หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) เทพเจ้าแห่งความเมตตา มีพลังจิตแก่กล้าเหลือธรรมชาติ วัดพระพุทธบาทชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
ชาติภูมิ พระครูวิชิตพัชราจารย์ มีนามเดิมว่า ทบ นามสกุล ม่วงดี เกิดที่บ้าน ยางหัวลม อำเภอ เมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันศุกร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2524 บิดาชื่อ นายเผือก มารดาชื่อ นางอินทร์ มีพี่น้องรวมกันทั้งหมด 4 คน
เมื่อหลวงพ่อทบเดินธุดงค์ฉันของป่าไม่กลัวอันตรายหรือ ท่านตอบว่าก็ดูพวกสัตว์ต่างๆ มันกิน ก็ไม่เห็นมันเป็นอันตรายเลยนี่ นอกจากนี้หลวงพ่อทบยังเคยผจญกับโขลงช้างป่า ซึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังทิศที่ท่านปักกลดภาวนาอยู่หลายครั้ง พอพวกมันเดินเข้ามาใกล้กลดของท่าน ก็จะมีจ่าโขลงออกมายืนบังกลดของท่านเอาไว้ ไม่ให้ช้างเชือกอื่นๆ เข้ามาใกล้กลดของท่านได้เลย
เรียนวิชากับหลวงปู่ศุข หลังจากที่หลวงพ่อทบได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมงแล้ว ท่านยังคงตั้งใจที่จะแสวงหาวิชาความรู้อยู่อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อท่านทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดศิลาโมงเข้าที่เข้าทางแล้ว ท่านได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของ พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ว่าเป็นผู้สำเร็จวิชา 8 ประการ ซึ่งมีน้อยองค์นักที่จะสำเร็จได้ ท่านจึงได้เดินธุดงค์ออกจากวัดศิลาโมง มุ่งหน้าไปที่จังหวัดชัยนาท ในที่สุดท่านก็ได้กราบนมัสการหลวงปู่ศุขสมความปรารถนา และที่วัดปากคลองมะขามเฒ่านี้เอง ท่านก็ได้พบกับพระเกจิอาจารย์อีก 2 รูปที่ได้เดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่ศุข เพื่อขอเรียนวิชาก่อนหน้าที่ท่านจะมาคือ 1. หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน 2.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้งการเรียนวิชาจากหลวงปู่ศุขนั้นก่อนที่ท่านจะมอบวิชาอาคมอะไรก็ตามให้กับศิษย์นั้น ท่านจะทดสอบพลังจิตของศิษย์แต่ละองค์เสียก่อนว่ามีความกล้าแข็งสักเพียงใด จากนั้นจะถามถึง วัน เดือน ปี เกิด ของแต่ละองค์เสียก่อน ซึ่งการที่ท่านต้องทดสอบและไต่ถามก็เพื่อท่านจะได้ทราบถึงความสามารถ วาสนา บารมีของแต่ละองค์ ว่ามีมากน้อยเพียงใด ควรจะมอบวิชาอะไรให้ถึงจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งหลวงปู่ศุขท่านก็ได้มีเมตตา มอบวิชาอาคมต่างๆ ให้กับหลวงพ่อทบหลายอย่าง ซึ่งท่านก็ได้ใช้วิชาเหล่านั้นสงเคราะห์ญาติโยมมาตลอดชีวิตของท่าน
มีวาจาสิทธิ์ คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อทบก็คือ ท่านเป็นผู้มี วาจาสิทธิ์ คือกล่าวอะไรก็เป็นเช่นนั้น คนที่ทราบเรื่องดีต่างก็มีความยำเกรงมาก โดยเฉพาะพวกอันธพาลงานวัดหลายคนประสบมา ในสมัยที่หลวงพ่อทบเคยเป็นประธานในงานพระอุโบสถ กุฏิสงฆ์ วิหาร ที่ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว บางแห่งได้มีพวกนักเลงหัวไม้ก่อการทะเลาะวิวาทตีหัวฟันแทนกันบ้าง เสร็จแล้วก็วิ่งมาหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนละทิศละทาง จนเป็นที่หวั่นเกรงของประชาชนทำให้ไม่กล้ามาเที่ยวงาน เป็นอุปสรรคในการจัดงานของทางวัดอย่างใหญ่หลวง แต่พอเรื่องราวทราบถึงหลวงพ่อทบเท่านั้น ท่านก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เจ้าพวกที่มาก่อเรื่องนี้มันไปไหนไม่รอดหรอก วนเวียนอยู่กับวัดนี้แหละ แล้วเหตุการณ์ก็จริงอย่างที่ท่านว่าไว้ อันธพาลก่อกวนงานวัดมันหาได้หลบหนี้ไปพ้นไม่ เหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งพวกมันไว้ ให้พวกมันวิ่งวนเวียนอยู่ภายในวัดนั้นเองไปไหนไม่รอด ในที่สุดก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากตัวไปเข้าห้องขังจนได้ เมื่อเหตุเกิดบ่อยครั้งเข้าข่าวก็ขจายไปทั่ว ทุกคนก็เริ่มเชื่อแล้วว่าต้องเป็นเพราะความที่หลวงพ่อทบท่านมีวาจาสิทธิ์นั่นเอง
|