พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
พระเกจิสายภาคกลาง

พระกริ่ง หลังปิ เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุทัศน์ ปี 2506

(ปิดการประมูลแล้ว)

พระกริ่ง หลังปิ เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุทัศน์ ปี 2506


พระกริ่ง หลังปิ เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุทัศน์ ปี 2506

ชื่อพระ :
 พระกริ่ง หลังปิ เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุทัศน์ ปี 2506
รายละเอียด :
 

กริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) พระกริ่งวัดสุทัศนเทพวรารามที่สืบสานตำราการสร้างต่อมาอีกรุ่นหนึ่งที่น่า สนใจมิน้อยทีเดียว เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวิสุทธาจารย์ ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น พระกริ่งหลังปิ มีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีขนาดความสูง 3.2 เซนติเมตร ฐานกว้าง 1.9 เซนติเมตร ฐานบัวมี 7 คู่ ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมา มีจำนวนสร้างมากถึง 10,000 องค์ ประกอบพิธีเททองและพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาว มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย โค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี และรอยจารที่ฐานชั้นล่างเกือบจะทุกองค์ด้วย จารดังกล่าวเป็นจารยันต์กอหญ้า โดยหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การสร้างพระกริ่ง หลังปิ 
ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี เพื่อแยกความแตกต่างพระซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระ มงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) เมื่อประกอบพิธีเททองพระกริ่งเสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม)ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระ คณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์รวมทั้งหลวงปู่ ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วย เป็นเวลาทั้งสิ้นปีเต็ม แล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวันที่ ๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘เป็นเวลาสามวันสามคืน โดยมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้านั่งปรกปลุกเสกจำนวนกว่า ๔๐ รูป อาทิเช่น 
๑. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
๒.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช 
๓.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม 
๔.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม 
๕.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง 
๖. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี 
๗.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ 
๘.หลวงพ่อถิร์ วัดป่าเลไลยก์ 
๙.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง 
๑๐.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง 
๑๑.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม 
๑๒.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง 
๑๓. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ 
๑๔.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง 
๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม 
๑๖.หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน 
๑๗.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต 
๑๘.หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ 
๑๙.หลวงปู่นาค วัดระฆัง ฯลฯ เป็นต้น 
กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาวแบบปีกแมลงทับ มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย 
พระกริ่งหลังปิบางส่วนที่ยังคงเหลือได้เก็บไว้ในพระอุโบสถ บางส่วนที่ยังไม่ได้ตัดก้านชนวน ก็เก็บไว้ทั้งก้าน ต่อเมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2526 ทางมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ได้รับอนุญาตจากคณะสงฆ์ให้นำพระกริ่งหลังปิ ออกจากพระอุโบสถมาให้ประชาชนเช่าบูชาอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของพระกริ่งที่ยังไม่ได้ตัดจากก้าน ทางมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ได้ตัดแต่งแล้วตอกโค้ตตัว ปิ ที่ทำขึ้นใหม่มาตอก แล้วนำไปให้พระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง) วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม อธิษฐานจิตปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง 
เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค. ๒๕๒๗ ได้มีการค้นพบพระกริ่งหลัง ปิ ภายในพระอุโบสถวัด สุทัศน์ฯ โดยพบอยู่จำนวน ๗๐๐ องค์เป็นพระที่ตัดจากช่อแล้วจำนวนสองร้อยเศษ ที่เหลือเป็นพระที่ยังอยู่ครบทั้งช่อ ทางวัดได้ส่งให้ช่างทำการตัดออกเป็นองค์ๆซึ่งกว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เมื่อ ๑๕ ม.ค.๒๕๒๘ แล้วทางวัดสุทัศน์ได้นำไปถวายให้หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีทำการปลุกเสกอีกครั้ง.มูลเหตุที่ทำให้พบพระกริ่งหลัง ปิ คือพระ ทองสุข ผู้ดูแลด้านพระเครื่องวัตถุมงคลได้ทำการเปิดพระอุโบสถทำการสำรวจโดยมีคณะ กรรมการของวัดซึ่งมีคุณสำเภา ปานรัตน์และคุณธรรมนูญ เพชรลีลาร่วมอยู่ด้วย เนื่องจากพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม ) ปี ๒๕๑๖ ได้มีประชาชนบูชาไปจนหมด จึงได้เปิดพระอุโบสถเพื่อนำเอาพระสมเด็จที่เก็บรักษาไว้ภายในพระอุโบสถออกมา ให้สาธุชนได้ร่วมบูชา เพื่อนำปัจจัยไปซ่อมแซมพระอารามที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา โดยการเปิดอุโบสถได้รับคำอนุญาตจากท่านเจ้าอาวาส. ทำให้พบพระกริ่งหลัง ปิ ด้วย พระกริ่งหลัง ปิ เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เสงี่ยมสร้างไว้เมื่อ คราวปี พ.ศ.๒๕๐๖และปลุกเสกใหญ่ พ.ศ.๒๕๐๘ พระกริ่งดังกล่าวเป็นเนื้อนวโลหะสวยงาม ทำการหล่อแบบโบราณโดยนายช่างหรัส พัฒนางกูล ช่างประจำตัวของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) แต่หย่อนทางด้านความสวยงามเพราะพระทั้งหลายไม่ได้รับการตกแต่งภายหลังจากการ เททองแล้ว จำนวนการสร้างจริงๆในคราวนั้นสร้าง ๕,๐๐๐ องค์ และได้แจกให้สาธุชนที่ร่วมบริจาคปัจจัยในการซ่อมแซมพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ โดยได้แจกไปจนหมด.หลังจากพระได้ตัดจากช่อแล้วปลุกเสกโดยหลวงพ่อเนื่องจน เสร็จเรียบร้อยเมื่อ ๒ ก.พ.๒๕๒๘

