หลวงปู่ครูบาอิ่นแก้ว อติภทฺโท (พระครูสุภัทร์รัตนโชติ)

วัดศรีโขง อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ชีวประวัติโดยย่อหลวงปู่ครูบาอิ่นแก้ว ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2472 ปีมะเส็ง เกิดในครอบครัวของพ่ออุ้ยหลวง แม่อุ้ยแก้ว โปธิ  มีพี่น้องรวม 3 คน เป็นชายทั้งหมด 3 คน โดยท่านเป็นพี่คนโต ได้อุปสมบทเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 12 ขวบ มีสติปัญาญาฉลาดหลักแหลมตั้งแต่เยาว์วัย บรรพชาเมื่ออายุครบ 21 ปี ณ.วัดสันทรายต้นกอก ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 และได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีโขง ในปี พ.ศ. 2500 เมื่อครั้นอายุได้เพียง 28 ปี ด้วยความรู้ความสามารถท่านได้พัฒนาสร้างเสนาสนะภายในวัดเล็กๆให้เจริญเรื่อยมา ได้ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตัวท่านเองมาโดยตลอด ปัจจุบันรวมสิริอายุครบ 86 ปี 64 พรรษา หลวงปู่ท่านเคร่งครัดในระเบียบพระธรรมวินัยเป็นอย่างมากตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณร สมัยก่อนหลวงปู่ท่านเป็นพระครูผู้สอนหนังสือให้แก่สามเณร เกเรมาจากที่ไหนก็ต้องยอมสยบต่อไม้เรียวของหลวงปู่ท่านทุกคนไปจนกลายเป็นคนที่ดีมีความรับผิดชอบ ลูกศิษย์ลูกหาที่ดื้อรั้นในสมัยนั้น ปัจจุบันเป็นใหญ่เป็นโตได้ดิบได้ดีกันทุกคนเป็นพ่อค้าพาณิชย์เจ้าสัวก็มีอยู่มิใช่น้อย ต่างพากันแวะเวียนมาทำบุญกับหลวงปู่อยู่มิได้ขาด จะชอบมาเล่าเรื่องราวในครั้งอดีตจนหลวงปู่ท่านหัวเราะชอบใจและดีใจมากเมื่อเห็นหน้าศิษย์เก่าจะอยู่คุยกันทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น บ่งบอกได้ถึงความกตัญญูของลูกศิษย์ลูกหาที่มีต่อหลวงปู่ไม่เสื่อมคลายจางหายไปกับกาลเวลา ด้านวิชาอาคมท่านศึกษามาจากหลายครูบาอาจารย์ทั้งภาคเหนือและภาคกลาง อาจารย์ใหญ่ของท่านก็คือหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ท่านเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีโอกาสเข้าดูแลรับใช้อย่างใกล้ชิดจนทำให้หลวงปู่โต๊ะรักและเอ็นดูหลวงปู่ครูบาอิ่นแก้วป็นอย่างมาก จึงทำให้ท่านทั้งสองไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้งเมื่อครั้งหลวงปู่โต๊ะได้เดินทางมาพักจำวัดอยู่ที่วัดศรีโขง พอผู้คนต่างรู้ข่าวได้พากันมาขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์แต่กลับถูกหลวงปู่โต๊ะท่านปฏิเสธและปรารภต่อหน้าผู้คนในขณะนั้นว่าใน จ.