...." โชว์ "....
==> ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว <==
...( เสือหนึ่งตัว สร้างตะกรุดได้เพียงดอกเดียว )....
•••เบญจภาคีแห่งตะกรุดหนังหน้าผากเสือที่ถูกจัดให้เป็นยอดนิยมอันดับ ๑-๕ มีดังนี้
๑.หลวงปู่นาค วัดอรุณฯ ธนบุรี
๒.หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
๓.หลวงพ่อหว่าง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี (ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่นาค วัดอรุณฯ) หรือตะกรุดของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว แล้วแต่สภาวะความนิยมของตลาดในขณะนั้นๆ คนรุ่นเก่า รุ่นปู่ รุ่นทวด จะยกอั้นดับที่๓.นี้ให้หลวงพ่อหว่างแต่คนรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นกันแล้วเนื่องจากตะกรุดของท่านไม่มีหลุดเข้ามาหมุนเวียนให้เห็นในตลาดส่วนกลางเลย
๔.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
๕.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
•••••ตะกรุดหน้าผากเสือ ของหลวงปู่บุญจัดเป็นตะกรุดชั้นยอดของหลวงปู่ก็ว่าได้ เพราะว่าท่านสร้างไว้ไม่มาก ขบวนการสร้างของท่านก็ลำบากอยากยิ่งเพราะว่ากว่าจะลงได้จะต้องดูฤกษ์ดูยามและต้องทำพิธีบายศรี มีหัวหมูผู้ที่จะทำจะต้องจัดหาเครื่องพิธีมาครบและเอาหนังหน้าผากเสือมาให้ท่าน เสือหนึ่งตัวใช้ได้อันเดียว(ทำได้แค่ดอกเดียว เพราะตบะมหาอำนาจโดนดึงออกมาหมดแล้ว) ตะกรุดหน้าผากเสือของหลวงปู่บุญ ท่านกำหนดเอาหนังส่วนเฉพาะช่วงเหนือของตาเสือขึ้นไประหว่างทั้งสองเฉพาะช่วงนั้นเท่านั้น ดังนั้นหนังเสือตัวเดียวจะทำตะกรุดได้ดอกเดียวและหนังเสือตัวที่ตัดเอามาแล้ว เมื่อทิ้งไว้จะเป็นขมวนผุไปในที่สุด กรรมวิธีการสร้าง เมื่อได้หนังหน้าผากเสือตามลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ต้องให้หลวงปู่กำหนดฤกษ์จากนั้นจะตั้งเครื่องสังเวย บูชาเทวดา ครูอาจารย์แล้วท่านจะเข้าพิธีลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นหนังหน้าผากเสือ เฉพาะพิธีแต่ละครั้งได้เพียงดอกเดียวเท่านั้น เมื่อลงเสร็จแล้วท่านจะปลูกเสกจนครบ เจ็ดเสาร์ เจ็ดอังคาร จึงจะใช้ได้นับว่ามีกรรมวิธีสร้างที่ค่อนข้างยากมากดังนั้น ใน ชีวิตของหลวงปู่จึงสร้างไว้ไม่มากนักคนมีความปรารถนาแรงเกล้าและมีโอกาสเท่านั้นจึงได้ทำเอาไว้ตะกรุดหน้าผากเสือของหลวงปู่บุญจึงมิได้สร้างขึ้นแบบง่ายๆเหมือนทั่วไปแต่กรรมวิธีโดยเฉพาะที่เป็นแบบอย่างของท่านตามตำรับที่ท่านได้ศึกษามา ขนาดของตะกรุดหน้าผากเสือหลวงปู่บุญมีขนาดไม่แน่นอนเท่าที่พบขนาดไม่เท่ากันแม้แต่ดอกเดียวลักษณะเป็นหนังหน้าผากเสือม้วน ประมาณ2-3รอบเท่านั้นเพราะหนังซึ่งมีความหนาจะม้วนมากกว่านั้นได้ลำบากและทุกดอกจะถัก เชือกค่อนไว้อย่างแน่นตึงเพราะหนังเสือซึ่งม้วนยากหากไม่ใช้เชือกถักแน่นแล้วจะคลายตัวออกทันที(แต่ที่ถักเชือกแล้วไม่ได้ลงรักเชือกเปื่อยขาดคลายตัวออกไปจนเห็นขนเสือก็เคยมีให้เห็นกัน)ลักษณะการถักมีหลายแบบไม่แน่นอน มีทั้งลักษณะถักคลุมหัวท้ายกับถักไม่คลุมหัวท้าย ส่วนที่เชือกไม่คลุมไว้คือ หัวและท้ายจะเห็นขนเสือโผล่ออกมาบ้างเล็กน้อยเพราะไม่ได้เอาขนออก การลงอักขระเลขยันต์หลวงปู่ท่านลงด้านในมิใช่ด้านมีขนจะยังคงสภาพเดิมอยู่ เช่นนั้น ทุกดอกที่ถักเชือกไว้แล้วส่วนมากมักจะลงรักทับไว้ด้วยเพื่อรักษาเนื้อของเชือกให้คงทนบางดอกปิดทองทับตลอดดอกก็มี.
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษาและจดจำ
เครดิต : คุณ วัต ท่าพระจันทร์
|