด้านเมตตา อยู่ครั้งหนึ่งเจ้าอาวาสวัดป่าไคร้ได้ไปหาครูบาก๋งพร้อมลูกศิษย์ที่ขับมอเตอร์ไซค์ไปให้ เมื่อไปถึงวัดบ้านเจ้าอาวาสก็ติดต่อธุระกับครูบาก๋งเสร็จ คนที่ขับรถมาส่งอยากจะรู้ว่าครูบาก๋งเก่งจริงมั้ย เลยถามครูบาก๋งว่า วันนี้หวยจะออกครูบาให้โชคให้ลาภลูกหลานหน่อยนุ ครูบาก๋งท่านหัวเราะ ท่านหยิบกระดาษมาเขียนตัวเลขแล้วพับไว้แล้วส่งให้ คนที่ขอเลขครูบาก๋งพอมาถึงวัดก็เปิดดูตัวเลข ในนั้นท่านให้เลข2ตัว 26 ไปซื้อหวยงวดนั้นก็ออกจริงๆ26 คนที่ขอเลขครูบาก๋งตอนนั้น ปัจจุบันเปิดร้านขายข้าวอยู่ติดตลาดสดท่าวังผา ร้านกุ๊กจบ ไปอุดหนุนได้
เรื่องที่สามครูบาก๋งแก้คุณไสย สมัยก่อนนั้นเรื่องทำคุณไสย ภาษาล้านเรียกว่าตู้กัน การทำคุณไสยใส่กันในยุคนั้นยังมีเพราะคนมีวิชาอาคมเยอะ มีชาวบ้านมีเรื่องทะเลาะกัน หนึ่งในนั้นได้ทำคุณไสยใส่คนในบ้านอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ไปทำถูกเด็กในบ้าน ทำให้เด็กร้องไห้ไม่หยุดอยู่หลายวัน จึงได้ไปหาครูบาก๋ง เมื่อไปถึงที่วัดบ้านก๋ง ครูบาก๋งท่านคงจะรู้ว่าเด็กคงถูกคุณไสยมา พอเด็กเห็นครูบาก๋งหยุดร้องทันที ครูบาก๋งท่านก็หยอกล้อกับเด็กโดยตีฉิ่งให้เด็กเล่น แล้วมาบอกพ่อของเด็กว่า เดี๋ยวให้กลับไปบ้าน ไอ้คนที่ทำคุณไสยเดี่ยวมันจะร้อนตัว อยู่ก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะมาหาที่บ้านเอง มันจะมาแก้คุณไสยให้เอง เมื่อพ่อของเด็กพาเด็กกลับบ้าน ยังไม่ทันขึ้นบ้าน มีผู้ชายที่ทำคุณไสยใส่ครอบครัวนี้ มาที่บ้านตามที่ครูบาก๋งบอกจริงๆ ผู้ที่ทำคุณไสยมาอาเจียนหน้าบ้านเหมือนกับว่าโดนคุณไสยกลับเข้าหาตัว
เรื่องที่สี่ครูบาก๋งปราบผีตะเคียน ในพื้นที่ต.ยมในสมัยก่อนมีไม้ตะเคียน ไม้ใหญ่ๆเยอะ มีช่วงหนึ่งที่มีต้นตะเคียนคู่ได้ถูกลมพายุหักโค่น ชาวบ้านจึงจะตัดเพื่อไม่ให้ขว้างลำน้ำ จึงได้ให้ชาวบ้านมาช่วยกันตัดแต่พอตกกลางคืนหลายๆคนอยู่ไม่ได้ ฝันถึงนางตะเคียนบ้าง บางคนถึงเป็นไข้บ้าง เมื่อชาวบ้านโดนแบบนั้นจึงไม่มีใครกล้าไปตัดต้นตะเคียนให้เสร็จ ต้องเดือดร้อนถึงครูบาก๋งให้มาช่วย ครูบาก๋งท่านจึงเสกคาถาลงตะปู3ดอก ให้ไปตีที่ต้นตะเคียน หลังจากนั้น3วันค่อยไปตัดต้นตะเคียนได้ เมื่อชาวบ้านได้ยินดังนั้นก็นำตะปูตีติดต้นตะเคียน หลังจากสามวันก็ได้ไปต้นต้นตะเคียน ปรากฏว่าไม่มีภูตผีมารบกวนเลย