เชียงใหม่นี้ เราจะขอรับพระอิ่นแก้วไว้เป็นศิษย์เพียงคนเดียว ในด้านวิปัสสนากรรมฐานนั้นหลวงปู่ท่านได้รับการฝึกและถ่ายทอดมาจาก หลวงปู่ครูบาพรมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้ามาเป็นอย่างดีในสมัยนั้นจะต้องเดินบิณฑบาตขึ้นเขาลงดอยอย่างลำบากมีแค่ไฟตะเกียงอ่านพระธรรม หลวงปู่ท่านบอกว่าคนสมัยก่อนนั้นทำอะไรทำจริง ท่านจึงยึดถือเคร่งในการปฏิบัติศีลมาโดยตลอด ไม่สรงน้ำมาเป็นเวลา 70 กว่าปี แต่เนื้อตัวกลับไม่มีกลิ่นเหม็นใดๆตรงกันข้ามกลับได้กลิ่นของกระแสธรรมที่ท่านสั่งสมมาเป็นเวลานาน แม้แต่หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน เกจิเมืองชาละวัน ยังชื่นชมในการปฏิบัติศีลของหลวงปูครูบาอิ่นแก้วและได้เดินทางมาที่วัดศรีโขงอยู่บ่อยครั้งขณะนั้นหลวงปู่ยังหนุ่มอยู่เลย หลวงพ่อเปรื่องจึงรับหลวงปู่ครูบาอิ่นแก้ว ไว้เป็นศิษย์ด้านแคล้วคลาดคงกระพันในยุคนั้นหลวงพ่อเปรื่องท่านมีชื่อเสียงมากใน จ.พิจิตร พระพิมพ์หลวงพ่อเงินที่ท่านได้สร้างและปลุกเสกนั้น ขลังและดังปัจจุบันหาของแท้ยาก หลวงปู่ครูบาอิ่นแก้วท่านอยู่อย่างสมาถะเรียบง่าย มีแต่วิทยุไว้ฟังธรรมเพียงเครื่องเดียว มักเข้ากรรมฐานกลางดึกจะระลึกถึงบารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่เสมอ แม้แต่ยุงยังคุ้นเลือดของท่านไม่ยอมกัด มีเณรและพระลูกศิษย์ที่อยู่ดูแลมาขอฝึกกรรมฐานกับท่านแต่ก็ทนต่อฝูงยุงไม่ได้เพราะหลวงปู่ท่านจะไม่ใช้มุ้ง ไม่มียากันยุงจึงเป็นที่รู้ในบรรดาลูกศิษย์ว่าสมาธิจิตของหลวงปู่นั้นท่านแน่วแน่อดทดเกินคนเราธรรมดาที่จะทำได้ การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่แต่ละครั้งจะใช้เวลานานมากแม้แต่วัตถุมงคลเพียงชิ้นเดียวท่านก็เสกให้เหมือนพิธีใหญ่ๆจนหมดลมเหล่าลูกศิษย์ต่างเป็นห่วงบอกให้หลวงปู่พักแรงบ้างแต่ท่านบอกว่าทำแล้วต้องทำให้ดีไม่อย่างนั้นเสียชื่อครูบาอาจารย์ของเฮาหมด ก่อนหน้านี้มีกลุ่มนักศึกษามช.นำไปลงสื่อทางอินเตอร์เน็ตชวนคนมาทำบุญเพราะสงสารท่านอยู่อย่างลำบาก แต่ทางกลับกันหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับสิ่งใดแม้ทุกวันนี้หลวงปู่ท่านอาพาธ

แต่ก็คอยนั่งต้อนรับแขกญาติโยมที่มาทำบุญอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวันโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะจึงเป็นที่ปลาบปลื้มปิติต่อผู้มาทำบุญเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มนักศึกษาแต่ละสถาบันพากันหมุนเวียนมาทำบุญทำความสะอาดวัดอยู่ไม่ขาด หลวงปู่ท่านจะอนุโมทนาบุญต่อทุกคนที่มาทำบุญด้วยความปิติยินดี ท่านจะใช้กสิณลมเป่ายันต์พระเจ้า16พระองค์ลงกระหม่อมให้กับผู้ที่ไปทำบุญทุกครั้งไป ท่านเป็นคนรักสัตว์มากสมัยก่อนนั้นตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ท่านจะเป็นคนนำเอาข้าวก้นบาตรมาให้สุนัข ไก่ นก แมว เองกับมือจะเป็นที่รักของบรรดาสัตว์เหล่านั้นแม้แต่ต้นไม้ที่รกคลุมหลังคากุฏิท่านยังสั่งห้ามมิให้ตัดเพราะเป็นห่วงพวกกระรอกกระแต