พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ

พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4


พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4


พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4


พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4

รายการเด่น โชว์ กลับหน้าร้าน
ชื่อพระ :
 พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4
รายละเอียด :
 

   สายเหนียวไม่ควรพลาดครับกับ พระปิดตาหลวงปู่จัน วัดโมลี1ในเบญจภาคีพระปิดตาอันเลื่องลือของเมืองไทยหรือที่เราคุ้นหูกันในนาม"ปิดตาแร่บางไผ่" พระปิดตาแร่บางไผ่นั้นขึ้นโดยหลวงปู่จัน วัดใหม่สุวรรณโมลี สำหรับประวัติของท่านนั้นไม่มีใครทราบแน่ชัด มีก็แต่เพียงตำนานเล่าขานกันว่าท่านเป็นพระธุดงชาวเขมรและมาพักกลดอยู่ที่วัดแห่งนี้ หลวงปู่จันท่านเป็นพระยุคเก่าที่แก่กล้าวิชาอาคมเป็นอย่างสูงอีกทั้งท่านยังชอบเล่นแร่แปลธาตุ ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มที่มีวิชาอาคมในยุคนั้น ซึ่งหลวงปู่จันท่านนี้นั่งสมาธิเข้าฌาณและรู้ว่าที่ตำบลบางไผ่นั้นมีแร่เหล็กชนิดหนึ่งซึ่งเป็นแร่ที่มีชีวิตและมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวหรือเทียบพอ ๆ กับเหล็กไหลได้เลย จากนั้นท่านก็ดูฤกษ์ยามจนเหมาะสมและก็นัดแนะให้ลูกศิษย์ของท่านให้จัดเตรียมเรือและอุปกรณ์เพื่อที่จะไปจับหรือขุดแร่ชนิดนี้ แต่เมื่อไปถึงท่านก็บอกกับลูกศิษย์ว่า"เรามาไม่ทันแล้วแร่พวกนี้มันมีชีวิตและมันไหวตัวทันหนี้ไปก่อนแล้ว เหลือทิ้งไว้ก็แต่เพียงขี้แร่" และท่านก็พูดต่อว่าได้ขี้ของมันก็ยังดี เดียวเอาไปเพาะเลี้ยงที่วัดก็ใช้ได้ ท่านจึงขนขี้แร่เหล่านั้นกลับไปที่วัดของท่าน และเขาขี้แร่ใส่ไว้ในโอ่งเลี้ยงด้วยน้ำคาวปลาจนแร่พวกนั้นเจริญเติบโตจนสามารถใช้การได้ จากนั้นท่านจึงนำมาแร่เหล็กเหล่านั้นมาถลุงเพื่อสร้างพระปิดตาของท่าน ส่วนกรรมวิธีการสร้างนั้นท่านจะปั้นหุ่นเทียนขึ้นที่ล่ะองค์ และทำการเทแบบหล่อโบราณ ซึ่งกว่าจะสร้างได้แต่ล่ะองค์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทำให้พระปิดตาของท่านนั้นมีจำนวนไม่มากอาจจะแค่หลักร้อยหรือไม่เกินหลักพันต้น ๆ (ตำบลบางไผ่ที่หลวงปู่จันท่านไปจับแร่นั้น ในปัจจุบันก็คือบริเวณ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีครับ) วัตถุมงคลและพระเครื่องของท่านสร้างในราวประมาณปีพ.ศ.2420-2436 ครับ โด่งดังในยุคต้น ๆ นั้นก็ในเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสในเหตุการณ์ ร.ศ.112 ที่ปากน้ำสมุทรปราการ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ไทยเราต้อเสียดินแดนไปหลายส่วน ครั้งนั้นคนนนท์ซึ่งไปประจำการณ์อยู่ที่ป้อมพระจุลฯต่างก็ห้อยพระปิดตาแร่บางไผ่กันเกือบทุกคน ต่างก็ประสบเหตุการณ์เกี่ยวกับพระปิดตาแร่บางไผ่ทางด้านคงกระพันชาตรีจนเป็นที่ ประจักษ์แก่สายตาผู้ที่พบเห็นในขณะนั้น และหลังจากเหตุการณ์ร.ศ.112 สงบลงผู้คนที่ทราบข่าวเรื่องอานุภาพของพระปิดตาแร่บางไผ่ต่างก็แห่มาหาหลวงปู่จัน วัดโมลีกันอย่างล้นหลาม บ้างก็มาขอพระปิดตา บ้างก็มาขอเครื่องรางของขลังหรือไม่ก็ให้ท่านรดน้ำมนต์ให้ครับ และที่โด่งดังของหลวงปู่จัน วัดโมลีอีกอย่างหนึ่งก็คือน้ำมันจันหรือน้ำมันงาซึ่งท่านจะใช้แช่พระปิดตา เนื้อแร่ของท่านเพื่อไม่ให้มันกินตัว คนโบราณส่วนมากถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่พกพระปิดตาของทานออกไป เพียงแค่เอาน้ำมันของท่านจุ่มสำลีและเสยผมก็เป็นคงกระพันแล้ว มีตำนานเล่าว่าเวลาชนไก่หรือตีไก่กัน ถ้ารู้ว่าคู่ต่อสู้ทาน้ำมันแร่บางไผ่ของหลวงปู่จัน วัดโมลีมาจะไม่มีใครยอมลงตีด้วยเลย เพราะไก่ตัวนั้นจะเป็นคงกระพันและหนังเหนียวมาก ๆ คมปากของคู่ต่อสู้ไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ได้เลย สำหรับพระปิดตาแร่บางไผ่นั้นถือว่าเป็น 1 ในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะที่หายากมาก ๆ และหลวงปู่จัน วัดโมลีท่านนี้ยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทับ วัดทองซึ่งสนนราคาค่าเช่าหากันถึงหลักล้าน ขนาดหลวงพ่อทับ วัดทองท่านยังต้องผสมแร่บางไผ่เพื่อเป็นฉนวนในการหล่อพระปิดตาของท่านทุกองค์ พระปิดตาแร่บางไผ่ถือว่าเป็นพระที่หายากมาก ๆ และมีการนิยมเช่าหากันมานานตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และในช่วงราวปีพ.