ตะกรุดมงคลจักรวาล
ตะกรุดลูกนี้ชื่อว่า “มงคลจักรวาล” เป็นชื่อที่ครูบาขันแก้วท่านเรียก......แต่..
เป็นคนละแบบกับ พญายันต์ “อหิหัสสะ” จักรวัตติ หรือ แก้วสารพัดนึกนะครับ ในตัวยันต์ที่ครูบาขันแก้วท่านจะเขียนอักระว่า
มะ
|
นิ
|
ตุ๊
|
สะ
|
สะ
|
มะ
|
นิ
|
ตุ๊
|
ตุ๊
|
สะ
|
มะ
|
นิ
|
นิ
|
ตุ๊
|
สะ
|
มะ
|
มะ นิ ตุ๊ สะ = มาจาก มะ นิ ทุ สะ หรือ
ทุ สะ มะ นิ ย่อมาจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค (หัวใจอริยะสัจ4)
ยันต์นี้ ตำราบางแห่งเขาเรียกว่ายันต์ “แท่นเหล็ก”หรือ “ยันต์หัวใจเหล็ก”แต่ชื่อเต็มที่ครูบาอาจารย์ท่านเรียกคือ “ยันต์หัวใจปถมัง” ด้วยเหตุที่ว่า ชื่อเรียกต่างกันนั้น เพราะแต่ละตำราที่สืบทอดกันมาเขาอาจจะมุ่งเน้นที่ ข่าม กันภัย คงกระพันเป็นหลัก ในยุคโบราณกาลก่อนอาจจะมีการออกสงครามกันบ่อย เหตุเภทภัยต่างๆจากธรรมชาติก็ดี หรือจากมนุษย์ก็ดี ยันต์นี้เลยกลายเป็นแบบฉบับยันต์มาตรฐาน ที่เหล่าบรรดาครูบาอาจารย์ในยุคก่อนๆทำให้ลูกศิษย์ไว้ป้องกันตัว นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมตามตำราปั๊บสาต่างๆเขาจึงเชื่อกันว่า เป็นแคล้วคลาด คงกระพัน เสียส่วนใหญ่
ยันต์นี้มีมาแต่เมื่อใดไม่ปรากฏเพราะสืบทอดเป็นตำรา ปั๊บสามานานมาก มีหลายๆที่ในพม่าและทางล้านนา ยันต์นี้ก็ไม่ได้มีที่ทางภาคเหนือที่เดียวนะครับ ทั่วประเทศไทยที่นับถือพระพุทธศาสนามียันต์แบบนี้(แต่เป็น อักษรขอม) เป็นร้อยเป็นพันสำนัก ในรูปยันต์แบบเดียวกันนี้ก็มีชื่ออีกเป็นร้อยเป็นพันชื่อ เพียงแค่สลับตำแหน่งของอักขระในยันต์ ก็เลยทำให้คุณวิเศษของยันต์เปลื่ยนไปได้
บางสำนักเอายันต์นี้ไปเขียน แล้วลบ.... ท่านจะได้ผงวิเศษที่เรียกว่า “ผงปถมัง” จนทำให้มีการเขียนอักขระยันต์เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ๆ ให้เป็นสูตรพิศดาร ตามแต่ละสำนัก เพราะอาจเป็นวิธีสร้างกลเม็ดในการสอนลูกศิษย์ให้มีจิตที่แน่วแน่มากขึ้นในการเขียนและลบผงปถมัง
คาถาหัวใจ พระอริยะสัจ เป็นพื้นฐานในการเขียนรูปแบบยันต์นี้ขึ้นมา เพราะบุคคลใดๆก็ตามที่ปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนาได้ถูกต้อง ย่อมเห็นความจริง4ประการดั่งเช่นที่พระพุทธเจ้า ที่พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสรู้ ทรงประกาศสัจจธรรมที่ชื่อว่า”ธรรมจักรกัปวัตนสูตร” เป็นพระสูตรสูงสุด ครูบาอาจารย์แต่โบราณได้รำลึกถึงคุณวิเศษแห่งพระอริยะสัจนี้ ท่านก็เลยนำมาผูกเป็นรูปแบบ ของรูปยันต์และคาถา ไว้ป้องกันภัย
ทางล้านนาที่เห็นปั๊บสา ตำรา บางเล่มมีอุปเทห์ มากกว่านั้นว่า.........