นกที่มาอาศัยหลวงปู่ท่านบอกหากตัดแล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไรต้นไม้คือบ้านและอาหารของเขา แต่ทางวัดเห็นว่าต้นไม้มันต้นใหญ่รกคลุมหลังคาทำให้กระเบื้องกุฏิแตกเสียหายจึงได้ตัดต้นไม้ใหญ่ออกไป พอหลวงปู่ท่านทราบก็ตำหนิท่านจึงให้ลูกศิษย์นำฉี่ของท่านไปเทใส่ตอไม้ที่ถูกตัดเป็นที่น่าแปลกตอไม้ที่ถูกตัดกลับเริ่มงอกกิ่งก้านและพลิใบออกมาเรื่อยๆเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อยู่ไม่น้อย หลวงปู่ท่านเป็นพระโบราณจึงเป็นห่วงสิ่งของมรดกเก่าแก่เป็นเรื่องธรรมดา ปัจจุบันดวงตาของท่านมองไม่เห็นและครั้งสุดท้ายที่ท่านมองเห็นสิ่งต่างๆในขณะนั้นท่านได้นั่งเข้าสู่กรรมฐานจู่ๆเกิดเห็นเป็นดวงไฟจ้าสว่างแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นการเห็นครั้งสุดท้ายแต่ตานัยนั้นแสงธรรมกลับล้นเปี่ยม คนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนบอกว่าหากใครฝึกเพ่งกสิณมากๆแก่ตัวมามักตาบอดแต่การบอดนั้นไม่ธรรมดาหากปลุกเสกพระหรือวัตถุมงคลใดๆก็ตามจะมีความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เฉกเช่นเดียวกับพระขุนแผนของหลวงปู่ที่ท่านตั้งใจอธิฐานจิตไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชาติดตัวได้เกิดประสบการณ์ขึ้นอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภค้าขายกล่าวขานกันมักที่สุดคนรู้ข่าวต่างเริ่มเก็บ ตะกรุดคาดเอวของหลวงปู่รุ่นแรกมีประสบการณ์มากช่วยชีวิตทหารแถบ 3 ชายแดนใต้ให้รอดตายอยู่หลายครั้งโดนซุ่มยิงจังๆด้วยอาวุธสงครามแต่กลับไม่เข้าสักนัดตะกรุดของหลวงปู่เป็นที่รู้จักกันดีในเขตภาคใต้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้จะคอยช่วยคุ้มครองยามคับขันหากเชื่อมั่นในพระพุทธคุณ แม้แต่การขับรถบนท้องถนนจะเดินทางปลอดภัยด้วยสิ่งอันเป็นมงคลอยู่ติดตัวเสมอ วัตถุมงคลรุ่นแรกนี้ผ่านการปลุกเสกหลายพิธีหลายวาระและหลวงปู่ท่านตั้งใจปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์เป็นวาระสุดท้ายเมื่อวันเพ็ญเดือน12 ปี57เป็นอย่างทางการ โดยหลวงปู่ท่านตั้งใจทำเป็นรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายและจะไม่มีรุ่นใดๆออกมาอีก ใครมีโอกาสรีบเก็บ หากหมดไปจากวัดของปลอมข้างหน้ายังรออยู่ประสบการณ์กระแสของพระขุนแผนพลายแก้วรุ่นนี้แรงและดังไปทั่วประเทศ เพราะจำนวนการจัดสร้างชัดเจนไม่ปกปิด ไม่น้อยเกินไปไม่มากเกินไป พุทธพิมพ์มีความวิจิตรงดงามองค์พระมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

                    พระขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่น ๑ พลายแก้วมหาเสน่ห์ ปี 57

 ปลุกเสกวันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ ในมหามงคลฤกษ์เวลา 9.49 นาที

