รูปแบบการจัดสร้างในครั้งนี้มี ด้วยกัน ๔ ชนิด คือ

๑.พระบูชาหลวงปู่ทวดขนาดหน้าตัก ๗ นิ้ว เนี้อผสมโลหะปิดทองคำ จำนวน ๙๙๙ องค์

๒.รูปหล่อลอยองค์ หลวงปู่ทวดขนาดเล็ก เลขใต้ฐาน ได้จัดสร้างไว้ทั้งสิ้นรวม ๔,๓๒๒ องค์ แบ่งเป็น (เนื้อทองคำ) จำนวน ๒๗๙ องค์ มีโค้ดหมายเลข ๑-๒๗๙, (เนื้อนาค) จำนวน ๒๗๙ องค์ มีโค้ดหมายเลข ๒๘๐-๕๕๙, (เนื้อนวะโลหะ) จำนวน ๓,๗๖๔ องค์ มีโค้ดหมายเลข ๕๖๐-๔๓๒๒ ทุกองค์จะมีการตอกโค้ด (นะ) ด้านหลัง และตอกเลขที่ก้น (เลขใต้ฐาน) และใต้ฐานพระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ได้รับการบรรจุผงว่านเก่าพระหลวงพ่อทวด พ.ศ.๒๔๙๗ ไว้ทุกองค์ ที่ท่านสวัสดิ์ เก็บรักษาไว้ ได้จัดพิธีบรรจุผงว่านหลวงปู่ทวดรุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ ใต้ฐาน ณ วัดชนะสงคราม

๓.เหรียญรูปไข่ หลวงปู่ทวด ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ว่าด้านหน้าเป็นหลวงปู่ทวด และด้านหลังเป็นคาถาบูชาหลวงปู่ทวด ที่ว่า "นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา" แบ่งเป็น สร้างเป็นชุด ๙๙๙ ชุดในชุดมีเนี้อทองคำ เงิน และบรอนซ์มีเนี้อเงินแยกเดี่ยว ๒,๕๓๗ องค์ และบรอนซ์แดงประมาณ ๒๐,๐๐๐

และ ๔. เหรียญรูปอาร์มหลวงปู่ทวด ด้านหลังเป็นรูปจำลองพระมหาเจดีย์ มีอักษรเขียนว่า “เนื่องในโอกาสสมโภชพระมหาเจดีย์" จำนวนสร้างเนื้อทองคำ ๖๙๙ เหรียญ เนื้อนาค ๓๙๙ เหรียญ เนื้อเงิน ๒,๕๓๗ เหรียญ และเนี้อบรอนซ์แดงประมาณ ๒๐,๐๐๐ เหรียญ

แม้ว่าจำนวนการสร้างหลวงพ่อทวดรุ่นเบตง ๒ จะขึ้นชื่อว่ามากในยุคนั้น คือ รวมพระทุกรายการมีกว่า ๕๐,๐๐๐ เหรียญ แต่ไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบัน เหรียญรูปไข่ และเหรียญรูปอาร์มหลวงปู่ทวด มีราคาสูงถึงหลักพันกลางๆ และนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลวงพ่อทวดรุ่นเบตง ๒ ได้รับความนิยม คือ "สร้างโดยท่านสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา ผู้ที่ได้จัดสร้างหลวงพ่อทวดเลขใต้ฐานรุ่นแรก (เบตง ๑)" นั้นเอง