รูปหล่อหลวงปู่แผ้ว ปวโร จ.นครปฐม รุ่น 1 วัดรางหมัน ที่ระลึกเททองหล่อระฆัง วัดรางหมัน เมื่อ 4 ตุลาคม 2552 หลวงปู่แผ้วปลุกเสกเดี่ยว ในวันงานเมื่อออกนำให้เช่าบูชา มีผู้มาเช่าบูชากันจำนวนมากและหมดไปเพียงไม่กี่วัน เนื่องจากมีทหาร ตำรวจ ตลอดจนคนที่ชอบลอง หลายท่านนำไปทดลองยิงกันแล้ว ลูกกระสุนขัดลำกล้อง จึงเชื่อกันว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านคงกระพัน นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือมีประสบการณ์เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่วัตถุมงคลของหลวงปู่แผ้ว มีประสบการณ์ดี น่าเชื่อถือทุกรุ่น ลองสอบถามพระที่วัด หรือประชาชนในระแวกใกล้เคียงดูได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นพระดี ราคาถูก พุทธคุณสูงไม่ต้องไปหาเช่าพระราคาแพง หลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้าน หรอกครับ และล่าสุดหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ยังมีลงข่าว วัตถุมงคล หลวงปู่แผ้ว ด้านการทดสอบพุทธคุณอีกแล้วครับ ขออนุญาต นำบทความจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553 บางตอนมาลงให้ศิษย์ที่รักและศรัทธาในบารมีหลวงปู่แผ้วได้ชื่นชมกันครับ คมชัดลึก : ข้อถกเถียงในวงการผู้นิยมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างหนึ่งที่ไม่มีวันจบสิ้น “ของดีไม่ต้องลอง หรือ ของดีต้องลองได้” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภาพข่าวการลองของออกมาให้ชมกันบ่อย ๆ ทำให้ปัจจุบันมีคลิปวิดีโอกลางลองของเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการลองของด้วยการใช้ปืนยิงไปที่พระเครื่องและวัตถุมงคลชั้นนั้น และเหตุผลยอดฮิตของการลองของคือ “ความอยากรู้และอยากทดสอบพุทธคุณเพื่อความมั่นใจหากนำไปใช้” ในบรรดานักลองของนักทดสอบพุทธคุณของพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่เลื่องชื่อของ จ.นครปฐม ต้องยกให้ ดาบตำรวจสุธี เสรีเผ่าวงษ์ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ อำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบ.หมู่ อ.ก.บก.7) หรือเจ้าของฉายา “ดาบธี ภาค 7” ซึ่งที่ผ่านมาเขาได้นำพระเครื่อง เครื่องรางของขลังของพระเกจิอาจารย์วัดและสำนักต่างๆ มาทดสอบนับจำนวนไม่ถ้วน แต่เมื่อมาทดสอบพระเครื่องของหลวงปู่แผ้ว ปวโร พระเกจิชื่อดัง วัดประชาราษฎร์บำรุง หรือ วัดรางหมัน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าเมืองกำแพงแสน ชีวิตของดาบธี ภาค 7 เกือบมีอันเป็นไป หากไม่ได้เข้าไปขอขมาหลวงปู่แผ้ว “อย่าว่าแต่ตำรวจในนครปฐมเลย ตำรวจทั้งภาค 7 พระที่แขวนในคออย่างน้อยต้องมีพระหลวงปู่แผ้ว 1 องค์ ทั้งรุ่นที่วัดรางหมัน หรือรุ่นอื่นๆ ที่หลวงปู่แผ้วเคยไปนั่งปรกปลุกเสก เพราะเชื่อว่าพุทธคุณด้านมหาอุดของหลวงปู่แผ้วเป็นที่ร่ำลือ มีคดีหลายคดีที่ สน.เมืองนครปฐม ผู้ร้ายหลายคนที่ถูกตำรวจยิงแล้วไม่เป็นอะไร และในจำนวนนี้มีอยู่ 1 คดีที่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความว่าถูกยิงแต่ยิงไม่ออก สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันของทุกคดีคือ มีพระหลวงปู่แผ้วเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ” นี่คือคำยืนยันของ ดาบธี ภาค 7 พร้อมกันนี้ ดาบธี ภาค 7 ยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยเชื่อว่าพระหลวงปู่แผ้ว จะมีพุทธคุณเป็นพระเหนียวเป็นพระมหาอุดตามกิตติศัพท์และคำร่ำลือ จึงหาพระของหลวงปู่แผ้วจากวัดและสำนักต่างๆ ที่นิมนต์หลวงปู่แผ้วไปปลุกเสกมาทดสอบ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า พระหลวงปู่แผ้วมีพุทธคุณสมคำร่ำลือจริงๆ จากนั้นจึงนำเงินที่เก็บไว้มาเช่าซื้อพระหลวงปู่แผ้ว ซื้อไปซื้อมากลายเป็นว่าใช้เงินไปกว่า 1 ล้านบาท ในระยะแรกคนก็หัวเราะเยาะว่า เล่นพระเก่าอยู่ดีๆ ทำไมเป็นเล่นพระใหม่ และไม่น่าเชื่อเลยว่า หลังจากเก็บพระหลวงปู่แผ้วอยู่ไม่นาน พระหลวงปู่แผ้วก็ช่วยให้มีเงินมากขึ้นกว่าเดิมเกือบ 