พระชัยฯสุจิตโต ปี 95
|
|
 
รายละเอียด :
| พระชัยวัฒน์สุจิตโต วัดบวร ปี2495 #เปียกทองเดิม หายากที่สุด พระสวย หล่อเต็มฟอร์ม
สร้างพร้อมพระชัยไพรีพินาศ โลหะเบ้าเดียวกัน ปลุกเสกพร้อมกัน
พระเทหล่อเป็นช่อ เข้าดินไทยแบบโบราณ ในซอกตะเข็บ หรือขอบข้างองค์พระยังเหลือดินเบ้าให้เห็นอยู่บ้าง วรรณะ (เนื้อใน) เป็นสีเหลืองอมขาว กระแส (ผิว) เป็นเหลืองอมเขียว พระผ่านการใช้ถูกสัมผัสมาบ้าง แต่ยังเหลือผิวไฟตามซอกๆ ไว้ให้พิจารณาถึงธรรมชาติของพระหล่อโบราณได้ องค์นี้หล่อออกมาได้หน้าตาคมชัด และสวยสมบูรณ์ จัดเป็นพระแท้ดูง่าย ถูกต้องทั้งพิมพ์ทรง และเนื้อหาครับ
พระชัยวัฒน์ สุจิตโต
ผู้สร้าง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ องค์พระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๖๔-๒๕๐๑ เป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง ๓๘ ปี
พระชัยวัฒน์สุจิตโต และพระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ ได้ถูกจัดสร้างในวาระเดียวกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๖ ตรงกับวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะเส็ง เวลา ๑๓.๕๒ น.
ณ.บริเวณอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
รายละเอียด – วรรณะ
พระชัยวัฒน์สุจิตโต นักสะสมพระเครื่องเรียกตามพระนามฉายาของ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ซึ่งนามฉายาของพระองค์ท่าน “สุจิตโต”
พุทธลักษณะ
พระชัยวัฒน์สุจิตโต รูปแบบเหมือนพระชัยวัฒน์ทั่วๆไป
พระเกศ เป็นแบบเกศปลีอยู่บนมุนโมลีอีกชั้นหนึ่ง ไม่ปรากฏเม็ดพระศก แต่ปรากฏกรอบไรพระศกเป็นเส้นนูนสูง
พระเนตร จะมีเม็ดนูนเด่นกลางเบ้าตา แต่บางองค์ก็ไม่มี
พระพักตร์ กลมป้อม คางสั้น เหมือนไม่มีลูกคาง ดูโดยรวมแล้วเหมือนพระพักตร์ของพระพุทธรูปไพรีพินาศมาก
สังฆาฏิ ด้านหน้าสั้นเสมอพระถัน ส่วนสังฆาฏิด้านหลังยาวจรดบัว
เป็นพระปางสมาธิ ประทับนั่งอยู่บนฐานบัวฟันหนู ๒ ชั้นแบบบัวรอบ ข้อพระบาทด้านขวา จะมีรอยขวั้นอยู่ ๒ รอย และยกเป็นรูปพระบาทนูนสูงอย่างเด่นชัด
วรรณะ
พระชัยวัฒน์สุจิตโต ใช้ทองชนวนเบ้าเดียวกันกับพระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ ฉะนั้นวรรณะจะมีลักษณะเดียวกันคือ เหลืองปนขาวเล็กน้อยไม่กลับดำ กระแสจะออกประกายทองสีเหลืองวาวสดใส แต่มีบางองค์กระแสออกเหลืองอมเขียว เพราะเกิดจากสภาพการเก็บรักษา หรือผ่านการใช้ถูกสัมผัสมาบ้าง
หมายเหตุ
ที่ระบุว่าพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ มิใช่ พ.ศ.๒๔๙๕ ตามที่บางท่านเข้าใจนั้น เพราะว่าเจตนาของผู้จัดสร้างต้องการฉลองชนมายุครบ ๘๐ พรรษาบริบูรณ์ (ในปี พ.ศ.๒๔๙๕) แต่พิธีการสร้างได้ดำเนินการมาถึง พ.ศ.๒๔๙๖ ดังจะขอคัดลอกข้อความในหนังสือ “ตำนานวัดบวรนิเวศวิหาร”
“อนึ่ง เมื่องานฉลองพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษาบริบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๕ ผ่านไปแล้ว ได้มีการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมาเพื่อเป็นฑีฆายุมหามงคล แด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็นพระพุทธปฏิมา หน้าพระเพลา ๓ คืบ หรือ ๑๐๐ ซ.ม. สูงตั้งแต่พระที่นั่งถึงพระจุฬา ๑๗๗ ซ.ม. พระรัศมี ๒๒ ซ.ม. ประกอบพิธีเททองหล่อเมื่อวันเสาร์ที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๖ และในพิธีเดียวกันได้จัดสร้างวัตถุมงคลพระไพรีพินาศ”
พระชัยวัฒน์ เป็นพระบูชาประจำตัว เพื่อคุ้มครองป้องกันอันตรายทั้งปวง และถือว่า “เป็นของสูง” แม้แต่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ บูชาพระชัยวัฒน์ประจำพระองค์เช่นกัน ดังปรากฏไว้ในจดหมายเหตุรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ในตอนหนึ่ง ขอสำเนาอัญเชิญว่าไว้ดังนี้.....
วันอังคารวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๒๘
ตื่นเช้าเก้าโมง แล้วแต่งตัวไปบน ทูลหม่อมบนยังไม่เสวย เสวยเสร็จแล้ว เสด็จออกพระที่นั่งจักรี ทรงผูกด้ายข้อมือ รดน้ำสังข์ เจิม เจ้าพี่ทั้งสี่องค์ แล้วจูงไปถวายเสด็จกรมพระปวเรศทรงผูกข้อมือ แล้วทูลหม่อมบนทรงกลักพระไชยวัฒน์ผูกพระศอ ประทานทั้งสี่องค์ฯ....ดังนี้ |
โทรศัพท์ :
056213229 , 0649929478
วันที่ :
22/03/24 15:18:31
|
 |
| |
| |
|
|