เรื่องที่ห้าครูบาก๋งย้ายป่าช้า ในสัยก่อนการที่จะย้ายวัด ย้ายป่าช้า ตัดต้นโพธิ์เรื่องใหญ่โตมากเพราะว่าหากทำไม่ถูดต้องตามตำราหรือมีวิชาเก่งกล้า ผู้ที่ทำพิธีหรือผู้ที่เป็นผู้นำจะถึงขั้นเสียชีวิต พูดง่ายๆถ้าผู้ที่มาทำพิธีไม่เก่งจริง เดือดร้อนทั้งหมด ที่บ้านท่าวังผาต้องมีความจำเป็นต้องย้ายป่าช้าเนื่องจากบ้านเมืองเริ่มพัฒนา พื้นที่บางส่วนจะถูกใช้ทำกิจการร้านค้า จึงต้องย้ายป่าช้าไปที่ใหม่ ชาวบ้านตกลงกันไปหาครูบาดอนตันเพื่อจะทำพิธีให้ เมื่อไปถึงวัดดอนตัน ครูบาดอนตันชี้ไปทางวัดบ้านก๋ง ท่านบอกว่า ให้ไปหาครูบาก๋ง เพราะครูบาก๋งท่านเก่งเรื่องนี้ ชาวบ้านเลยต้องไปขอครูบาก๋งช่วยย้ายป่าช้าให้ เมื่อท่านมาทำพิธีย้ายป่าช้าอยู่นั้น ขณะทำพิธีเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะบริเวณที่ทำพิธีอยู่นั้นเกิดเมฆฝนลมแรงเฉพาะบริเวณพิธีเท่านั้น เมื่อครูบาก๋งทำพิธีต่อไปเรื่อยๆปรากฏกว่าท้องฟ้าเริ่มสว่างเมฆดำหายไปไม่มีลมพายุอีกเลย เมื่อย้ายป่าช้ามาที่ใหม่ก็ไม่เกิดอาเพศภัยแก่ชาวบ้านหรือผู้ที่เป็นผู้นำชุมชนเลยสักนิด
ทางสายวัดบ้านก๋งนั้นจะเห็นว่าจะเก่งเรื่องพิธีการท่องสวดที่ปัจจุบันพระนิกร ธัมรังสี วัดอาวาสองค์ปัจจุบันท่านสืบสายจากครูบาก๋ง ท่านจะเก่งในการท่องสวดและพิธีกรรมต่างๆดังจะเห็นว่า ในงานพิธีบวชพระประธาน งานสูตรถอนอาถรรพ์ พิธีกรมมต่างทางล้านนา มักจะมีท่านพระครูนิกรท่านเป็นแม่งานเสมอ ถึงท่านจะอายุไม่มากแต่ ทางร้านเคยเห็นท่านทำพิธีกรรมสูตรถอนอาถรรพ์ที่ทำถูกต้องตามตำราแล้วเกิดปราฎิหาร์ หากท่านเดินทางมาที่อ.ท่าวังผา ตรงสี่แยกไฟแดงหน้ารร.มัธยมท่าวังผา ถนนเส้นนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเส้นทางที่ถนนเป็นเส้นตรงแต่แปลกตรงที่ว่ามักเกิดอุบัติเหตุทำให้นร.หรือประชาชนเสียชีวิต โดยเฉพาะนร.จะเสียชีวิตแทบทุกปี เพราะทางร้านก็เรียนรร.นี้จึงรับรู้เรื่องราวนี้บ่อยๆ เมื่อหลายปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุตรงสี่แยกนี้ จะเพราะอาถรรพ์หรือเกิดจากถนนเส้นนี้เป็นเส้นตรงคนที่ขับรถอาจใช้ความเร็วจึงเกิดอุบัติหรือเหตุต่างๆ ได้มีนร.เสียชีวิตติดต่อกัน2คน ทางรร.