10 เท่า ทั้งนี้เคยปล่อยให้เช่าพระหลวงปู่แผ้วรุ่นแรกเนื้อเงินในราคาหลักแสนบาท สำหรับผลของการลองพระหลวงปู่แผ้วนั้น ดาบธี ภาค 7 บอกว่า ตั้งแต่เริ่มลองพระหลวงปู่แผ้วมา ชีวิตที่เคยเป็นปกติสุขมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ครอบครัวไม่มีความเป็นสุข ทะเลาะกับลูกเมียอย่างไม่มีเหตุผล ต้องออกไปนอนนอกบ้านเป็นเวลาหลายเดือน จึงมีความคิดว่าต้องเอาเพื่อนๆ คอเดียวกันที่ชอบลองของไปขอขมาหลวงปู่แผ้ว ในวันที่ไปขอขมาหลวงปู่แผ้วนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า ขณะที่ก้มกราบหลวงปู่แผ้วนั้นท่านทักออกมาว่า “ลองของกูพอหรือยัง” จากนั้นก็เล่าความจริงให้หลวงปู่ฟัง พร้อมกับขอขมาและให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ให้ จากนั้นเป็นต้นมาไม่มีความคิดที่จะลองพระหลวงปู่อีกเลย แม้วันนี้จะมีคนเอาเงินล้านมาวางก็ไม่กล้าลอง เพราะหากลองอีกต่อไปชีวิตอาจมีอันเป็นไป เหมือนกับตำรวจในทีมคนหนึ่งเกือบจะกลายเป็นอัมพาต อันมีผลมาจากการลองพระหลวงปู่แผ้ว ทางด้านดาบตำรวจอุดม ฤทธิ์จนเวศ ผู้บังคับหมู่งานปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม บอกว่า โดยส่วนตัวแล้วเป็นอีกผู้หนึ่งที่ชอบลองของเช่นเดียวกับดาบธี หลายครั้งที่ลงพื้นที่ปราบปรามผู้ร้าย หากต้องใช้ปืนยิงต่อสู้กับคนร้ายส่วนใหญ่ปืนที่ใช้จะยิงไม่ออก สืบไปสืบมาพบว่า ผู้ร้ายส่วนใหญ่แขวนพระหลวงปู่แผ้ว จึงไปหาพระเครื่องและวัตถุของท่านมาทดสอบ อย่างไรก็ตาม จากการนำพระของหลวงปู่แผ้วไปลองหลายสิบครั้ง สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง คือ อยู่มาเช้าวันหนึ่งความดันขึ้นสูงไปที่ ๒๔๐ เรียกว่าเกือบเป็นอัมพฤกษ์เลยทีเดียว ทั้งๆ ที่เป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลังจากมากราบขอขมาหลวงปู่แผ้ว อาการต่างๆ ก็หายเป็นปกติ จึงตั้งจิตอธิษฐานกับท่านว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป จะไม่ทดสอบพระเครื่องของหลวงปู่แผ้วอีก พระดีต้องลองได้เสมอ “พุทธคุณของพระเก่า พระกรุ เรื่องเหนียว คงกระพัน และแคล้วคลาด เป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาจนกลายเป็นความเชื่อ ในขณะที่พุทธคุณพระใหม่ไม่จำเป็นต้องอาศัยเรื่องเล่า เหนียวไม่เหนียว เป็นมหาอุดหรือไม่เป็นมหาอุด เราสามารถทดสอบได้ตัวเอง แค่วางเหรียญลงแล้วใช้ปืนจ่อยิงไปที่เหรียญ รู้กันเดียวนั้น” นี่คือการทดสอบพุทธคุณในองค์พระของ นายพรพิทักษ์ สมบูรณ์ทรัพย์ หรือชื่อที่รู้จักในวงการพระเครื่อง และวงการนกเขาในนาม “ตูน สมบูรณ์ทรัพย์” ประธานที่ปรึกษา บริษัท คิงโฟม จำกัด และ บริษัท ซี เอ็ม วาย เค จำกัด พร้อมกันนี้ ตูน สมบูรณ์ทรัพย์ ยังบอกด้วยว่า พระเก่า พระกรุ แม้ว่าจะมากด้วยพุทธคุณ แต่มีเรื่องค่านิยมมาเกี่ยวข้อง บางองค์เป็นหมื่น เป็นแสน และเป็นล้าน จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำมายิงเพื่อทดสอบพุทธคุณ ส่วนพระใหม่ค่านิยมอยู่ในหลักร้อย รวมทั้งเป็นของแจกฟรี อย่างกับพระหลวงปู่แผ้ว ปวโร รุ่นมเหศวร ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของวัด หลวงปู่แจกฟรี ๒ เนื้อ คือ เนื้อทองแดงกับเนื้อนวโลหะ ใครอยากรู้อยากทดสอบพุทธคุณก็ไปลองยิงกันว่าเล่น แต่ก็เจอดีกันทุกราย โดยล่าสุดได้ทดลองเหรียญรุ่นดังกล่าว เนื้อทองคำ เบอร์ ๔ ปรากฏว่าปืนยิงออก แต่ขัดลำกล้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ในย่านกำแพงแสนมีการทดสอบพุทธคุณของพระหลวงปู่แผ้วมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบระหว่างพุทธคุณที่เป็นมหาอุดกับเมตตามหานิยมนั้น พุทธคุณที่เป็นมหาอุดนั้นทดสอบง่าย และเห็นผลได้ชัดเจนกว่าพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า คนเล่นพระ คนแขวนพระอยากได้พระที่มีพุทธคุณทางมหาอุดกันทั้งนั้น ทุกวันนี้แม้ว่าจะมีพระดีและขึ้นชื่อว่าพระแพง แต่ก็เลือกที่จะนิมนต์พระหลวงปู่แผ้ว ปวโร ทั้งหมด เพราะเชื่อในพุทธคุณที่ผ่านการทดสอบ และมีเรื่องเล่าเรื่องปาฏิหาริย์นับ