พระขุนแผนพรายกุมาร แสนแสบ
เขียนโดย Administrator
อังคาร, 10 กันยายน 2013
พระขุนแผนพรายกุมาร แสนแสบพระขุนแผนแสนแสบ สองตำนานความรักอมตะ ของแม่นาคพระโขนงและพรายแม่ส้มอันเป็นปฐมกำเนิด
พระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่น ในวาระที่มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก มีอายุครบ ๓๗ ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงบรรจงสร้าง พระขุนแผนแสนแสบให้เป็นอมตะพระเครื่องขึ้นอีกครั้ง เพื่อหาปัจจัยทำนุบำรุงวัดละหารไร่ เชิดชูเกียรติคุณของหลวงปู่ทิมและบำเพ็ญสาธารณกุศล
กิจการที่ดำเนินการไปแล้ว
ซื้อที่ดินขยายวัดละหารไร่ ซื้อที่ดินให้โรงเรียนซึ่งไม่มีที่ดินเป็นของโรงเรียนเองให้อีก ๙ ไร่ ๒ งาน มีที่ดินงอกเพิ่มขึ้นอีกกว่า ๒ ไร่ ได้ยกให้วัดละหารไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลังจากรูปเหมือนองค์ใหญ่สร้างเสร็จ หาปัจจัยร่วมสร้างถาวรวัตถุให้วัดละหารไร่ มาโดยตลอด
ช่วยการศึกษาโรงเรียนต่างๆ ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยองให้ทุนนักเรียนจนจบการศึกษาวิทยาลัยพยาบาล ให้ทุนสามเณรจนสอบได้เปรียญ ๘
ตั้งหน่วยช่วยเหลือประชาชนโดยทั่วไปที่มาบตาพุด จนหัวหน้าหน่วยได้รับเลือกตั้งเป็น สจ. ติดต่อกันมาหลายสมัยจนเป็นถึง รอง ประธาน อบจ. จังหวัดระยอง
ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณความดีของหลวงปู่ทิม มาตลอดในวาระ ๓๗ ปี ในการก่อตั้งมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงสร้างพระขุนแผนพรายกุมาร เอกลักษณ์และ อมตะพระเครื่องของหลวงปู่ทิมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำรายได้ เพิ่มทุนมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก สมทบทุนสร้างรูปเหมือนและสนับสนุนหน่วยช่วยเหลือประชาชนของมูลนิธิ
*** พระขุนแผนพรายกุมาร แสนแสบ พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดปราชิก เนื้อขาว, ดำ จำนวนสร้างทั้งหมด ๓๐๐ องค์ ***
*** เพื่อสมนาคุณผู้มีอุปการคุณ และแจกผู้ที่ช่วยงาน ส่วนที่เหลือจะออกให้ทำบุญในวาระต่อไป ***
พระขุนแผนแสนแสบ
เกิดจากตำนานรักอันเป็นอมตะของ ๒ สาวแห่งคลองแสนแสบบ้านพระโขนงและแม่ส้มแห่งบ้านบางบุตร อ. บ้านค่าย จ.ระยอง ที่หลวงปู่ทิม ศึกษาค้นคว้า นำพลังแห่งความรักของแม่ที่มีต่อลูกต่อผัวมาผูกพัน ตั้งธาตุเรียกรูปเรียกนาม ให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ ด้วยพุทธานุภาพและพลังสมาธิเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ผสมด้วยผงพรายกุมารและผงพุทธคุณต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมยัดเยียดให้ไว้กับศิษย์คนสุดท้ายที่วัดละหารไร่ ขณะนอนให้น้ำเกลือก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งยังได้รับผงพรายก้นครกจากหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ศิษย์เอกที่หลวงปู่ใช้ให้เตรียมว่านต่างๆ และตำผงผสมผง ทั้งผงจากนายสิงห์ราช อัมฤทธิและอดีตพระทองสุข วงศ์จันทร์ ที่ขออนุญาติหลวงปู่ทิมเก็บไว้เป็นของวิเศษส่วนตัว นอกจากนั้นยังได้ดินจากถ้ำขุนแผนตรงที่ผ่าท้องนางบัวคลี ย่างกุมารและดินที่ ๘ ปรามาจารย์นั่งล้อมวงประลองวิชากันในถ้ำใหญ่ มาผสมด้วย
ถอดแบบมาจากพระขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิมทั้ง ๒ พิมพ์ ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
พระครูอมรธรรมโมภาสหลวงปู่ชม วัดสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย และก๋งเตื่อง เตชปัญโญ วัดคลองจาก จ.ตราด ปลุกเสก ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๑๙ น.
