หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่า มีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้ เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่าหลวงปู่หล้า ตาทิพย์ มีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่า ท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนักหลวงปู่หล้าู่บอกให้พระเณร รีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่
อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง
พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์
นอกจากนั้นพระพิชิต สมหิโต รองเจ้าอาวาสวัดป่าตึง (ในปัจุบัน 2554)
เล่าให้ฟังว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำ
ความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด พอถึงเวลา 6 โมงในหลวง
ทรงเสด็จมาที่วัดป่าตึง ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่าหลวงปู่
หล้าตาทิพย์ หลวงปู่หล้าเจริญอายุ 97 ปี ก็มรณภาพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 ปัจจุบันนี้ศพของหลวงปู่หล้าถูกบรรจุไว้ในโลงแก้วที่ประดับประดาด้วย
ดอกไม้ตั้งอยู่บนกุฏิไม้สักที่งดงามในวัดป่าตึงหลวงปู่หล้า เป็นพระผู้
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านถือปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด และพระ
บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้
โปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำสรงอาบศพ แม้ว่าหลวงปู่หล้าจะมรณภาพ
จากไปแล้ว ก็เป็นเพียงการจากไปแต่สรีระร่างกายเท่านั้น แต่คุณงามความ
ดีที่ท่านได้สร้างเอาไว้หาได้ดับไปด้วยไม่ใครได้มีโอกาสผ่านไปสันกำแพง
อย่าลืมไป ไหว้หลวงปู่หล้าวัดป่าตึงเพื่อเป็นสิริมงคล