."พิธีการหุงเคี่ยวสีผึ้ง"นั้นจะต้องทำการให้เสร็จใน ทิวา ราตรี หรือหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนเท่านั้นจึงจะปรากฏผลดีที่สุด ขั้นตอนการทำนั้นทำได้ยากมากเพราะวิธีการหุงสีผึ้งตามตำหรับของท่านนั้น จะต้องไปทำการหุงกลางเมรุเผาศพในป่าช้าและจะต้องเป็นศพผู้หญิงที่ตายทั้งกลม หลังจากหุงสีผึ้งแล้ว ครูบาต๋าท่านจะมอบให้ศิษย์ไปใช้ บางคนก็เอาอิ่นใส่บ้างเอา นกสาริกา นางกวัก ตะกุด ของครูบาต๋าใส่ลงไปด้วย บางคนก็พก แต่สีผึ้งเปล่าๆ
สีผึ้งของท่านจะมีกลิ่นหอมตลอดเวลา ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์
"สำหรับความมหัศจรรย์" และอานุภาพเรื่องมหาสเน่ห์ของสีผึ้งนั้นมีครั้งหนึ่งครูบาต๋าท่านได้นำสีผึ้งที่ท่านปลุกเสก นำไปป้ายไก่ป่า(บริเวณหลังวัดป้าเหล่าในสมัยนั้น ปกคลุมไปด้วยป่า)เมื่อป้ายเสร็จแล้วนั้นท่านก็เดินกลับวัดตามปกติแต่ปรากฏว่ามีไก่ป่าที่ถูกสีผึ้งของท่านป้ายนั้นเดินทางมาตามท่านถึงในวัดและไม่ยอมไปไหนเลยจนเป็นที่มาของ"สีผึ้งไก่ป่า" หรือ"สีผึ้งไก่หลง"
"วิธีใช้"ท่านครูบาต๋าบอกว่าไม่ต้องมีคาถากำกับให้ อธิฐานแล้วใช้ทาปากได้เลยเพราะท่านมนต์คาถาใส่ให้หมดแล้ว สีผึ้งของท่านเด่นทางเมตตามหาเสน่ห์ ใช้พกพา ทาปาก เวลาติดต่อเจรจาพูดคุย หนุ่ม ๆ นิยมทาปากเพื่อพูดคุยเรียกลูกค้า พกพาไว้เป็นเมตตามหานิยมผู้คนเจ้านายเห็นรักใคร่เอ็นดู ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน
"พุทธคณ"สีผึ้งของท่านนั้นเด่นด้านเมตตามหาสเนห์ใช้พกพาทาปากเวลาติดต่อเจรจาการงาน พูดคุยหนุ่มๆนิยมใช้ทาปากเพื่อพูดคุยกับสาวๆที่หมายปอง พ่อค้าแม่ขายใช้ทาปากเพื่อพูดคุยเรียกลูกค้าพกพาไว้เป็นเมตตามหานิยมผู้คน เจ้านาย เห็นรักใคร่เอ็นดู ประสพความสำเร็จในอาชิพการงาน
สวยตลับเดิม
สนใจสอบถามได้ครับ0861936900