เห็นว่าเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจจึงนิมนต์พระครูนิกร วัดศรีมงคลมาทำพิธีสูตรถอนอาถรรพ์โดยทำเป็นพิธีใหญ่ ปรกติมีคนตายก็จะเชิญพระประมาณแค่1รูปทำพิธีเรียกดวงวิญญาณ ครั้งนี้ทางรร.ได้ทำพิธีค่อนข้างใหญ่ เมื่อพระครูได้ทำพิธี ช่วงตอนนั้นน้องผู้ที่เสียชีวิตคนล่าสุดยังไม่ได้ไปฌาปนกิจศพ เมื่อพระครูท่านทำพิธีตั้งแต่เช้าจนเที่ยงเสร็จ ดวงวิญญาณของน้องได้เข้าร่างมารดา โดยบอกว่าหิวข้าว อยากกินแอ้ปเบิ้ลเพราะน้องชอบกันแอปเปิ้ล วิญญาณบอกให้ไปเอาลูกแอปเปิ้ลในตู้เย็น ที่น้องได้ซื้อไว้ก่อนตาย โดยอยู่ช่องล่างสุดของตู้เย็น เมื่อทางญาติๆได้ไปเปิดตู้เย็นไปหยิบแอปเปิ้ลตามที่ดวงวิญญาณบอก ก็ปรากฏว่าเจอลูกแอปเปิ้ลจริงๆ ซึ่งทางญาติไม่มีใครรู้ว่าแอปเปิ้ลที่น้องซื้อไว้ก่อนตายอยู่ตรงนั้น ช่วงเวลาที่น้องเสียชีวิตไปไหนไม่ได้ เมื่อพระครูท่านทำพิธีให้ ดวงวิญญาณสามารถหลุดพ้นจากตรงที่เสียชีวิตได้ และปัจจุบันบริเวณแถวๆนั้นยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่มีบ้างที่เหตุอุบัติแต่ไม่เสียชีวิต แบบตัวตายตัวแทน แสดงว่าท่านพระครูนิกรท่านอายุไม่มากแต่ทำตามขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ จนได้เห็นที่ผมเล่าไป
ครูบาก๋งนั้นโดยส่วนตัวผมแล้วผมชอบท่านหลายๆอย่างตั้งแต่การเขียนเลขยันต์ที่สวยงาม ถูกอักขระ เวลาครูบาก๋งท่านท่องสวดมนต์ต่างๆตามงานพิธีต่างๆ ท่านท่องเสียงดังฟังชัดฉะฉาน ไม่ตกหล่น ฟังแล้วเข้มขลังถือว่าเก่งมากๆในเรื่องนี้ ที่สำคัญคือท่านนับถือครูบาดอนตันมาก ท่านจึงอ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่คิดที่จะไปสร้างวัตถุมงคลแข่งครูบาดอนตันเลยดังจะเห็นได้จาก ช่วงปี2518จนครูบาดอนตันมรณะภาพปี2523 เป็นช่วงที่ครูบาดอนตันท่านโด่งดังมาก มีการสร้างวัตถุมงคลมากมายหลายรุ่นของครูบาดอนตัน แต่ครูบาก๋งท่านไม่ยอมสร้างวัตถุมงคลแข่งครูบาดอนตันเลย หลังจากที่ครูบาก๋งสร้างเหรียญระฆังหรือธนูไฟที่เรียกกันพร้อมผ้ายันต์ปี2518 ก็ไม่ได้สร้างอะไรอีกเลย จนครูบาดอนตันมรณะภาพ ซึ่งท่านให้ความเคารพครูบาดอนตันเป็นอย่างมาก จนท่านมาสร้างวัตถุมงคลขึ้นอีกครั้งเมื่อปี2526 เกือบ8ปี ที่ท่านไม่ยอมสร้างอะไรเลย ซึ่งรับยอมว่าครูบาก๋งท่านมีจิตเมตตาไม่คิดไปแข่งครูบาดอนตันเลยครับ
|