"พระหลวงพ่อจุก" เนื้อดิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นพระกรุ ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากกรุหนึ่ง ของ จ.นี้ เป็นที่หวงแหนของผู้ใช้บูชาเป็นอย่างมาก ประสบการณ์เล่าขาน ไม่แพ้ พระหูยานและพระร่วงหลังลายผ้าเลยทีเดียว  พระปรางค์องค์ใหญ่ของวัดพระศรี.ฯ นี้ สร้างขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 800 ปี แต่โดยรอบของพระปรางค์นี้ มีเจดีย์รายรอบอยู่หลายองค์ พระหลวงพ่อจุกนี้แตกกรุออกจากเจดีย์ที่รายล้อมพระปรางค์นี้ๆ คือเจดีย์จมดินองค์ที่สองนับจากเจดีย์พูมะเฟือง ในเจดีย์นี้ พบพระหลวงพ่อจุก พระแผงสามพี่น้องและพระแผงนารายณ์ทรงปืน รวมอยู่ด้วย ส่วนพระหลวงพ่อจุกอีกส่วนที่พบที่วิหารเก้าห้องนั้นไม่ได้อยู่ในกรุ แต่พบวางเรี่ยราดตามเสาโบสถ์ และที่พื้นที่เป็นทรายจะพบวางเรียงเป็นชั้นๆ และอีกส่วนที่พบที่วัดบันไดหิน ก็มีการขุดค้นพบเช่นกัน เพราะในอดีตนั้น วัดบันไดหินก็เป็นวัดในอาณาบริเวณเดียวกันกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเช่นกัน  เอกลักษณ์ของพระหลวงพ่อจุก  เป็นพระที่มีศิลปแบบปาละ หรืออินเดียองค์พระค่อนข้างเขื่อง ขนาดโดยประมาณ 3×6 นิ้ว.เหมาะสำหรับคนที่มีขนาดร่างกายที่สูงใหญ่.องค์พระนั่งปางสมาธิขัดราบ แบบครึ่งซีกรอบองค์ แลดูคล้ายกำลังเข้าฌาณ ด้านหลังแบบเรียบ หรือรอยปาดด้วยของมีคมหรือเป็นรอยมือก็มี หรือบางองค์จะมีรอยจารเปียกโบราณเป็นรูปยันต์เกือกม้า ประทับไว้ด้านหลังก็มี พระเกศจะขมวดเป็นจุก ซึ่งเป็นที่มาแห่งการขานชื่อ พระหลวงพ่อจุก นั่นเอง พระพักตร์อิ่มเอิบ จมูก ปาก ตา ค่อนข้างติดชัดเจน  พระกรรณ์(หู)จะยาวย้อยมาชิดไหล่ พระอุระ(อก)นั้นผึ่งผายน่าเกรงขามยิ่ง  พระหลวงพ่อจุกนั้นแตกกรุ ในหลายครั้งคลา ตั้งแต่ พ.ศ 2403 , ...2487,2491,2501,......2508..คาดว่าก่อนหน้านั้นอาจจะมีการแตกกรุมาก่อนเช่นกัน..ประสบการณ์..มีการทดลองยิง แต่ยิงไม่ออก..จนมีคำกล่าวเล่าขานว่า"ปืนไม่ดัง หนังไม่ถลอก ยอดๆๆ"สาระหรือข้อฉุกคิดสำคัญ อีกประการคือผู้ขุดค้นพบพระหลวงจุก และพระเครื่องต่างๆในเจดีย์สำคัญทางทิศตะวันตกขององค์พระปรางค์..พบแก้วแหวนเงินทองมากมาย มีทั้งแผ่นทองฉลุซึ่งมีน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม มีกำปั่นเงิน กำปั่นทอง ที่มีดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง สมัยอยุธยาบรรจุไว้ภายใน พระที่วางเรียงรายเป็นแถวล้อมรอบกำปั่นเหล่านั้น คือพระหลวงพ่อจุก อุปมาแสดงว่า พระนั้นมีดี ทางคุณคุ้มครองป้องกันภัย และในการค้นพบในครั้งนั้นเป็นที่น่าเสียดาย ว่ากันว่า มีแผ่นทองคำที่มีอักขระขอมโบราณ.ที่รวมกับแผ่นฉลุทองคำ ซึ่งในครั้งนั้นคนขุดได้นำไปขายให้ร้านทองใน จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ลพบุรี จนหมดสิ้นจึงทำให้ไม่ทราบว่าประวัติผู้ให้กำเหนิดพระกรุนี้..แท้จริงแล้ว..คือผู้ใด..?..

สนใจสอบถามได้ขอบพระคุณที่เมตตารับชม..ครับ.