ตะกรุดโทน หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.อยุธยา แกนทองแดง ลงรักถักเชือก เก่าๆ มันๆ ขนาดยาว 5.5 นิ้ว โต 1 เซนติเมตร สวยสมบูรณ์เดิมๆ

หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ท่านเป็นพระเกจิผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านพุทธาคมจนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้านทั้งใกล้ไกล รวมทั้งในวงการนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์อีกด้วย ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า รุ่นเดียวกับเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และเป็นผู้พลิกฟื้นวัดนกกระจาบจากสภาพวัดร้างมาสู่วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อขันท่านเป็นชาวบ้านละแวกวัดนกกระจาบ ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดในปี พ.ศ.2415 เมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบท ณ วัดตะโกใต้ จากนั้นศึกษาร่ำเรียนพระวินัยและพระปริยัติธรรมอยู่กับพระพุทธวิหารโสภณ (อ่ำ) ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ที่วัดวงฆ้อง ในเบื้องต้น  ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดญาณเสนและวัดไผ่ล้อมตามลำดับ ระหว่างนั้นท่านก็ออกธุดงค์เพื่อศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมทั้งด้านคันถธุระ วิปัสสนาธุระ และพุทธาคม จากพระเกจิอาจารย์หลายๆ รูป โดยเฉพาะ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จนแตกฉาน เมื่อชาวบ้านแถววัดนกกระจาบเห็นว่าวัดชำรุดทรุดโทรมมากแทบจะกลายเป็นวัดร้างอยู่แล้ว จึงร่วมกันอาราธนาหลวงพ่อขันกลับไปบูรณะปฏิสังขรณ์ ท่านจึงเดินทางกลับไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนกกระจาบ ท่านเป็นกำลังสำคัญในการรวมกับญาติโยมและชาวบ้านมาช่วยกันทำนุบำรุง บูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ และเสนาสนะต่างๆ สร้างกุฏิ วิหาร ศาลาการเปรียญ และศาลาท่าน้ำ ฯลฯ จนวัดกระจาบกลับเป็นวัดที่สวยงามสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง และในช่วงนี้เองที่ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านก็เริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักเลื่อมใส กอปรกับพุทธาคมที่ร่ำเรียนมาจากหลวงปู่ศุขที่ปรากฏแก่สายตาในคราสร้างวัดนี้เช่นกัน ผู้คนต่างบอกกล่าวเล่าขานต่อๆ กัน ดั้นด้นเดินทางมากราบนมัสการทั้งที่สมัยนั้นการเดินทางแสนจะยากลำบากต้องมาทางเรือและนอนค้างอ้างแรม ยังไม่มีถนนรถเข้าเหมือนปัจจุบัน ท่านมรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2486 สิริอายุรวม 72 ปี 52 พรรษา ท่านสร้างวัตถุมงคลมากมายทั้งตะกรุดโทน ตะกรุดเมตตา เสื้อยันต์ มงคล พระเครื่อง พระปิดตา และเหรียญ ฯลฯ มีพุทธคุณเป็นเลิศในด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน