พระกริ่งวัดสุทัศนเทพวรารามที่สืบสานตำราการสร้างต่อมาอีกรุ่นหนึ่งที่น่า สนใจมิน้อยทีเดียว เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวิสุทธาจารย์ ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น
พระกริ่งหลังปิ มีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีขนาดความสูง 3.2 เซนติเมตร ฐานกว้าง 1.9 เซนติเมตร ฐานบัวมี 7 คู่ ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมา มีจำนวนสร้างมากถึง 10,000 องค์ ประกอบพิธีเททองและพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
มีพระเกจิอาจารย์ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาว มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย โค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี และรอยจารที่ฐานชั้นล่างเกือบจะทุกองค์ด้วย
การสร้างพระกริ่ง หลังปิ ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี เพื่อแยกความแตกต่างพระซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระ มงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) เมื่อประกอบพิธีเททองพระกริ่งเสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม)ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระ คณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์รวมทั้งหลวงปู่ ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วย เป็นเวลาทั้งสิ้นปีเต็ม แล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวันที่ ๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘เป็นเวลาสามวันสามคืน
โดยมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้านั่งปรกปลุกเสกจำนวนกว่า ๔๐ รูป อาทิเช่น
๒.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
๕.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
๗.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ
๘.หลวงพ่อถิร์ วัดป่าเลไลยก์
๙.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
๑๑.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
๑๒.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
๑๖.หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน
๑๗.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต
๑๘.หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์
๑๙.หลวงปู่นาค วัดระฆัง ฯลฯ เป็นต้น
|