เหรียญสามกษัตริย์ เชียงใหม่ เนื้อเงินกะไหล่ทอง ปี 2525 ตอกโค๊ต ช ผิวกระจก สวยแชมป์
เหรียญสามกษัตริย์ เชียงใหม่ สุดยอดเหรียญทรงคุณค่าผู้สร้างเมืองสามกษัตริย์ของไทย
พ่อขุนรามคำแหง เจ้าเมืองสุโขทัย
พ่อขุนเม็งราย เจ้าเมืองเชียงราย
พ่อขุนงำเมือง เจ้าเมืองพะเยา
เหรียญสามกษัตริย์ ที่ระลึกในงานสร้างอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ ณ ศาลากลางเก่า จ.เชียงใหม่ ปลุกเสก ณ วัดเชียงมั่น 30 ธ.ค. 2525 โดยเกจิอาจารย์ภาคเหนือหลายสิบรูป จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อหาทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ โดยทางคณะกรรมการเห็นว่าควรสร้างเหรียญสามกษัตริย์เป็นเหรียญ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง เพื่อให้ประชาชนเช่าบูชา แล้วนำรายได้ที่ได้รับเป็นทุนในการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ทางจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนที่ศรัทธา จึงได้มอบให้กรมธนารักษ์ สร้างเหรียญดังกล่าว หลังจากสร้างเหรียญสามกษัตริย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางจังหวัดจึงได้นำเหรียญสามกษัตริย์ ไปให้ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แผ่เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสก ณ วัดดอนแม่ปั่ง อ.พร้าว เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม ปี พ.ศ.2525 และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดเชียงมั่นอีกครั้งหนึ่ง โดยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของภาคเหนืออีกหลายสิบรูป อาทิเช่น
1.) หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
2.) หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์
3.) ครูบาสร้อย วัดอุดมมงคลคีรีเขตต์
4.) ครูบาธรรมชัย ธรรมชัยโย
5.) ครูบาชัยยวงษา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
6.) หลวงปู่โง่น ยโสธโร
7.) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง. เป็นต้น
พระบรมราชานุสรณ์สามกษัตริย์ ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เดิมพระบรมรูป "สามกษัตริย์" หล่อด้วยทองเหลืองและทองแดงรมดำ มีขนาดเท่าครึ่ง จากพระบาทถึงพระเศียรไม่รวมยอดมงกุฏ มีความสูง ๒๗๐ เมตร ออกแบบและทำการ ปั้นหล่อโดยคุณไข่มุกด์ ชูโต ใช้เวลา ๑๐ เดือน ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ สามกษัตริย์ จากกรุงเทพมหานครขึ้นประดิษฐานบนแท่นพระบรม ราชานุสาวรีย์ ในวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๑๑.๔๙ น. พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ คือ พญามังราย พญาร่วง และพญางำเมือง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่พระมหากษัตริย์สาม พระองค์มาทรงร่วมกันวางแผนการสร้างเมืองเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏคำจารึกฐาน พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ กล่าวคือพญามังรายประสูติ เมื่อปีกุน พ.ศ. ๑๗๘๒ พระองค์ทรงครองเมืองเงินยางเชียงแสนแทนพญาลาวเม็ง พระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. ๑๘๐๒ ทรงพระปรีชาสามารถกล้าหาญเป็นเยี่ยมสามารถ รวบรวมแคว้นและเมืองต่างๆ เข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทย และได้ทรงตรากฏหมาย "มังรายศาสตร์" ขึ้นเป็นหลักในการปกครองบ้านเมือง พระองค์ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ ราชวงศ์มังราย เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๓๙ โดยมีพระราชวงศ์สืบ ต่อกันมาอีก ๑๗ พระองค์ พญามังรายสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๖๐ สิริพระชนมายุได้ ๗๙ ชันษา
พญาร่วง (พ่อขุนรามคำแหงมหาราช) พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัยพระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่สามของ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงพระบรมเดชานุภาพมากเมื่อพระชนมายุได้ ๑๙ พรรษา ได้กระทำยุทธหัตถีชนะขุนสามชนเจ้า เมืองฉอด ปรากฏพระเกียรติยศไพศาลเป็นที่คร้ามเกรงแก่บรรดาหัวเมืองต่างๆ สมัยนั้น พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองและอาณา ประชาราษฎร์ให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขทุกถ้วนหน้า และได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๒๖ ซึ่งใช้สืบมาจนถึงทุกวันนี้ ทรงครองราชย์เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๑๘๒๒ และสิ้นพระชนม์เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๑๘๔๒
พญางำเมือง ประสูติเมื่อปีจอ พ.ศ. ๑๗๘๑ ทรงปกครองเมืองพะเยาสืบต่อจากพญามิ่งเมืองพระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. ๑๘๐๑ เมื่อทรงพระเยาว์ได้ศึกษาศิลปวิทยาร่วมสำนักอาจารย์เดียวกับพญามังราย จึงเป็นพระสหายสนิทแต่นั้นมา พระองค์ทรงอานุภาพเสมอ เท่าเทียมกันในการปกครองบ้านเมืองนั้น ได้ทรงใช้วิเทโศบายผูกมิตรไมตรีกับอาณาจักรใกล้เคียง บ้านเมืองจึงร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา
พระราชาธิราชทั้งสามพระองค์ ได้ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณผูกมิตรทรงดื่มน้ำสัตยาผสมโลหิตจากนิ้วพระหัตถ์ เพื่อเป็นมิตร น้ำร่วมสาบานไม่เป็นศัตรูต่อกัน ณ ฝั่งแม่น้ำอิง เขตเมืองพะเยา
เมื่อพญามังรายได้ทรงสร้างเมืองเชียงรายแล้ว ต่อมาได้ทรงสร้างเมืองฝางและตีได้เมืองหริภุญไชยจากพญายีบาได้สร้าง เวียงกุมกาม ซึ่งปัจจุบันอยู่ในท้องที่อำเภอสารภี ภายหลังทรงพบชัยภูมิเมืองอันเป็นศุภนิมิตรมงคล ๗ ประการ เป็นที่ราบริมน้ำปิงกับ ดอยสุเทพ พญามังรายจึงได้เชิญพระสหาย คือ พญาร่วงและพญางำเมืองมาร่วมปรึกษาหารือ ตั้งพิธีกัลปบาตฝังนิมิตหลักเมือง ในวัน พฤหัสบดี เพ็ญเดือน ๖ พ.ศ. ๑๘๓๙ จันทร์เสวยฤกษ์ ๑๖ ยามแตรจักใกล้รุ่งไว้ลัคนาเมืองในราศรีมินอาโปธาตุ สร้างเสร็จในปีเดียวกันขนานเมือง ใหม่นี้ว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์เมืองเชียงใหม่"
|