|
พระเดี่ยวดำ เนื้อดินสีดำ พิมพ์บัวม้วนกรุโพนางดำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ขนาดองค์พระความกว้างของฐานประมาณ1.5 ซม. ความสูงจากฐานประมาณ 3.5 ซม. สภาพสวยสมบรูณ์ตามรูปทุกประการ เป็นพระที่มีศิลป์สวยงาม มีรายละเอียดสูง กรุนี้จะมีทั้งพิมพ์ฐานบัวสองชั้นคล้ายแบบของลพบุรี และพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์คือพิมพ์บัวม้วน ซึ่งค่อนข้างหายากเพราะขึ้นกรุในสภาพที่สมบูรณ์นั้นมีจำนวนน้อยมาก จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากของผู้นิยมและศรัทธาพระกรุพิมพ์นี้...พุทธคุณ เข้มขลังสุดยอดแห่งความแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีเป็นที่ปรากฏ ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในขุนศึกแห่งพระกรุเลยทีเดียว ประวัติการสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แตกกรุขึ้นหลายพื้นที่ ตั้งแต่ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี
ตามประวัติมีกำเนิดครั้งแรกที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีตำนานเล่าขานกันมาว่า เมื่อปี 2485 มีพรานล่าสัตว์ผู้หนึ่งได้เห็นเหยี่ยวแดงเกาะที่ต้นสำโรง ต้นหนึ่งในบริเวณ วัดใหญ่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จึงเล็งปืนหมายยิงเจ้าเหยี่ยวแดงตัวนั้น แต่ยิงเท่าไหร่เกิดกระสุนก็ขัดลำยิงไม่ออกทุกครั้ง จึงหันกระบอกปืนไปทางอื่นปรากฏว่ายิงออก พอหันไปทางต้นไม้ต้นนั้นอีกก็ยิงไม่ออกอีก เมื่อมองไปที่โคนต้นสำโรง เห็นว่ามีฐานเจดีย์เก่าอยู่องค์หนึ่ง จึงได้บอกเล่าต่อๆกันมา ในที่สุดก็ได้มีการขุดพระเจดีย์นั้น ปรากฏพบพระเครื่องขนาดเล็กจำนวนมากบรรจุอยู่ ดูจากเนื้อขององค์พระนับเป็นพระที่มีอายุเก่าแก่ยิ่ง มีพุทธลักษณะงดงาม มีสองสี คือสีดำและสีแดง จึงรู้สาเหตุที่ปืนยิงไม่ออกนั่นเอง ในครั้งนั้นจึงตั้งชื่อพระว่า "พระเหยี่ยวดำ เหยี่ยวแดง"ตามเหตุการณ์นั้นๆ แต่กาลเวลาต่อมา การเรียกชื่อผิดเพี้ยนไปเป็น เป็น "พระเดี่ยวดำ เดี่ยวแดง" นั่นเอง พระตระกูลเดี่ยวดำ เดี่ยวแดง ส่วนใหญ่ที่พบตามกรุแต่ละพื้นที่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดินเผา มีทั้งเนื้อละเอียดและหยาบ ส่วนใหญ่จะเรียกชื่อตามสีสันวรรณะแห่งองค์พระนั้นๆ ตามความร้อนที่ได้รับ ถ้าออกแดงก็เรียก เดี่ยวแดง ถ้าออกสีคล้ำก็เรียก เดี่ยวดำ แต่ก็ยังปรากฏพบเป็นสีอื่นๆก็มี เช่น สีพิกุลแห้งก็มี สีเหลืองออกมอยด์ ก็มี นอกจากนี้ยังพบเป็น พระเนื้อชินเงิน เนื้อตะกั่วสนิมแดง และเนื้อสัมฤทธ์ ก็มีในทุกกรุทุกพื้นที่ที่ขุดค้นพบ ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก สนใจโทรติดต่อสอบถามได้ครับ.
| 
