พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ

ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพ


ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพ


ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพ

โชว์ กลับหน้าร้าน
ชื่อพระ :
 ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพ
รายละเอียด :
 

 

ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง

จำได้ว่า..แต่ก่อนตอนสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเห็นพวกพ่อค้า แม่ค้า เอาแผ่นทองแดงตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมประกบกันแล้วเอาไว้ที่กระป๋องเก็บเงิน  หรือเมื่ออกไปซื้อของที่ร้านโชว์ห่วยก็ยังเห็นแผ่นทองแดงประเภทนี้ห้อยที่หน้าร้านค้า.....จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า นั่นคืออะไร? ทำไมมีกันแทบจะทุกร้านค้า...เขาเอาไว้ทำอะไร? เมื่อผมโตขึ้น สิ่งที่ผมเห็นแผ่นทองแดงตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมประกบกันที่เคยมีก็ยังอยู่แทบจะทุกร้านค้า มีบ้างที่ผุพังไปตามกาลเวลา บางร้านก็หามาเปลี่ยนใหม่ บางร้านก็เอาออกเพราะให้เข้ากับยุคสมัยแต่เจ้าของร้านค้าก็มาแขวนพระเครื่องแทน ผมจึงเริ่มต้องค้นหาอย่างจริงจังให้รู้สักทีว่าสิ่งนี้คืออะไร และคำตอบของวัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางนั้นเขาเรียกสิ่งๆนี้กันว่า..... ยันต์หนีบ 

คำว่า “หนีบ” ในภาษาล้านนาหมายถึง การประกบไว้ บีบรัด การกดทับ หรือ ทำให้ติดกัน

       อีกหนึ่งยันต์ที่เป็นเอกลักษณ์เคียงคู่คนล้านนามาแต่อดีต ที่ทุกสำนักจะต้องมียันต์แบบนี้ ซึ่งครูบาอาจารย์แต่กาลก่อนต้องได้ร่ำเรียน รับการสืบทอดและสรรสร้างให้ลูกศิษย์ได้บูชาไว้ใช้โดยยันต์ชนิดนี้ไม่ได้ม้วนเหมือนตะกรุดแต่อย่างใด แต่จะทำเป็นแบบแผ่นแล้วประกบกันนั่นเองและก็เป็นที่มาของคำว่ายันต์หนีบ ตำราการสร้างยันต์หนีบนั้นจากการค้นหาก็ไม่ยากจนเกินไปนักเพราะได้ข้อมูลจากการเสาะหาครูบาอาจารย์ที่เก่งทางด้านศิลป์แห่งอักขระยันต์ล้านนา พ่อหนาน ครูบาอาจารย์หลายๆสำนักชี้แนะและได้รับคำแนะนำ เพิ่มเติมความรู้จากหลายๆที่เพียงแค่...ยันต์ที่ครูอาจารย์ที่ท่านนำมาแสดงให้ดูนั้น มีมากมายหลายตำรามากมายตั้งแต่ตารางหัวใจพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จนไปถึงยันต์ที่เกี่ยวกับทางโลกีย์โดยตรง บ้างเป็นตารางยันต์ บ้านเป็นตัวหนังสือหรือคาถาไปเลยก็มี บ้างเป็นยันต์รูปเทวดาชาย-หญิงหันหน้าเข้าหากัน บ้างเป็นยันต์หัวใจทิพยาธร บ้างเป็นยันต์อิ่นแก้ว(คนกอดกัน) บ้างเป็นยันต์อิ่นม้า(รูปม้าเสพนาง) อิ่นช้าง(รูปช้างเสพนาง) ในยันต์หนีบจะมียันต์หรือตะกรุดเล็กๆพ่วงมาด้วยก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ เพราะว่าด้วยยันต์ทางล้านนานี้ไม่มีกฎตายตัว(นอกจากบางตำราที่ระบุเจาะจงไว้)  เมื่อก่อนจนหาข้อยุติไม่ได้ว่า ตำรายันต์ไหนเป็นตำราต้น หรือตำราหลักกันแน่   จากการศึกษาเรื่องยันต์ที่ได้จากหลายๆจังหวัด ตั้งแต่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา จะมีเพียง2-3ยันต์เท่านั้นที่ถือว่าเป็นยันต์ต้นหรือยันต์หลักที่โบราณท่านนิยมทำกันแต่โบราณนั่นก็คือ

