***กฤตยาคมสะท้านแผ่นดิน เมืองพิจิตร ในปีพุทธศักราช 2499 ***ความศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้เล่าขานสืบต่อมา จนถึงกาลปัจจุบัน******

.......... หลังจากหลวงพ่อเขียนย้ายไปจำพรรษาที่วัดสำนักขุนเณรแล้ว เจ้าอาวาสวัดวังตะกูสมัยหนึ่งชื่ออาจารย์ประทุม สุนทรกล้า ได้ไปกราบนมัสการขออนุญาตหล่อรูปหลวงพ่อเขียนและสร้างเหรียญรูปหลวงพ่อเขียน พร้อมทั้งวัตถุมงคลประเภทอื่น และ ได้จัดงานพุทธาภิเษกขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เช่าบูชา เพื่อจัดหารายได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดวังตะกู หลวงพ่อก็อนุญาต ในงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งนั้น คณะกรรมการได้นิมนต์ หลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และ พระเถราจารย์มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นมาทำพิธีพุทธาภิเษกจำนวนมาก ในขณะที่ทำพิธีพุทธาภิเษกไปได้ประมาณ ๑๐ นาที ทั้งๆ ที่ท้องฟ้าแจ่มใส จู่ๆท้องฟ้ามืดครึ้มฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก พระเถราจารย์ต่างๆพากัน หนีขึ้นกุฏิกันหมด เว้นแต่หลวงพ่อเขียนองค์เดียว กรรมการได้มานิมนต์หลวงพ่อขึ้นกุฏิ หลวงพ่อบอกว่าท่านขึ้นอีกองค์หนึ่งพิธีก็เสียหมด ท่านบอกต่อไปว่า

"ฝนมันตกไม่นานหรอกน่อ มันตกเพียง ๕ นาทีก็หยุด เทวดาเขาให้ฤกษ์ดีน่อ"

กรรมการ ทั้งหลายจับเวลาดูปรากฏว่าถึง ๕ นาทีฝนก็หยุดตกขาดเม็ดเลยทีเดียว อาจารย์ประทุมได้ไปเอาผ้าไตรมาให้หลวงพ่อเปลี่ยน เพราะคิดว่าผ้าไตรหลวงพ่อคงจะเปียกหมด หลวงพ่อบอกว่า

"ไม่ต้องเปลี่ยนน่อ"

ปรากฏ ว่าผ้าไตรที่หลวงพ่อครองอยู่นั้นไม่ได้เปียกเลยแม้แต่น้อย ฝนที่ตกก็ตกเฉพาะในบริเวณวัดเท่านั้น นอกเขตวัดออกไปฝนไม่ตกเลยเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

***********อภินิหาริย์วัตถุมงคลหลวงพ่อเขียน วัดวังตะกู ปี2499 ได้เกิดขึ้นหลังจากงานพุทธาภิเษก***************

.......... ในงานพุทธาภิเษกที่วัดวังตะกูครั้งนั้น หลังจากที่ได้ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ แล้วคณะกรรมการได้นำพระเครื่องหลวงพ่อเขียนและเหรียญรุ่นต่างๆ ออกให้ประชาชนทั้งหลายได้เช่าบูชากันอย่างทั่วถึง เพราะได้เห็นพิธีปลุกเสกแล้วเกิดให้ความเลื่อมใสศรัทธากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการหล่อรูปหลวงพ่อเขียนเป็นครั้งแรก คณะกรรมการได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีมหรสพหลายอย่าง ประชาชนที่เห็นพิธีกรรมการพุทธาภิเษก เกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่างพากันบูชาพระเครื่องและเหรียญหลวงพ่อทบหลวงพ่อเขียนเขียนกัน อย่างล้นเหลือ ในงานนี้มีการแสดงของคณะละครสัตว์ด้วย ชายเจ้าของสัตว์ได้บูชาเหรียญใบตำลึง 2 หน้า หลวงพ่อเขียนด้านหนึ่ง หลวงพ่อทบ (เกจิอาจารย์ชื่อดังของ อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์) จำนวน ๑ เหรียญ เหรียญกงจักรของหลวงพ่อเขียนอีก ๑ เหรียญ ชายเจ้าของสัตว์ผู้นี้ใส่สายสร้อยแขวนเหรียญทั้งสองนี้ที่คอ ในขณะนั้นเจ้าหมีของเขาได้หลุดจากกรงออกมาอาละวาดกลางลานวัด ผู้คนวิ่งหนีกันอลหม่านไปหมดเพราะความกลัวอันตราย ทุกครั้งเจ้าของหมีเคยบังคับมันได้ จึงคว้าไม้พลองเข้าไล่ต้อน แทนที่เจ้าหมีจะกลัวเหมือนเช่นเคย แต่กลับตรงรี่เข้าใส่เจ้า ทั้งตบทั้งกัด เจ้าของใช้ไม้พลองต่อสู้กันชั่วครู่ เจ้าหมีเป็นฝ่ายปราชัยยอมเข้ากรงตามเดิม เจ้าของหมี รู้ว่าตัวเองต้องบาดเจ็บและเป็นแผลฉกรรจ์แน่ แต่ปรากฏว่าเจ้าของไม่มีบาดแผลจากเขี้ยวเล็บของหมีเลย มีแต่รอยเขี้ยวเป็นรอยบุ๋มและรอยขีดข่วนจากเล็บหมีเป็นทางทั่วตัว รวมทั้งเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งไม่มีชิ้นดี ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างแย่งกันบูชาเหรียญหลวงพ่อทบหลวงพ่อเขียนเป็นการใหญ่ เจ้าของหมีเกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงนำเงินจากการแสดงของสัตว์มาบูชาเหรียญหลวงพ่อเป็นเงินพันกว่าบาท และยังนำเงินถวายวัดอีกจำนวนหนึ่ง

.............ขออนุญาตท่านที่เขียนบทความนี้ เพื่อเผยแพร่บารมีหลวงพ่อทบหลวงพ่อเขียน ครับ...............................