ยันต์นี้เป็นสมบัติแห่งท้าวมหาราชทั้ง4 หรือ ท้าวจตุโลกบาล ทั้ง4 คือ
1.ท้าว เวสสุวรรณ
2.ท้าว ธตรฐ
3.ท้าว วิรุฬหก
4.ท้าว วิรูปักษ์
เพราะได้รวมคุณวิเศษต่างๆของท้าวมหาราชไว้ให้บังเกิด ทั้งมีโชคลาภ กันผี กันงู กันสัตว์มีพิษทั้งบนพื้นดินแลในอากาศ
สาเหตุที่ครูบาขันแก้วท่านเรียกยันต์นี้ว่า “มงคลจักรวาลนั้น” เพราะยันต์นี้ ได้นำเอาพระคาถาหัวใจอริยะสัจ4 มาเป็นยันต์มงคลสูงสุดเปรียบเสมือนแก้วสารพัดนึก เฉกเช่นเดียวกันยันต์ของภาคกลาง และ ภาคใต้ที่ชื่อว่า มหาบุรุษ8จำพวก พระยันต์ลูกนี้อยู่ที่ใดจักเจริญที่นั่น เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ ป้องกันคุณไสย์ เป็นก่าสะท้อนได้ กันภัย สุดแต่อธิฐาน ผู้ใดทำการภาวนาคาถานี้ว่า ตุ๊ สะ นิ มะ เจื่อๆ(บ่อยๆ) ผู้นั้นจะไม่ต้องตกในอบายภูมิเลย ป้องกันผีหลอก ไข้ป่า ลูกเล็กเด็กแดงร้องไห้ตอนกลางคืน เอายันต์ลูกนี้ไว้หัวเปล หรือที่นอนเด็ก จะไม่ร้องเลยยันต์ลูกนี้มีค่ามากนักแม้แต่พญามัจจุราช ยังต้องกราบไหว้(อริยะสัจ4)ตามตำราว่าแบบนี้
รูปแบบยันต์นี้มีครูบาอาจารย์ท่านใดบ้างที่ได้สร้างกัน ผมก็ตอบเลยนะครับว่ามีมากมายหลายๆท่านครับ เพียงแค่ว่าเราไม่รู้ว่าครูบาอาจารย์ หรือพ่อหนานท่านใดบ้างไม่อาจขอฟันธงเจาะจง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะครูบาอาจารย์แต่ละท่านสร้างตะกรุด หรือยันต์มาก็ไม่มีเอกลักษณ์ใดตายตัว หรือมีการตอกโค๊ตดังเช่นปัจจุบัน แต่บรรดาครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านก็ตั้งใจสร้างยันต์นี้ให้ลูกศิษย์ไว้บูชา
ในส่วนยันต์ที่เรียกว่า”มงคลจักรวาล”นี้ แต่ละสำนักมีการสร้าง และใช้ยันต์ที่แตกต่างกันออกไป อาจไม่เหมือนกันนะครับ(ไม่นับรวมกับ5พญายันต์ล้านนา) บ้างใช้ยันต์ปโชตา บ้างใช้ยันต์นวะภาทั้งเก้า(นวะภาเก้ากลุ่ม) บ้างก็ใช้ยันต์ไตรสรณคมน์ บ้างก็ใช้ยันต์น้ำบ่อแก้ว บ้างก็ใช้ยันต์พระเจ้าเข้านิพพาน เป็นต้น แต่สำหรับครูบาขันแก้วท่านใช้ยันต์ หัวใจปถมังนี้และครับ
และอีกเช่นเดียวกันที่หลวงพ่อครูบาอาจารย์หลายๆท่านนำคาถาหัวใจอริยะสัจ4มาทำไว้ข้างหลังเหรียญ เพื่อต้องการให้ลูกศิษย์มีของวิเศษเป็นพระพุทธคุณติดตัวเช่นกันครับ
|