1.ยันต์ราหู  2.ยันต์พระยาจักระวัตติราช 3.แก้วมณีโชติ  ยันต์เหล่านี้ครูบาอาจารย์แต่กาลก่อนท่านเคยได้ทำไว้และท่านยังบันทึกกล่าวในปั๊ปสา หรือตำราแต่ละที่ไว้ว่า ยันต์หนีบชื่อว่า.?..นี้เป็นดั่งสมบัติพระอินทร์ //ยันต์หนีบนี้ชื่อว่า...?...เป็นดั่งแก้วมณีโชติสารพัดนึก// ยันต์หนีบนี้ชื่อว่า..?...มีค่าครองเมืองมนุษย์ เป็นต้น

แต่ในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงยันต์หนีบราหู ครูบาขันแก้ว อุตตฺโม วัดสันพระเจ้าแดง แม้แต่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย ท่านก็ยังเขียน ยันต์หนีบเป็นยันต์ราหู ด้วยเช่นกัน

  *****เหตุใดท่านต้องใช้ยันต์ราหู มาเขียนเป็นยันต์หนีบเพราะเหตุผลใด?

 ยันต์ราหูหลายท่านก็คงนึกออกว่าเป็นยันต์ที่เขียนไว้ในกะลาในคราวมีสุริยะประภา จันทะระประภา( ของครูบานันตา นันโทแห่งวัดทุ่งม่านใต้ จ.ลำปาง หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จ.นครปฐม หรือหลวงพ่อ ครูบาอื่นก็ตาม จะเห็นได้ว่าเป็นลักษณะคล้ายๆกัน) ยันต์ราหู นี้ทางตำราของครูบาขันแก้ว มีอยู่หลายแบบ ไม่ว่ายันต์จะเป็นลักษณะตารางใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับยันต์ราหู ถือว่าเป็นยันต์ที่โบราณครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่าเป็นดั่งแก้วสารพัดนึกสุดประเสริฐแล้วแต่อธิฐาน แต่เมื่อคราวใดดวงตกให้บูชายันต์นี้จากดวงตกร้ายจะกลับดี  ครูบาขันแก้ว ท่านรู้ศาสตร์แห่งยันต์ราหูในเชิงลึกและตีโจทย์แห่งยันต์นี้ได้ตั้งแต่แรก ท่านเลยถือเอายันต์ราหูนี้เป็นหลักในการเขียนยันต์หนีบ

1.1ถ้าจะวิเคราะห์ในเชิงโหราศาสตร์ คำว่าราหูเป็นเทพเจ้าลำดับที่8ของดวงดาวส่งผลต่างๆทั้งด้านบวกและด้านลบแต่ถ้าเราบูชาเป็นประจำจะเกิดผลดีอย่างคาดไม่ถึง(ย่อแบบสั้นๆ)

1.2 วิเคราะห์ปริศนาเรื่องยันต์พระราหู เปรียบในเชิงธรรม คำว่าราหู หมายถึง โลกธรรม8คือ

  1.มีลาภ 2.เสื่อมลาภ 3.มียศ 4.เสื่อมยศ 5.มีสรรเสริญ 6.มีนินทา 7.มีสุข 8.มีทุกข์

 ครูบาอาจารย์พระอริยะเจ้าท่านเปรียบไว้ว่า จิตใจของมนุษย์เดิมทีนั้นได้สุกสดใสเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ หรือ ดวงอาทิตย์ที่สว่างจ้า แต่เมื่อมีเงาเข้ามาบดบังดวงจันทร์ หรือดวงอาทิตย์ นั่นก็คือ ตัว กิเลส เมือเงากลืนกินทับแสงแล้วชั่วเวลาหนึ่งย่อมคลายให้สว่างดังเดิม เหมือนผู้ศึกษาธรรมย่อมทำให้รู้แจ้งแห่งพระธรรมนั้น ดังนั้นจึงปฏิบัติธรรมให้จิตกลับมาสดใสดังเดิม โดยไม่ยึดถือในโลกธรรม8ประการนี้แล..นั่นก็คือปริศนาในธรรมเกี่ยวกับพระราหู

(ในคราวที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้เดินทางมาบูรณะพระธาตุดอยห้างบาตร ครูบาเจ้าท่านได้สอบถามเรื่องการปฏิบัติธรรมของครูบาขันแก้ว เมื่อสอบถามกันแล้วท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยกล่าวเจริญพรสาธุการแก่ครูบาขันแก้ว ว่าปฏิบัติได้ถูกต้องแล้ว และยังกล่าวกับครูบาขันแก้ว ว่า “ขอให้ตุ๊น้องตั้งใจปฏิบัติธรรมยิ่งๆขึ้นไป จงอย่าได้หวั่นไหวในโลกธรรมแปด”)***อ้างอิงจากจารึกอนุสรณ์ชีวประวัติครูบาขันแก้ว อุตตฺโม ที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ครูบาขันแก้ว ณ วัดสันพระเจ้าแดง โดยคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก เป็นผู้บันทึก

