ตำนานวัวธนูวิ่งชนในบาตร ขนาดพิธีปลุกเสกกลางป่าช้า วัวธนูอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ สร้างเมื่่อปี พ.ศ.2519 วัตถุมงคลที่ว่านี้ไม่เป็นสองรองใครโดยประวัติการเล่าต่อๆกันมาว่าจนถึงปัจจุบัน ท่านอาจารย์เณรได้ปลุกเสกวัวธนูนี้ในป่าช้าบ้านป่าสัก2วาระ ปลุกเสกวัดร้างบนเขา เขตจอมทอง1วาระ เมื่อขณะที่ท่านกำลังปลุกเสกวาระที่กลางป่าช้าชาวบ้านต่างได้มีเสียงวัววิ่งรอบป่าช้า และวัวธนูเนื้อทองแดงวิ่งชนกันในบาตรพระที่ท่านใช้ปลุกเสกนั่งปรก โดยท่านปลุกเสือในตัวสู้กับวัวธนูที่วิ่งในบาตร จนวัวธนูเนื้อทองแดงตัวหนึ่งกระเด็นออกมาจากบาตร(และมีเสียงวัวธนูตัวนั้นวิ่งรอบบริเวณป่าช้า จนเป็นที่ล่ำลือจนถึงทุกวันนี้
วัวธนูอาคมที่โ่ด่งดังมาจนถึงปัจจุบันและมีข้อความที่ท่านเขียนไว้ว่า "วัวนี้เป็นวัวที่เสกป่าช้า มีค่ายิ่งกว่าวัวธนูเงิน ผู้ใดทำสูญ ผู้นั้นพึงมิใช่คน เรารักยิ่งเสมือนบรมครู" วัวธนูที่ท่านสร้างมีเพียงรุ่นเดียวเมื่อปี 2519 มีอยู่สองเนื้อ วัวธนูเนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 99 ตัว วัวส่วนหนึ่งแจกให้กรรมการผู้สร้างจำนวน 14 คน และวัวธนูเนื้อทองแดงรมดำ จำนวนการสร้าง 2,999 ตัว#ข้อมูลทั้งหมดของอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ ผมได้รับสารจาก"หลวงพ่อครูบาเลิศ" เจ้าอาวาสวัดป่าสัก องค์ปัจจุบัน และเป็นสามเณรรวมรุ่นเดียวกับท่านอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ และท่านก็ได้ช่วยอาจารย์เณรทำวัตถุมงคลมากมาย กุมารทองเนื้อผง กุมารทองขนาดบูชา ตะกรุดยันต์ต่างๆ พระผงพิมพิ์ต่างๆ ยกเว้นพระปิดตารุ่นแรกและเหรียญท่านจัดทำโดยลูกศิษย์กทม. โดยวัตถุมงคลเล่านี้ของอาจารย์เณรที่ได้ทำที่วัดกำกับมวลสารเองปลุกเสกเดียวจนเข้มขลัง และท่านจะลองวัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นจนฉมังเวทย์เกิดอิทธิปฎิหาริย์ (อาจารย์เณร ท่านปลุกจนสุดตำราไม่มีกั๊ก) สมัยที่อ.เณร วิเศษณ์ท่านโด่งดังและขลังเวทย์ทางด่านแคล้วคลาด จนเป็นที่ล่ำลือไปถึงกรุงเทพ เป็นที่รู้จักทั้งทางหนังสือพิม หนังสือนิตยสาร อาถรรย์ขลังเวทย์และ มีทั้งนักมวยชื่อดังอย่างแก้ว โคซี่ และ วังวน ลูกมาตุลี และข้าราชการชั้นสูง ตำรวจ ทหารเข้าหาท่านที่ วัดป่าสัก ช่วงนั้นประมาณปี 251กว่า ท่านเป็นที่รู้จักอย่างแผ่หลายไม่มีใครไม่รู้จักสามเณรเสก และวัตถุมงคลของท่านก็ต่างเป็นที่หวงแหนของชาวบ้านที่ได้รับกับมือท่าน