พิธีปลุกเสก พระขุนแผนแสนแสบ โดย ๒ สุดยอดเกจิ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
ที่มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโกกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคมที่ผ่านมานี้ หลวงปู่ชม โอภาโส ศิษย์เอกหลวงปู่พิบูลย์ ผู้ถูกทางการจับถ่วงน้ำที่เกาะสีชัง ๗ วัน ๗ คืน ข้อหาผีบุญ มาร่วมปลุกเสก พระขุนแผนแสนแสบแบบกฤตยาคมหนึ่งต่อหนึ่งกับก๋งเตื่อง จากเกาะกง กัมพูชา ซึ่ง ๒ ท่านผู้ยิ่งใหญ่นายพลเตียปันและสมเด็จฮุนเซ่นก็ยังนับถือ
เมื่อหลวงปู่ชมมาถึงพิธีบวงสรวงครูบาอาจารย์ เวลา ๐๙.๑๙ น. ได้เริ่มขึ้น หลวงปู่ชม จุดเทียนชัย พระอาจารย์เปิ้ลศิษย์เอกหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฎร์บำรุงและพระ ๒ รูปสวดชยันโต จากนั้นหลวงปู่ชมนั้งปลุกเสกเดี่ยว ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเหนือมณฑณพิธีมีภาพแปลกประหลาด พระอาทิตย์ที่แผดแสงลงมาอย่างร้อนแรงกลับเย็นสบาย มีกลุ่มเฆมทยอยมาบดบังแสงอาทิตย์เป็นระยะๆ ผู้มาร่วมพิธีหลายร้อยคนได้ยกกล้องมือถือขึ้นถ่ายภาพปรากฏการณ์บนท้องฟ้าไปตามๆกัน
ก่อนเที่ยงก๋งเตื่องมาถึง พระอาทิตย์กำลังแผดแรงกล้าอยู่ ก็ได้มีการปลุกเสกแบบกฤตยาคมแฝด ระหว่างสองพระเกจิอาจารย์ระหว่างไทยและเขมรเกิดขึ้น
นอกจากพระขุนแผนแสนแสบ รูปหล่อพิมพ์ยืนหลวงปู่ทิมแล้ว ยังมีการปลุกเสก ชูชกมหาขอทานโลกที่สร้างจากไม้แกะองค์ใหญ่และเนื้อผงกลมองค์เล็กที่เป็นทั้งยอดขอและยอดเรียกคือ นางพันธุรัต ยอดเรียกเจ้าของมนต์มหาจินดามณี ซึ่งหลวงปู่ทิมใช้เป็นยันต์ประจำตัวท่านและจารึกไว้หลังพระขุนแผนทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก จนเป็นที่เลื่องลือจากพระแจกฟรี มีราคาก็๑๐-๒๐ บาท ปัจจุบันองค์หลายหมื่น หลายแสนจนเป็นล้านไปแล้วก็มี หลวงปู่ชมท่านเก่งและเชี่ยวชาญเรื่องมนต์ชูชก มีชูชกอยู่ที่ไหนบูชาไว้ในบ้าน บ้านนั้นจะอุดมด้วยแก้วแหวนเงินทองมีทรัพย์สินไม่ขาดสาย การประกอบพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ซึ่งนานทีจะมีสักครั้ง เพราะจะหายอดพระเกจิที่เก่งกล้าจริงๆมาร่วมกันถึง ๒ องค์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละองค์ก็ผ่านสัมผัสจากศิษย์เอกหลวงปู่ทิมคนสุดท้ายมาแล้ว จึงมีการหุงน้ำมันยอดเรียกยอดขอขึ้นมาด้วยเรียก”น้ำมันชูชก สาลิกากระดังงาลนไฟ”เจ้าพิธีได้เรียกอาจารย์เจ็ท ศิษย์หนุ่มที่ได้รับการประสิทธิวิชามหาเสน่ห์อย่างสูงมีตบะเดชะแก่กล้า