ความเกี่ยวข้องท่านเจ้าคุณฯกับวัดเขาพระงาม
วัดเขาพระงามเดิมเป็นวัดร้างสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน เป็นวัดที่สำคัญเก่าแก่วัดหนึ่งของเมืองลพบุรี มีหลักฐานทางโบราณสำคัญมากมาย อาทิ พระพุทธไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำพญามังกรสร้างด้วยศิลาแลงโบราณ ซากฐานพระสถูปเจดีย์เก่าบนยอดเขา ซากกำแพงเก่าที่ปรากฏบริเวณเชิงเขา ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาในราว พ.ศ. ๑๑๐๐
เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๕ พระอุบาลีคุณูปรมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ กับพระครูปลัดอ่ำภัทราวุโธ และพระทา ได้ธุดงค์มาพักในถ้ำเขาพระงาม ได้เห็นสถานที่ดีพระครูปลัดอ่ำจึงได้ไปขออนุญาตท่านเจ้าคุณออกไปพักเพื่อหาความวิเวกส่วนตัวนอกถ้ำ ท่านเจ้าคุณอนุญาต ช่วงต่อมาพระครูปลัดอ่ำได้ไปส่งท่านเจ้าคุณสิริจันโทกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยให้พระทารออยู่ในถ้ำ เมื่อส่งเจ้าคุณแล้วกลับมาที่ถ้ำพระครูปลัดอ่ำได้พบพระสังกิจโจ (ลำเจียก) มาจำพรรษาอยู่ที่เขาพระงามด้วย จึงได้เริ่มก่อสร้างถาวรวัตถุขึ้น โดยมีพระยาสมบัตยาบาล (ทรัพย์) ได้ร่วมปฏิสังขรณ์ถ้ำถวาย คือ ก่อฝาผนังด้วยศิลาถือปูนซีเมนต์มีประตู ๑ ช่องหน้าต่าง ๔ ช่อง เทลาดพื้นด้วยซีเมนต์ และปฏิสังขรณ์พระพุทธไสยาสน์ในถ้ำด้วย สิ้นเงินไปกว่า ๑,๓๐๐ บาท และได้จารึกหน้าถ้ำว่า “ถ้ำภัทราวุโธ ร.ศ.๑๐๓” ตามนามของพระครูปลัดอ่ำภัทราวุโธ
ในการปฏิสังขรณ์ถ้ำแต่ยังเหลือปูนซีเมนต์อีก ๓ ถัง ท่านพระครูปลัดจึงได้หารือกับจีนผู้เป็นนายช่างว่าจะเก็บพระพุทธรูปที่อยู่ ในถ้ำซึ่งหักพังรวมกันก่อเป็นพระสังกัจจายน์ช่างจีนก็รับว่าจะทำได้ ท่านจึงมีหนังสือไปหารือท่านเจ้าคุณทางกรุงเทพฯ ถึงเรื่องนี้ท่านเจ้าคุณได้ตอบว่าเธอจะคิดทำก็ควรแต่พระ-พุทธรูปถึงจะหักพัง ก็ยังนับว่า เป็นรูปพระพุทธเจ้าเธอจะเอามารวมให้เป็นรูปพระสังกัจจายน์ ซึ่งเป็นสาวกดูไม่สู้เหมาะ คนบางคนเขาจะติเตียน ปูนที่เหลือเธอก่อถังน้ำฝน ไว้ใช้เถิดออกพรรษาแล้วฉันจะไปหาเธอเพื่อหารือในการสร้างพระใหญ่กันอีกที ครั้นถึงเดือน 12ท่านได้มาพักที่ถ้ำได้ตกลงกันในการที่ จะสร้างพระใหญ่ต่อไป
ดังที่ปรากฏในคำปรารภของท่านและคำจารึกในแผ่นศิลาแท่นพระใหญ่ทั้ง ๒ คราว สั้นเงิน ๖๓,๐๐๐ บาท เศษ อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ ไปที่วัดนี้และทรงทราบเรื่องราวความเป็นมา จึงได้พระราชทานนามวัดให้ใหม่ว่า “วัดสิริจันทรนิมิต” และต่อมาได้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ ในชื่อว่า “วัดสิริจันทรนิมิตวรวิหาร” แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังเรียกว่า “วัดเขาพระงาม” ตามชื่อของตำบล เนื่องจากภายในวัดแห่งนี้มีบริเวณเป็นเชิงเขาที่โอบล้อมไปด้วยผืนป่าอันเขียวขจี ได้ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่สีขาวทั้งองค์
โดยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันฺโท) และพระครูปลัดอ่ำ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๑ วา สูงจากหน้าตักถึงเศียร ๑๘ วา สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอันมีศิลปะงดงามโดดเด่น เม็ดพระศกทำด้วยไหกระเทียม เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้ถวายพระนามว่า พระพุทธปฏิภาคมัธยมพุทธกามีพระนามว่า “พระพุทธปฏิภาคมัธยมพุทธกาล” สามารถมองเห็นแต่ไกลสวยงามก่อนเข้าสู่บริเวณวัด และวัดแห่งนี้ยังมีความร่มรื่นเหมาะแก่การเจริญสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน สามารถสร้างจิตใจให้มีความสงบสุข ทำให้ประชาชนทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาสู่วัดแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
|