มวลสารที่นำมาสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ 1.ผงแร่น้ำทอง อ.เวียงแหง 2.ผงพรายกุมารและน้ำมันพลายแม่นางขวัญของพ่ออุ้ยหนานคำดีเชียงตุง 3.น้ำมัน5นางจากพ่อหนานสล่าตั๋น จ.เชียงราย มอบให้มาเป็นหัวเชื้ออาถรรพ์ด้านเมตามหาเสน่ห์ 4.ผงลบยันต์ช้างผสมโขลงและผงลบยันต์ม้าเสพนางของพ่อหนานสุวรรณมณีสีแสง 5.ผงลบยันต์เพชรพญาธรมหาเสน่ห์ อาจารย์ดอกไม้สุสานสันทรายหลวง 6.ผงลบยันต์หมัดธนูฟ้าผ่าและผงลบยันต์จูงนางเข้าห้องจากพ่อหนานธรรมบ้านปงวัง จ.ลำปาง 7.พระปิดตาเนื้อเกสรแตกหักหลวงปู่โต๊ะ 8.พระขุนแผนกรุบ้านกร่างแตกหักเป็นจำนวนมาก 9.พระแตกหักจากกรุเก่าจ.ลำพูน 10.ผงตะไบเหรียญนางเหลียวหลวงพ่อเกษมเขมโก 11.พระขุนแผนพรายกุมารแตกหักหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ 12.พระขุนแผนแตกหักรุ่นอินโดจีนหลวงพ่อเต๋ คงทอง 13.พระขุนแผนแตกหักหลวงพ่อหร่ำวัดกร่าง 14.พระปิดตาแตกหักหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ 15.ผงเม็ดยาจินดามณีหลวงปู่บุญและหลวงปู่เพิ่มวัดกลางบางแก้ว 16.พระสมเด็จเหม็นแตกหักหลวงพ่ออุ้นวัดตาลกง 17.พระขุนแผนแตกหักอาจารย์ชุมไชยคีรี 18.ผงพระขุนแผนแตกหักหลวงพ่อกวยวัดโฆสิตาราม 19.ผงตะไบม้าเสพนางกะลาตาเดียวครูบาวังวัดบ้านเด่น 20.ผงตะไบกะลาตาเดียวแตกครูบานันตาวัดทุ่งม่านใต้ 21.ผงตะไบเหรียญรุ่นแรกครูบายอดใจ วัดทุ่งเกวียน 22.ผงตะไบพระยอดขุนพลกรุถ้ำขุนตาล 23.ผงตะไบเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อคำปันวัดนาแส่ง 24.ข้าวเหนียวดำเขาอ้อ 25.ผงยันต์พระพุทธเจ้า16พระองค์ลป.ครูบาอิ่นแก้วชักยันต์เสก 26.ผงอิทธิเจผงปัถมัง ผงมหาราช ผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห 27.ดิน7โป่ง ขี้ไข7ไขเสมา ดิน7ป่าช้า ดิน7ใจกลางตลาด ดิน7ปราสาท 28.ผงอิ้นกรุเก่าโบราณจ.พะเยา 29.ผงตะไบปลัดขลิกหลวงพ่อยิดวัดหนองจอก 30.พระผงแตกหักหลวงพ่อพัววัดบางเดือน 31.พระผงกสินแตกหักหลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่พัฒนาราม 32.ผงแร่เหล็กไหลเขาอึมครึม 33.ผงแก้วโป่งข่าม 34.ผงแร่เหล็กน้ำพี้ 35.ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด 36.ผงว่านมหาเสน่ห์108ชนิด 37.ผงดินหอมกระโถนฤาษีถ้ำเมืองออน 38.ข้าวเหนียวก้นบาตรหลวงปู่ครูบาอิ่นแก้ว 39.ใบมะขามขรัวตาคงจากต้นมะขามยักษ์1000 ปี วัดแค 40.ไม้พญาดำดง 41.ผงว่านดอกทองเป็นจำนวนมากและผงศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศที่ยังไม่ได้กล่าวมาอีกมากมาย นำน้ำทิพย์จากยอดดอยขะม้อ จ.ลำพูนมาเป็นตัวประสานเสร็จแล้วไปขอบารมีพระเกจิทั่วประเทศปลุกเสกให้หลายวาระ 1.หลวงปู่ครูบาอิ่นก๋วนวัดสบป้าดปลุกเสกให้2วาระ (มรณะภาพแล้ว) 2.