สามารถขนาดขุดศพผีตายทั้งกลมมาประกอบพิธีได้และได้ประจักษ์มาแล้วในงานปลุกเสกขุนแผนเวสิยาฤกษ์ในชุดพระกริ่ง ๙ ฤกษ์ เพื่อหาเงินเริ่มต้นในการสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่ ขณะหุงน้ำในกระทะจารึกมนต์ชูชก อาจารย์เจ็ทได้ร่ายพระเวทย์ติดต่อกันตลอดเวลา ท่ามกลางการแปลกใจและทึ่งในความสามารถที่จดจำพระคาถามหานิยมมหาเสน่ห์ตลอดจนมนต์ดำมนต์มหาราคะได้อย่างเชี่ยวชาญและแม่นยำ ก่อนลงมือหุงน้ำมันชูชกหลวงปู่ชมได้เรียกอักขระเลขยันต์และหุงเป็นปฐมฤกษ์
ชูชกมหาขอท่านโลกผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ส่งเสริมบารมีให้พระพุทธองค์ได้บำเพ็ญทานบารมีขั้นสูงสุดที่บริจาคเมียและลูกให้เป็นมหาทาน
ในขณะประกอบพิธีโดยยอดพระเกจิอาจารย์ของ ๒ ประเทศ ปรากฏการณ์แปลกบนท้องฟ้าเหนือประรำพิธีก็เกิดขึ้นเป็นระยะๆ อากาศโดยทั่วไปแม้นจะร้อนอบอาวแดดแรงจัด แต่ก็ไม่ร้อนลมพัดมาเป็นระยะทำให้เย็นสบาย เมฆลอยมาบดบังแสงพระอาทิตย์เป็นระยะๆทำให้บังเกิดความร่มเย็น “เนาว์ นรญาณ” และ “พรบูรพา” สองท่านได้ติดตามงานพิธีของมูลนิธิหลวงปู่ทิม มาโดยตลอดคลิกภาพที่ถ่ายไว้ได้ออกให้ดู ของคุณเนาว์ เห็นเป็นภาพด้านข้างของหญิงสาวที่มีผมยักเป็นคลื่นๆ ชัดเจนมาก ส่วนของพรบูรพามีภาพดวงแสงสีขาววิ่งไล่กันไปวิ่งไล่กันมาตามขอบเมฆที่เป็นภาพประหลาดๆ ผู้มีญาณสัมผัสกล่าวว่าทั้งแม่นาคและแม่ส้มต่างมาช่วยกันหาเงินช่วยมูลนิธิหลวงปู่ทิมปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในเรื่องพรายกุมาร
หลังจากพิธีปลุกเสกแบบกฤตยาคมแฝด ชนิดที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนของ ๒ พระเกจิอาจารย์ หลายๆคนถามหลวงปู่ทั้ง ๒ องค์ว่าดีทางไหน ท่านบอกพระในพิธีนี้ดีทุกทาง ใช้ได้ทุกอย่าง แล้วแต่จะอธิฐานเอาเถิด มหานิยมที่เกิดจากพลังแห่งความรักครั้งนี้สุดยอดจริงๆ จะหาใครทำได้เสมอเหมือนนั้นยากมาก
พิธีปลุกเสกพระขุนแผนแสนแสบ วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ หลวงปู่ชม วัดสามัคคี จ.หนองคาย และก๋งเตื่อง เตชปัญโญ วัดคลองจาก จ.ตราด
เพียงค่ำคืนเดียวขุนแผนแสนแสบปาเข้าไป ๗,๐๐๐
เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ มูลนิธิหลวงปู่ทิม ได้ประกอบพิธีปลุกเสกแบบกฤตยาคมแฝด “ขุนแผนแสนแสบ” กวนน้ำมันมนต์ชูชก ยอดขอ ยอกเรียก โดยสุดยอดปรมาจารย์ ๒ แผ่นดินโดยหลวงปู่ชม โอภาโส เทพเจ้าลุ่มแม่น้ำโขงศิษย์เอกคนสุดท้ายของหลวงปู่พิบูลย์ที่ถูกจับถ่วงน้ำ ๗ วัน ๗ คืนขอหาผีบุญ และก๋งเตื่องยอดปรมาจารย์จากเกาะก๋ง ผู้ที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกัมพูชาก็นับถืออย่างสนิทใจ