ศ.2490-2500ต้น ๆ นั้นเป็นช่วงที่พระปิดตาแร่บางไผ่ HOTสุดขีด ถึงขนาดที่ว่าเอาสมเด็จวัดระฆังมาแลกยังไม่ยอมเลยครับ แต่มาถึงในยุคปัจจุบันพระปิดตาแร่บางไผ่หายากขึ้น มีหมุนเวียนในวงการเป็นจำนวนน้อย ทำให้เซียนพระรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้เห็นของเลยไม่ค่อยมีคนดูเป็นกันทำให้หาคนที่เป็นจริง ๆ นั้นยากมาก ๆ ในวงการพระนั้นของแท้ ๆ นั้นนับองค์ได้เลยครับ สำหรับพุทธคุณของพระปิดตาแร่บางไผ่นั้นจะโดเด่นมาก ๆ ทางด้างมหาอุตและคงกระพันชาตรีครับ ท่านเคยสั่งกับลูกศิษย์ของท่านไว้ว่า"ถ้าหากถึงยามขับขันจวนตัวประเภทแบบ 10 รุม 1 ให้กลืนพระของท่านไปเลยแล้วจะสามารถล่องหนหายตัวแหวกวงล้อมนั้นมาได้" ส่วนเวลากลืนพระของเข้าไปแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรให้พระออกมาได้ท่านก็บอกว่า ก่อนนอนให้นำผ้าขาวมาปูที่หมอน จุดธูปเทียนพร้อมดอกไม้และให้ระรึกถึง ท่านตอนเช้ามาจะเจอพระปิดตาของท่านจะ ออกมาที่ข้าง ๆ หมอนเองอย่างอัศจรรย์ ท่านพูดว่าพระของท่านไม่ออกทางทวารหนักอยู่แล้ว เพราะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริงไม่ใช่นิทานหรอกเด็ก เนื่องจากผู้คนต่างเล่าขานกันมาช้านานเป็น ร้อย ๆ ปีครับ  สำหรับค่านิยมในปัจจุบันก็ประมาณหลักแสนถึงล้านกว่าบาทหรือแล้วแต่สภาพ พระปิดตาแร่บางไผ่ สามารถแยกพิมพ์ออกได้คร่าวๆ ดังนี้ 1.พิมพ์หมวกแก๊ป 2.พิมพ์เศียรตัด 3.พิมพ์เศียรโต 4.พิมพ์ทองหยอด 5.พิมพ์ปิดตาไม่โยงกัน นอกจากนี้ก็ยังมีพระพิมพ์อื่นๆอีกบ้างที่ไม่ได้เป็นแบบพิมพ์พระปิดตาก็มี ในยุคที่นวนิยายเรื่อง เพชรพระอุมา ซึ่งเขียนโดยพนมเทียน กำลังโด่งดังทั่วเมืองไทยในราว ๔๐ ปีที่แล้ว ใครที่ติดตามเรื่องนี้อาจจะจำได้ว่า ตอนหนึ่ง รพิน ไพรวัลย์ จอมพรานตัวเอกของเรื่อง หนีรอดไฟป่ามาได้ทั้งๆที่ถูกกิ่งไม่หล่นใส่ถึงขนาดเสื้อผ้าไหม้ แต่ผิวหนังมิได้ระคายเคืองเชิดวุธได้กระซิบถามว่าเขามีอะไรดี รพินทร์เอาพระแร่บางไผ่ ที่สวมอยู่ในคอออกมาให้ดู บอกว่าพระแร่บางไผ่นี้มีอานุภาพหลายด้าน นอกจากแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และมหาอุตม์แล้ว เวลาเดินป่าถ้าหากต้องอดน้ำเพราะหาแหล่งน้ำไม่ได้จริงๆ ให้ เอาพระปิดตาแร่บางไผ่อมไว้ในปากจะทำให้ชุ่มชื้นสามารถอดน้ำได้เป็นวันๆโดยไม่กระหายน้ำเลยนั่นเป็นเครื่องยืนยันว่าพระปิดตาแร่บางไผ่มีชื่อเสียงมานาน และเป็นที่ใฝ่ฝันของนักนิยมพระในยุคเก่า ที่จะต้องมีไว้สักองค์หนึ่ง แต่เชื่อว่านักนิยมพระเครื่องในปัจจุบันอาจจะไม่รู้ประวัติความเป็นมาของพระปิดตาแร่บางไผ่ มากนัก ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ได้พบเห็นพระปิดตาแร่บางไผ่แท้ๆนั้นแทบจะนับคนได้ พระแร่บางไผ่ จึงกลายเป็นตำนานแห่งพระปิดตาไปอีกองค์หนึ่งครับ พระองค์นี้การันตีโดยติดที่4งานสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย ท่านใดชอบรับรองไม่ผิดหวังอาราถนาขึ้นคอสบายใจได้เลยครับ ถือได้ว่าได้ครอบครองพระปิดตาที่หาได้ยากมากๆองค์หนึ่งเลยครับ id:line 0841768363

 

ราคา :
 โทรเลยครับ
โทรศัพท์ :
 0628914244, 0628914244
วันที่ :
 27/12/17 10:16:35
 
 
พระปิดตาแร่บางไผ่หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่4 พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.