ตะกรุดโทนครูบาสม วัดเมืองรามนั้นทางร้านเคยได้บอกว่าตะกรุดโทนของท่านนั้นลงยันต์ไว้หลายอย่าง หากเราจะเล่นหาแค่เพียงเป็นตะกรุดโทนของท่านก็พอ ก็คงจะมีปัญหาตรงที่ว่าเผื่อบางคนอยากได้แบบ12มหาชัย บางคนอยากได้เมตตา บางคนอยากได้มหาอุด เพราะนำไปใช้ไม่เหมือนกัน หากไม่รู้ว่าท่านจารอะไรลงไป เมื่อนำไปใช้ก็จะเกิดความไม่มั่นใจ ว่าพุทธคุณนั้นตรงที่เราต้องการหรือไม่ ดังนั้นทางร้านจึงจำเป็นต้องเช่าตะกรุดโทนครูบาสมหลายๆแบบมาศึกษา ลงทุนมาแกะดู(ถือว่าลงทุนไม่ใช่น้อยเพราะราคาตะกรุดแต่ละดอกก็แพงพอสมควร) เพื่อให้รู้ว่าตะกรุดแต่ละดอกน่าจะใช้ไปทางไหน
ตะกรุดโทนครูบาสมนั้น มีขนาดและเชือกที่พันตะกรุดต่างกัน สมัยก่อนหลายๆคนเชื่อว่าเป็นตะกรุดโทน12มหาชัยหมด แต่ทางร้านอยากศึกษาเพราะเป็นตะกรุดที่มีเอกลักษณ์ของท่านชัดเจน สามารถนำมาเช่าหาได้ แต่ว่าตะกรุดแต่ละดอกลงอะไรไว้นั้นต้องแกะศึกษา เพราะบางคนชอบเมตตา บางคนชอบมหาอุด บางคนชอบใช้กันภูตผี บางคนอยากได้ใช้กันได้ทุกทางหรือใช้ในการเดินทางเป็นต้นทางร้านจึงได้หาตะกรุดมาแกะศึกษา เท่าที่พบจะมียันต์ที่ท่านลงไว้อย่างน้อย4อย่างขึ้นไป ท่านคิดดูว่าดอกหนึ่งราคาเท่าไหร่ ที่ทางร้านลงทุนไปเช่ามาแกะรวมๆแล้วเป็นเงินก็หลายบาท จึงจะพอรู้ว่าเป็นตะกรุดชนิดไหนเพื่อให้ท่านได้ตะกรุดตามความต้องการในการนำไปใช้งาน การดูตะกรุดแต่ละอย่างดูยังงั้ยทางร้านไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นนข้อมูลที่ทางร้านต้องลงทุนไป
ภาพแรกเป็นตะกรุด12มหาชัย ครูบาสม วัดเมืองรามดอกนี้ยาว ...... นิ้ว ยันต์12มหาชัยหรือไชยสงครามนั้นมีทั้ง 8ลูก 12ลูก 20ลูก แต่ละอย่างก็ใช้สำหรับคนในระดับแตกต่างกันไป หากเป็นไพร่ คนสามัญชนใช้8ลูก สำหรับแม่ทัพนายกองใช้12ลูก 20ลูกใช้สำหรับเชื้อพระวงศ์หรือกษัติย์ ซึ่งยันต์นี้ถิอว่าเป็นยันต์เอกของเมืองน่านเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่คนรู้จักน้อยเนื่องจากว่าไม่ค่อยมีใครนำมาเผยแพร่ข้อมูล ดีที่ครูบาสมวัดเมืองรามได้นำยันต์นี้มาไว้ที่เหรียญของท่านและได้สร้างไว้ในตะกรุด โดยตะกรุด12มหาชัยครูบาสมนั้นสร้างขึ้น2แบบคือ แบบที่เป็นลูกๆ12ลูกนำมาเรียงต่อกัน12ดอกและนำมาเรียงเป็นคู่6คู่จำนวน12ดอก และที่เป็นตะกรุดโทน โดยนำยันต์ทั้ง12ลูกจารลงในแผ่นทองแดงแผ่นเดียว ซึ่งตะกรุดโทนของครูบาสมมีความยาวหลายขนาดและตะกรุดโทนแต่ละแบบก็มียันต์หลายอย่างที่ท่านลงไว้ แต่มีวิธีดูว่าตะกรุดโทนดอกไหนที่เป็น12มหาชัย จะมีวิธีการดูอยู่(ไม่ขอบอก) บางดอกดีหน่อยที่มีชื่อตะกรุดติดมาจากวัด แต่บางดอกดอกไม่มีก็ต้องลำบากว่าเป็นตะกรุดชนิดไหนของท่าน
ตะกรุด12มหาชัยดอกนี้ความายาว....นิ้ว สภาพสมบูรณ์ พันด้วยเชือกดำคาดเอว
ภาพที่สองตะกรุดโทนดอกนี้ความายาว......นิ้ว ใช้ในทางคงกะพันมหาอุด โดยท่านได้จารอักขระล้อมพระพุทธเจ้าไว้ว่า " รัตนังปุระโตอะสิ นะ อุดนะอัตนะ..........สันตะรังโก๋อ่ะ โม อุดนะอัตนะ..........สันตะรังโก๋อะ พุทธ อุดนะอัตนะ.........สันตะรังโก๋อะ ธา อุดนะอัตนะ..........สันตะรังโก๋อะ ยะ อุดนะอัตนะ..........สันตะรังโก๋อะ นะโม........นะมะพะธะจะพะกัสสะ อุธงปะจะอะอะนะระสะธงสะนะ..........