ปรมาจารย์ทั้ง ๒ องค์ปะทะพลังจิตแบบกฤตยาคมแฝดกันที่สำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม เพื่อปลุกเสก “พระขุนแผนแสนแสบ” ขณะเดียวกันได้หุ่งและกวนน้ำมันชูชก ทั้งปลุกเสกเพื่อเพิ่มพลังมนต์จินดามณี ให้ยอดเรียก ซึ่งมีภาพนางพันธุรัตน เนื้อผงที่ยังเหลืออยู่มาเพิ่มพลังความศักดิ์สิทธิเข้าไปอีกเพราะสุดยอดปรมาจารย์ ๒ แผ่นดินต่างเก่งและเป็นเอกในเรื่องนี้
พระขุนแผนแสนแสบสร้างย้อนยุดถอดแบบจาก จากพระขุนแผนพรายกุมารทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กของหลวงปู่ทิม ผสมผงพรายกุมารดั่งเดิมที่หลวงปุ่ทิมให้โยมสายยกมาใสในรถโพลค์พร้อมผงต่างๆ อีกมากมายโดยไม่ได้ขอและไม่ได้ขโมย พร้อมว่าน ๑๐๘ ที่ ผบ เรือนจำ ๑๐๑ จัดให้ครั้งสร้างพระกริ่งชินบัญชรเพ็ชรกลับดินในถ้ำนางบัวคลีที่ ๘ ปรมารจารย์ประลองวิชากันดินบริเวณขุนแผนผ่าท้องนางบัวคลีและย่างกุมารผงสุดยอดของหลวงพ่อผินะ ผู้สร้างอมตะวัตถุ “ของดีที่หาง่ายแต่เอายากคนยากเอา” มาผสมลงไปด้วยเพราะผู้สร้างเป็นคนแรกที่นำเอาประวัติพระกินผีของหลวงพ่อผินะมาเขียน ดินน้ำจากสรวงสวรรค์แม่น้ำคงา ที่หมอฟอร์ดนายแพทย์หนุ่มที่แพทย์สภาถามว่าจะเป็นหมอผีหรือหมอหลวง เอาให้แน่ ผสมลงไปด้วย
ขุนแผนแสนแสบออกให้บูชา เมื่อวันออกพรรษา ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามฤกษ์ที่จะส่งผลให้ผู้รับได้รับอิทธิฤทธิ์สูงสุดมีโชคมีลาภ เพียงชั่วค่ำคืนราคาขุนแผนฝั่งตะกรุดทองคำจากองค์ละ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นถึง ๗,๐๐๐ บาททันที่สุดเหลือเชื่อ
ส่วนตะกรุดสาลิกาเงินก็หมดตั้งแต่ช่วงวันแรกๆที่เปิดจอง ตามตะกรุดสาลิกาทองแดงซึ่งกำลังจะหมด และมีราคาเช่าบูชาสุงขึ้น คงเหลือแต่เนื้อผงธรรมดาทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ผู้ที่เคารพนับถือหลวงปู่ทิมโดยเฉพาะที่ติดตามผลงานของมูลนิธิต่างเชื่อแน่ว่าพระชุดนี้จะต้องดังและราคาสูงขึ้นแน่ๆ เพราะเพียงแต่จับต้องก็ทำให้ขนลุกขนพองแล้วหลายๆ คนแน่ใจว่าหลวงปู่ทิมลงมาทำให้อย่างแน่นอน ตามที่ท่านเคยสัญญาไว้ “ไม่ว่าพรจะทำอะไรนี่อยู่ที่ไหนก็จะลงมาทำให้”
ร่วมวิจารณ์บทความ คลิกที่นี่
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( เสาร์, 02 พฤศจิกายน 2013 )