หลวงปู่ครูบาครองวัดท่ามะเกว๋นปลุกเสกให้ 2 วาระ 3.หลวงปู่นามวัดน้อยชมภู่ 4.หลวงพ่อเอื้อนวัดวังแดงใต้ 5.หลวงพ่อแย้มวัดสามง่าม 6.หลวงพ่อชำนาญวัดบางกุฎีทอง 7.หลวงพ่อชาญวัดบางบ่อ 8.หลวงปู่เทวัดยี่งอ 9.พ่อท่านเสือเล็กวัดควนซางได้ทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณพ่อขุนแผน ณ วัดป่าเลไลยก์ แห่รอบเมือง จ.สุพรรณบุรี ปลุกเสก 3 เดือนเต็ม “บล็อกแม่พิมพ์ได้ทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่ท่านตั้งใจทำ ใครมีเก็บรักษาไว้ให้ดีๆ ดั่งคำที่หลวงปู่ท่านเคยพูดปรารภไว้ ว่า “วันไปหน้าจะหาบ่ามีจะเขียมอย่างคำ”

ข�<����GP[ปูครูบาอิ่นแก้วและได้เดินทางมาที่วัดศรีโขงอยู่บ่อยครั้งขณะนั้นหลวงปู่ยังหนุ่มอยู่เลย หลวงพ่อเปรื่องจึงรับหลวงปู่ครูบาอิ่นแก้ว ไว้เป็นศิษย์ด้านแคล้วคลาดคงกระพันในยุคนั้นหลวงพ่อเปรื่องท่านมีชื่อเสียงมากใน จ.พิจิตร พระพิมพ์หลวงพ่อเงินที่ท่านได้สร้างและปลุกเสกนั้น ขลังและดังปัจจุบันหาของแท้ยาก หลวงปู่ครูบาอิ่นแก้วท่านอยู่อย่างสมาถะเรียบง่าย มีแต่วิทยุไว้ฟังธรรมเพียงเครื่องเดียว มักเข้ากรรมฐานกลางดึกจะระลึกถึงบารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่เสมอ แม้แต่ยุงยังคุ้นเลือดของท่านไม่ยอมกัด มีเณรและพระลูกศิษย์ที่อยู่ดูแลมาขอฝึกกรรมฐานกับท่านแต่ก็ทนต่อฝูงยุงไม่ได้เพราะหลวงปู่ท่านจะไม่ใช้มุ้ง ไม่มียากันยุงจึงเป็นที่รู้ในบรรดาลูกศิษย์ว่าสมาธิจิตของหลวงปู่นั้นท่านแน่วแน่อดทดเกินคนเราธรรมดาที่จะทำได้ การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่แต่ละครั้งจะใช้เวลานานมากแม้แต่วัตถุมงคลเพียงชิ้นเดียวท่านก็เสกให้เหมือนพิธีใหญ่ๆจนหมดลมเหล่าลูกศิษย์ต่างเป็นห่วงบอกให้หลวงปู่พักแรงบ้างแต่ท่านบอกว่าทำแล้วต้องทำให้ดีไม่อย่างนั้นเสียชื่อครูบาอาจารย์ของเฮาหมด ก่อนหน้านี้มีกลุ่มนักศึกษามช.นำไปลงสื่อทางอินเตอร์เน็ตชวนคนมาทำบุญเพราะสงสารท่านอยู่อย่างลำบาก แต่ทางกลับกันหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับสิ่งใดแม้ทุกวันนี้หลวงปู่ท่านอาพาธ

แต่ก็คอยนั่งต้อนรับแขกญาติโยมที่มาทำบุญอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวันโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะจึงเป็นที่ปลาบปลื้มปิติต่อผู้มาทำบุญเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มนักศึกษาแต่ละสถาบันพากันหมุนเวียนมาทำบุญทำความสะอาดวัดอยู่ไม่ขาด หลวงปู่ท่านจะอนุโมทนาบุญต่อทุกคนที่มาทำบุญด้วยความปิติยินดี ท่านจะใช้กสิณลมเป่ายันต์พระเจ้า16พระองค์ลงกระหม่อมให้กับผู้ที่ไปทำบุญทุกครั้งไป ท่านเป็นคนรักสัตว์มากสมัยก่อนนั้นตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ท่านจะเป็นคนนำเอาข้าวก้นบาตรมาให้สุนัข