ครูบาขันแก้ว และครูบาชุ่ม โพธิโก ท่านได้เขียนยันต์หนีบเป็นยันต์ราหู น่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นยันต์ที่สามารถบูชาใช้ได้ครอบคลุมทั้งหลายทั้งปวง(และเป็นปริศนาธรรมเชิงนัยยะ) หรือในการเสกโดยท่านไม่ต้องดูฤกษ์ยามหรือรอจนจะเกิดสุริยะประภา หรือ จันทะระประภา เพราะจิตแห่งพระอริยะเจ้าไม่เน้นฤกษ์ยาม แต่จะเน้นจิตใจที่แน่วแน่แห่งผู้ที่บูชาคุณแห่งยันต์ราหู พระคาถาบูชายันต์ราหู หลายๆท่านก็คงรู้ดีแล้วนะครับว่า

กุเสโต มะมะ กุเสโต โตราโม มะมะ โตราโม คุยหะโม มะมะคุยหะโม คุตติโม มะมะคุตติโม(สวดกลางวัน)

ยะถาตัง มะมะ ตังถายะ ตังวะตัง มะมะ ตังวะตัง ตังเสกา มะมะ กาเสตัง กาติยะ มะมะ ยะติกา(สวดกลางคืน)

พุทธคุณยันต์หนีบราหู ครูบาขันแก้ว อุตตฺโม และ ครูบาชุ่ม โพธิโก

-ผู้ใดได้บูชายันต์ราหูนี้แล้วต้องการสิ่งใดก็ต้องทำการสวดพระคาถา108จบทุกวันก็จะสำเร็จทุก ประการ

-ถ้าวัว ควายไม่สบาย ก็เอายันต์หนีบราหูนำไปแช่น้ำสวดพระคาถา12จบ นำน้ำไปไห้วัว ควายกิน ก็จะหายสิ้นแล

-ถ้าต้องการให้ผู้ใดรัก ก็เขียนชื่อผู้นั้นใส่ในใบตาล หรือใบลาน แล้วนำไปใส่ในยันต์หนีบไว้ สวดพระคาถา12จบ ผู้นั้นจะคิดถึงเรา และรักเราแล...

-ถ้าจะให้ค้าขายของดี เอายันต์หนีบราหูนี้ไปแช่น้ำ ทำน้ำมนต์แล้วประพรหมสินค้า หรือนำยันต์หนีบราหูไปแขวนที่หน้าร้านค้า แล้วเขียนลงใบลาน หรือใบตาลว่า หญิง-ชายทั้งหลายทั่วพื้นปฐพี นำไปสอดในยันต์หนีบ แล้วสวดพระคาถา12 จบ คนจะเข้าซื้อของในร้านค้าไม่ขาดสาย

-ถ้าเป็นถ้อยคดีความ ให้เขียนชื่อคนผู้นั้นใสใบลาน หรือใบตาล เราจะกลับมาเป็นผู้ชะนะคดีความ

-ดวงตก เคราะห์ร้าย ชะตาตกอับ ให้บูชายันต์หนีบที่เป็นยันต์ราหูแล้วสวดพระคาถาทั้งกลางวันและกลางคืน อานุภาพของยันต์นี้คุ้มครองดวงชะตาได้ดี

-อยากเป็นเสน่ห์แก่ท้าวพระยา เทวดาหรือคนทั้งหลาย ก็พกยันต์หนีบราหูบูชาเถิด ก็จะเป็นที่รักแก่ท้าวพระยา เทวดา และคนทั้งหลาย

นี่เป็นแค่ตัวอย่างแห่งคุณยันต์ราหูที่ท่านกล่าวไว้แบบย่อๆ เพราะคุณแห่งยันต์ราหู มี108ประการ สุดแล้วแต่อธิฐาน

