มีข่าวเอิ้นบอก
ปฐมบท แห่ง พระพิมพ์ยอดขุนพล “พระขุนแผนพรายกุมาร” รุ่นแรกอย่างเป็นทางการของ ครูบากร ภัทราวุโธ วัดดอยค
|
|
|
|
|
|
ปฐมกำเนิดผงพรายกุมาร : หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง
ประวัติกำเนิดผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เมื่อกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่องวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแด่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ต่อไปในวันข้างหน้าโดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้นั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่ทิมอิสริโกทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ “กะโหลกพรายกุมาร” วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสยดสยอง ทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด ) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น ”ผงพรายกุมารมหาภูติ “ ซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจ เกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ “ วิญญาณของาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่ “ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำ การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งาม ยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินี้ หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหาภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูติเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้มประมาณ 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฎิหลวงปู่ทิม เมื่อจะทำพระเครื่องจึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกดพิมพ์พระอีกครั้งหนึ่ง.หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่า “ผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ “ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่าง แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมอิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิมอิสริโก หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา พระผงขุนแผนพรายกุมาร นับว่าท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับ จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา
“หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ช้าก็เร็ว”
|
|
|
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0]
|
|
Mon 7, Apr 2014 17:46:15 |
|
|
|
ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ที่ครูบากร ท่านได้รับมอบมาจาก นักการเมืองท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์
ซึ่งนักการเมืองท่านนี้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ ได้รับมอบมาจากหลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ มาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ นำมามอบให้กับครูบากร อีกทีเพื่อสร้างบุญสร้างกุศล นำมาทำพระเครื่อง พิมพ์ยอดขุนพลพิมพ์ใหญ่ "พระขุนแผนพรายกุมาร" พิมพ์ใหญ่ที่นำออกมาให้บูชาขณะนี้
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 2 ] Mon 7, Apr 2014 17:57:23
|
|
|
|
ทำการกดพิมพ์กันเองในวัด คัดสรรค์มวลสารอันล้ำค่า บรรจงจัดสร้างเพื่อเน้นอิทธิคุณ พุทธานุภาพ เมตตามหาเสน่ห์ โดยเฉพาะ
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 5 ] Mon 7, Apr 2014 18:02:55
|
|
|
|
รายการวัตถุมงคล และรายนามพระเกจิคณาจารย์อธิฐานจิตปลุกเสกครับ
ของพวกนี้สำเร็จได้ด้วยใจที่ตั้งมั่นศรัทธา พระเกจิคณาจารย์ได้อธิฐานจิต ตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกรูป เรียกนาม กำหนดอาการสามสิบสอง ญัตติให้สำเร็จบังเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมแล้วครับ ขอเชิญศรัทธาร่วมบุญบูชาครับ
ศรัทธาสนใจติดต่อร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลได้ที่
วัดดอยคีรี ต.หัวเดียด อ.เมือง จ.ตาก 63000
ธนาณัตสั่งจ่ายในนาม พระอธิการสังวาลย์ ภทราวุโธ(ครูบากร)
โทร 055-512925
หรือฝ่ายวัตถุมงคล หลวงพี่พร โทร ; 092-0411387
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 7 ] Mon 7, Apr 2014 18:15:09
|
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 8 ] Mon 7, Apr 2014 18:17:37
|
|
|
|
ข้อพิพาทย์กรณีศึกษาเล็กน้อย
ในอดีตครูบาเคยทำพระพิมพ์ขุนแผนขึ้นมาชุดหนึ่ง ถ้าผมจำไม่ผิดจำนวนเล็กน้อยมาก ไม่น่าเกิน 50 องค์ครับ
ไม่ได้จัดเป็นรุ่นหนึ่งอย่างเป็นทางการหน่ะครับ ถือเป็นรุ่นลองพิมพ์ องค์พระใหญ่มากครับ
ด้านหลังจารสด เป็นยันต์นะหน้าทอง และหัวใจขุนแผนครับ หายากมากๆ มีน้อยสุดๆ และก็หมดไปจากวัดนานมาแล้วครับ
ผมจึงนำมาบันทึกไว้ครับ
|
|
|
โดย : ตาก [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 9 ] Mon 7, Apr 2014 18:25:53
|
|
|
|
|
|
|
|