ภาพที่สามตะกรุดโทนครูบาสมดอกนี้ความยาว.......นิ้ว ตะกรุดโทนของท่านเท่าที่ทราบกันว่า ท่านลงยันต์ไว้หลายอย่าง แต่จะดูยังงัยทางร้านไม่ขอพูดถึง สำหรับดอกนี้เป็นตะกรุดพระพุทธเจ้าประสานบาตร ตรงกลางลงอักขระเลขล้านนาใช้ในทางโภคทรัพย์ ตรงสี่ด้านลงคาถาพระเจ้าประสานบาตร บทเมตตา บทข่ามคงกำกับ4มุม อิติปิจัตตาโร ฯ เอโก๋อธิฐานหิ ฯ อะโอฏโอฏอะถุโรโยยิโยฯ ติมะนุส....มะอะอุ
ใช้ทางกันภัย ป้องกันตัว ข่ามคง เมตตา บทคาถาพระเจ้าสานบาตรพุทธคุณแรงมาก ฯ
ตะกรุดดอกนี้สภาพสมบูรณ์พันเชือกไนลอนสีเหลืองเชือกคาดเอวสีเหลืองครับ
ช่วงนี้ทางร้านไม่ค่อยได้ตะกรุดครูบาดอนตันเหมือนแต่ก่อน จึงหาตะกรุดสายครูบาสมเข้าร้านแทนเพราะว่าตะกรุดท่านยังพอหาได้และยังไม่มีของเก๊ เอกลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน แล้วครูบาสมนั้นท่านเป็นเกจิที่เก่งท่านหนึ่งของน่านในยุค2520กว่าๆ หลายครั้งที่ร้านได้ยินจากปากพรรคพวกหรือลูกศิษย์ของท่านที่เคยอยู่กับครูบาสม พูดถึงประสบการณ์ต่างๆนาๆเช่น
ครูบาสมลองวิชาหุงสีผึ้งผีหุงโดยท่านกับลูกศิษย์อีหนึ่งคน ได้ไปทำพิธีหุงสีผึ้งทางสามแพร่ง โดยขณะที่ท่านบริกรรมคาถาเพื่อเรียกผีมาหุงสีผึ้งให้นั้น เมื่อท่านบริกรรมคาถาก็มีผีทางสามแพร่งวิ่งมาแล้วหายตรงที่หุงสีผึ้ง โดยลูกศิษย์ท่านเห็นดังนั้นจะลุกวิ่งเพราะความกลัว ครูบาสมท่านจึงเอามือกดขาให้นั่งลงแล้วบอกว่าจะเอาสีผึ้งมั้ย ลูกศิษย์ท่านถึงนั่งลง เมื่อท่านทำพิธีให้ผีหุงสีผึ้งให้นั้น เมื่อเสร็จท่านได้ให้สีผึ้งลูกศิษย์คนที่ไปด้วยนิดหน่่อย ที่เหลือท่านเห็นว่าสำเร็จวิชาแล้วจึงเอาสีผึ้งที่เหลือลอยน้ำไม่ได้ให้ใครเพราะท่านไม่ต้องการให้คนเอาไปใช้ในทางที่ผิด ท่านเรียนเพื่อให้รู้วิชาเท่านั้น การหุงสีผึ้งของท่านนั้นหุงในเปลือกไข่ โดยใช้ก้อนหินทำฐาน เอาสีผึ้งใส่เปลือกไข่แล้วเรียกผีมาหุงให้ ทำพีธีบนทางสามแพร่ง
