หลวงตาหงำนั้น ท่านเป็นศิษย์สายวัดปากคลองฯยุคเก่าที่ทันองค์หลวงปู่ศุข ไม่ใช่หลานศิษย์ เหลนศิษย์อย่างเช่นทุกวันนี้ และสันนิษฐานว่าหลวงปู่ศุขน่าจะเป็นพระอุปัฌชาย์บวชให้ท่าน ท่านบวชอยู่ได้ระยะหนึ่งก็ลาสิกขาบทไป และกลับมาบวชใหม่อีกครั้งหลังจากที่หลวงปู่ศุขมรณะภาพแล้ว ท่านอยู่วัดปากคลองฯมาเนิ่นนาน แต่ท่านไม่ยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาส รับแต่รักษาการไว้เท่านั้น หลวงตาหงำเป็นพระที่ชาวบ้านโดยเฉพาะชาวตลาดวัดสิงห์ ให้ความเคารพนับถือกันถ้วนหน้า ท่านใช้วิชาความรู้ของท่านช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ ความเป็นอยู่ของท่านเป็นไปอย่างสมถะเรียบง่ายและไม่ชอบโอ้อวดสรรพคุณ แต่อาจจะมีความประพฤติที่เป็นไปในทางโลกวัชชะบ้าง นั่นก็คือการดูดฝิ่นของท่าน แต่สำหรับชาวบ้านเองไม่ได้ถือสาหาความท่านแต่อย่างไร เพราะท่านไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด มิหนำซ้ำยังเป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาววัดสิงห์แทบจะไม่เว้นหลังคาเรือน ถึงกระนั้นกฎหมายก็มิได้รับฟัง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ทางบ้านเมืองหรือคณะพระสังฆาธิการก็ไม่สามารถเอาผิดกับท่านได้ ท่านสามารถทำฝิ่นให้เป็นใบชาได้ในพริบตาด้วยอำนาจจิตของท่าน คล้ายๆกับเรื่องราวของหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ จังหวัดอุทัยธานี
ในด้านวัตถุมงคลนั้นมีพระพิมพ์สี่เหลี่ยมประภามณฑลพิมพ์หนึ่งที่จัดสร้างในขณะที่ท่านทั้ง ๒ ยังมีชีวิตอยู่ จากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยช่วยเทพระพิมพ์นี้ จัดสร้างขึ้นราวๆปี ๒๕๐๐ ต้นๆ โดยจะเห็นได้ว่า พระพิมพ์รุ่นไฟลวกมือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่จัดสร้างตั้งแต่อยู่วัดปากคลองฯเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘ ก็มีศิลปะและวิวัฒนาการไปจากพระพิมพ์รุ่นนี้ ซึ่งมักจะรู้จักกันดีในนาม “พระหลวงตาหงำ” มีด้วยกัน 2 เนื้อคือเนื้อชินเงินและเนื้อชินเขียวณเรื่องพุทธคุณนั้นเอกอุตามแบบหลวงปู่ศุข ครับ
|