พระกริ่งดังกล่าวเป็นพระเครื่องที่ดี เนื่องจากเหตุผล ๕ ประการ

๑.พระกริ่งหลังปิสร้างด้วยเนื้อนวโลหะกลับดำสวยงามเป็นเนื้อนวโลหะแท้ของ ตระกูลวัดสุทัศน์ฯโดยตรงและท่านผู้สร้างก็เป็นศิษย์สายตรงของสมเด็จพระ สังฆราช(แพ)โดยเป็นพระปลัดขวาของสมเด็จฯ 
๒.เนื้อหาชนวนดี 
พระกริ่งรุ่นนี้ได้ชนวนทุกรุ่นของสมเด็จสังฆราช(แพ)รวมกับชนวนของท่านเจ้า คุณศรีสัจจญาณมุนี(สนธิ์) ซึ่งสมเด็จพุฒาจารย์ได้นำลงมาจากพระตำหนักของสมเด็จสังฆราชด้วยตนเอง พร้อมได้รับเพิ่มเติมจากท่านเจ้าคุณแป๊ะ(พระราชวิสุทธาจารย์) เจ้าคณะ๖ ผู้เป็นอดีตคนรับใช้ใกล้ชิดของสมเด็จพระสังฆราช(แพ)อีกเป็นจำนวนมาก กล่าวได้ว่าเป็นพระกริ่งรุ่นสุดท้ายที่มีการทุ่มเทชนวนของเก่าผสมอย่างมาก มาย 
๓.บรรจุกริ่งพร้อมผงวิเศษ 
เมื่อเททองเป็นองค์พระและตัดออกมาแล้ว ยังได้ทำการบรรจุเม็ดกริ่งพร้อมกับผงวิเศษของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทำให้กริ่งรุ่นนี้ไม่ค่อยมีเสียงดังเมื่อเขย่า 
๔. แล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวันที่๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ เมื่อพระกริ่งเสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม)ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระ คณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์ด้วยเป็นเวลาทั้ง สิ้นปีเต็มแล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวัน ที่ ๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘เป็นเวลาสามวันสามคืน โดยมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้านั่งปรกปลุกเสกจำนวนกว่า ๔๐ รูป 
๕.พระกริ่งที่พบใหม่นี้ถูกเก็บลืมอยู่ภายในพระอุโบสถเป็นเวลา ๑๙ ปีเต็ม ซึ่งทุกๆปีภายในพระอุโบสถก็ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกหลายครั้ง จึงเชื่อแน่เหลือเกินว่าพระกริ่งที่พบนี้จะเปี่ยมไปด้วยพระพุทธานุภาพ 

 
ราคาเปิดประมูล :
 500 บาท
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
 2500 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
 100 บาท

เงื่อนไขการรับประกัน :
 เก๊คืนเงินเต็ม

ผู้ตั้งประมูล :
 Lerdlit Lunglue
ที่อยู่ :
 1 ม.8 ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน 55160 ไทย

เบอร์โทรติดต่อ :
  0987740632, 0987740632
E-mail :
 lerlit_ice@hotmail.com

ชื่อบัญชี :
 เลิศฤทธิ์ เลื่องลือ
เลขที่ บัญชี :
 7620118918
ประเภท บัญชี :
 ออมทรัพย์
ธนาคาร :
 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สาขา :
 เดอะมอล์บางกะปิ

วันที่ :
 Fri 5, Jul 2013 15:02:39
โดย : ice    [Feedback +1 -0] [+3 -0]   Fri 5, Jul 2013 15:02:39
 
 
 
ราคาประมูล : 2500 บาท
 
โดย : ฐานะนุตโต    [Feedback +12 -3] [+0 -0]     [ 5 ] Mon 15, Jul 2013 15:14:42

 
 
ราคาประมูล : 2200 บาท
 
โดย : ฐานะนุตโต    [Feedback +12 -3] [+0 -0]     [ 4 ] Mon 15, Jul 2013 15:13:37

 
 
ราคาประมูล : 2000 บาท
 
โดย : sp-worakit    [Feedback +0 -0] [+0 -0]     [ 3 ] Sat 6, Jul 2013 13:33:18

 
 
ราคาประมูล : 600 บาท
 
โดย : ฐานะนุตโต    [Feedback +12 -3] [+0 -0]     [ 2 ] Fri 5, Jul 2013 23:25:50









 

ชัดๆกับของล้ำค่าจาก 1 ใน 200กว่าองค์

 
โดย : ice    [Feedback +1 -0] [+3 -0]     [ 1 ] Fri 5, Jul 2013 15:03:36

 
ประมูล พระกริ่ง หลังปิ เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุทัศน์ ปี 2506 : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.