ครูบาสมไล่ผีขว้างบ้าน อันนี้เนื่องจากชาวบ้านสมัยก่อนมีเรื่องทะเลาะกัน จึงใช้วิชาจ้างผีขว้างบ้าน วิชานี้มีอยู่จริง จากที่ทางร้านสอบถามอาจารย์ เป็นวิชาสายต่ำ โดยว่าจ้างให้ผีไปก่อความรำคาญ โดยไปข้วางบ้านศัตรูไม่ให้อยู่เป็นสุข โดนกลางคืนเหมือนมีคนเอาก้อนหินมาขว้างหลังคาบ้านฝาบ้านแต่ไม่มีก้อนหินตกหรือหล่นเลย ทำให้เวลานอนอยู่ไม่เป็นสุข เจ้าของบ้านจึงไปปรึกษาครูบาสม ครูบาสมท่านได้เสกวัวธนูให้ไปเฝ้าบ้าน แต่เอาไปใชช้ไม่ได้ผลเพราะ เวลาได้ยินข้วางฝาบ้านทางนี้ วัวธนูก็วิ่งไปทางที่มีเสียง แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงขว้างบ้านอีกที่ วัวธนูก็วิ่งตามไปก็หายไปอีก ดังนั้นครูบาสมท่านจึงได้ทำตะกรุดขึ้นมาดอกแล้วเอาแหนบหลังคาบ้าน นับแต่นั้นไม่ได้ยินเสียงว่ามามาขว้างบ้านอีกเลย น่าจะเป็นตะกรุดมหากำบังจึงทำให้ผีมองไม่เห็นบ้าน
ครูบาสมท่านมีดีอีกอย่างคือ ตะกรุดหนังควายหลูบครั่ง จากที่ได้ยินมาท่านได้สร้างไว้สมัยท่านยังหนุ่มๆ แล้วจนท.ตำรวจได้จับพวกค้ายาเสพติด เกิดการยิงกันขึ้น แต่ผู้ค้ายามีอยู่คนหนึ่งที่ยิงแล้วไม่เป็นอะไร คราวหลังจับได้ ค้นในตัวตรงเอว เอาตะกรุดมัดขอบกางเกงไว้ เป็นตะกรุดหนังควายหลูบครั่งของครูบาสม
ครูบาสมท่านเรียนวิชากุมภัณฑ์ ช่วงที่ท่านเรียนวิชาต่างๆหนึ่งในนั้นมีวิชาสายกุมภัณฑ์ ที่ท่านสำเร็จวิชานี้แล้วสุดท้ายต้องหาคนเอาวิชานี้ออกจากตัวท่าน เนื่องจากว่าวิชานี้เมื่อเรียนไปตัวกุมภัณฑ์จะเข้ามาอาศัยในตัวเรา ดังที่ปรากฏตัวกับครูบาสม โดยวันหนึ่งท่านได้จำวัดในกุฎิของท่าน พอดีมีญาติโยมมาหาท่านที่วัด ตัวกุมภัณฑ์แปลงกายมาเป็นตัวครูบาสมท่าน มาพูดคุยกับญาติโยมที่มาหาแทนตัวท่าน โดยตัวท่านไม่รู้เรื่อง พอวันหลังชาวบ้านที่มาหาวันนั้นได้ทักถามครูบาสม แล้วพูดว่าวันนั้นก็มาหาครุบาสม นั่งคุยกันนานสองนาน เมื่อครูบาสมได้ยินดังนั้น ท่านรู้ตัวเลยว่าวิชากุมภัณฑ์มาครอบตัวท่านแล้ว สามารถแปลงกายเป็นท่านได้ ท่านจึงได้หาหมอฆราวาสมาถอดเอาวิชานี้ออกจากตัวท่านให้
ที่ทางร้านได้เขียนมานี้ได้ยินได้ฟังจากพรคคพวกและผู้ที่เคยเป้นลูกศิษญ์ท่าน ส่วนท่านจะเชื่อหรือไม่นั้นสุดแต่ท่านนะครับ เพียงทางร้านจะให้รู้ว่าประสบการณ์ตัวครูบาสมเองท่านเก่ง แต่ไม่รู้ว่าท่านมีดีอะไรบ้างเลยนำมาเล่าให้ท่านฟังนะครับ
|