ไก่ นก แมว เองกับมือจะเป็นที่รักของบรรดาสัตว์เหล่านั้นแม้แต่ต้นไม้ที่รกคลุมหลังคากุฏิท่านยังสั่งห้ามมิให้ตัดเพราะเป็นห่วงพวกกระรอกกระแต นกที่มาอาศัยหลวงปู่ท่านบอกหากตัดแล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไรต้นไม้คือบ้านและอาหารของเขา แต่ทางวัดเห็นว่าต้นไม้มันต้นใหญ่รกคลุมหลังคาทำให้กระเบื้องกุฏิแตกเสียหายจึงได้ตัดต้นไม้ใหญ่ออกไป พอหลวงปู่ท่านทราบก็ตำหนิท่านจึงให้ลูกศิษย์นำฉี่ของท่านไปเทใส่ตอไม้ที่ถูกตัดเป็นที่น่าแปลกตอไม้ที่ถูกตัดกลับเริ่มงอกกิ่งก้านและพลิใบออกมาเรื่อยๆเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อยู่ไม่น้อย หลวงปู่ท่านเป็นพระโบราณจึงเป็นห่วงสิ่งของมรดกเก่าแก่เป็นเรื่องธรรมดา ปัจจุบันดวงตาของท่านมองไม่เห็นและครั้งสุดท้ายที่ท่านมองเห็นสิ่งต่างๆในขณะนั้นท่านได้นั่งเข้าสู่กรรมฐานจู่ๆเกิดเห็นเป็นดวงไฟจ้าสว่างแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นการเห็นครั้งสุดท้ายแต่ตานัยนั้นแสงธรรมกลับล้นเปี่ยม คนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนบอกว่าหากใครฝึกเพ่งกสิณมากๆแก่ตัวมามักตาบอดแต่การบอดนั้นไม่ธรรมดาหากปลุกเสกพระหรือวัตถุมงคลใดๆก็ตามจะมีความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เฉกเช่นเดียวกับพระขุนแผนของหลวงปู่ที่ท่านตั้งใจอธิฐานจิตไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชาติดตัวได้เกิดประสบการณ์ขึ้นอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภค้าขายกล่าวขานกันมักที่สุดคนรู้ข่าวต่างเริ่มเก็บ ตะกรุดคาดเอวของหลวงปู่รุ่นแรกมีประสบการณ์มากช่วยชีวิตทหารแถบ 3 ชายแดนใต้ให้รอดตายอยู่หลายครั้งโดนซุ่มยิงจังๆด้วยอาวุธสงครามแต่กลับไม่เข้าสักนัดตะกรุดของหลวงปู่เป็นที่รู้จักกันดีในเขตภาคใต้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้จะคอยช่วยคุ้มครองยามคับขันหากเชื่อมั่นในพระพุทธคุณ แม้แต่การขับรถบนท้องถนนจะเดินทางปลอดภัยด้วยสิ่งอันเป็นมงคลอยู่ติดตัวเสมอ วัตถุมงคลรุ่นแรกนี้ผ่านการปลุกเสกหลายพิธีหลายวาระและหลวงปู่ท่านตั้งใจปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์เป็นวาระสุดท้ายเมื่อวันเพ็ญเดือน12 ปี57เป็นอย่างทางการ โดยหลวงปู่ท่านตั้งใจทำเป็นรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายและจะไม่มีรุ่นใดๆออกมาอีก ใครมีโอกาสรีบเก็บ หากหมดไปจากวัดของปลอมข้างหน้ายังรออยู่ประสบการณ์กระแสของพระขุนแผนพลายแก้วรุ่นนี้แรงและดังไปทั่วประเทศ เพราะจำนวนการจัดสร้างชัดเจนไม่ปกปิด ไม่น้อยเกินไปไม่มากเกินไป พุทธพิมพ์มีความวิจิตรงดงามองค์พระมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์