**สิ่งที่เขียนลงใส่ในยันต์เช่น ใบลาน ใบตาล นั้นปัจจุบันก็ยังพอหาได้(ถ้าคิดที่จะบูชาจริง) แต่ด้วยความง่ายกับยุคสมัย ท่านเลยให้เขียนในแผ่นกระดาษสาแทนได้ ก็แล้วแต่ตำราเช่นกันครับว่า จะให้ใช้ใบไม้อะไร เช่นใบรักซ้อน หรือใบรัก2หาง จะเป็นเสน่ห์ ใบโพธิที่ร่วงจากต้นแล้วใบหงายขึ้น ใบดอกลำโพง หรือใบพลู2หาง เยอะครับเพราะแต่ละที่ท่านจะบอกวิธีใช้ต่างกันไปตามและละครูบาอาจารย์ที่สืบทอดกัน

      แต่พอมายุคหลังๆหรือปัจจุบันนี้ความเชื่อเรื่องยันต์หนีบจะเป็นความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง มหาเสน่ห์(มาก ถึงมากที่สุด) เมตตา หรือแค่ชนะศัตรู ก็แค่นั้น  อีกอย่างในทางคุณค่าหรือคุณแห่งยันต์หนีบที่ทางล้านนายังเชื่ออย่างฝังใจว่า ถ้าผิดหวัง พลาดหวัง อยากสมหวังในรัก(ไม่ว่าผู้หญิง หรือ ผู้ชาย) เกิดความไม่สบายใจ ขึ้นโรงขึ้นศาล มีคดีความ ยันต์หนีบนี่แหละครับน่าจะเป็นทางออกสุดท้าย....

    และเช่นกันยันต์หนีบศาสตร์แห่งแดนล้านนาคงจะเหมาะสมเป็นตัวแทนของนิยามหนึ่งที่ว่า “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา” ที่ยังเป็นศาสตร์แห่งภูมิปัญญาครูบาอาจารย์ล้านนาที่ท่านได้คิดอย่างรอยคอบทั้งในเชิง บุคลาธิษฐาน และทางธรรมาธิษฐาน ทรงคุณค่ายิ่งแห่งการสืบทอดยันต์หนีบที่ชื่อว่า ยันต์ราหู ได้เป็นอย่างดี

***ในที่นี้ผมจะกล่าวอ้างเรื่องยันต์หนีบราหู ของครูบาขันแก้ว และครูบาชุ่ม โพธิโก เพราะถือว่าท่านเป็นครูบาอาจารย์แห่งคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก โดยการถ่ายทอดสมาธิอาณาปานสติให้แก่บรรดาคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก โดยการนำของ อาจารย์หมอ สมสุข คงอุไรเท่านั้น  เพราะเจาะแบบตรงประเด็นจะได้รู้ที่มาที่ไปแห่งยันต์หนีบราหู จะไม่กล่าวถึงยันต์หนีบของแต่ละที่ ที่เขามีชื่อเสียงแต่ก่อน แต่ในยันต์หนีบที่หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ทรงวิชาท่านอื่นท่านก็ได้สร้างยันต์หนีบไว้ ว่าท่านเหล่านั้นจะสร้างด้วยยันต์อะไรก็สุดแต่ท่านที่สรรสร้างมา เพราะด้วยความบริสุทธิ์แห่งครูบาอาจารย์ในการก่อน ท่านไม่ได้ถือเป็นเชิงพานิช แต่ท่านสร้างเพื่อให้แก่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของท่านไว้ใช้บูชากันเพื่อความสมหวังในสิ่งที่ลูกศิษย์ปรารถนา เพราะความปรารถนา ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ท่านก็เลยคิดค้นยันต์รูปแบบที่ต่างกัน แตกแขนนงกันไปตามแต่ละพื้นที่จนกลายเป็นตำราการสืบทอด ที่ยากจะจบว่า ยันต์หนีบ หรือรูปแบบยันต์จะสิ้นสุดที่รูปแบบใด ก็เท่านั้น

ขอขอบคุณบันทึกของคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ที่ได้รับการถ่ายทอดเรื่องยันต์จากครูบาขันแก้ว และเกร็ดความรู้เรื่องยันต์หนีบจากพ่อครูทั้งหลายที่เมตตาอธิบายพร้อมทั้งให้ดูเป็นตำราในเชิงการอนุรักษ์ของยันต์ล้านนา และขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกคนครับจากใจ  

                                                                                  ธันชนก

ราคา :
 อ่านเล่นๆ
ร้าน :
โทรศัพท์ :
 0965956322, 0965956322
วันที่ :
 24/06/13 19:46:04
 
 
ยันต์หนีบ ราหู ครูบาขันแก้ว วัดสันพ พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.