กริ่งคลองตะเคียน

องค์แรกเป็นที่รู้จักกันดีในนาม พระขุนศึกสำหรับนักรบโดยเฉพาะ  นั่นก็คือพระกริ่งคลองตะเคียน พระกริ่งคลองตะเคียนเป็นพระเนื้อดินเผา ศิลปะล้อพิมพ์พระคง ของทางลำพูนมา บรรจุเม็ดกริ่งอยู่ภายใน ด้านหลังจะจาร อักขระยันต์  ซึ่งก็ล้วนแต่มีความหมายในทางมหาอุดทั้งสิน และมีข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งว่า อักขระยันต์เหล่านี้จะไม่มีซ้ำกันเลยในแต่ละองค์ เป็นความแปลกอย่างหนึ่ง เนื่องจาก อาจารย์เป็นคนชอบพระกรุตั่งแต่แรกเริ่ม มีหลายครั้งที่นั่งรถไฟจาก กทม ไปเที่ยวเล่นที่ อยุทธยากรุงเก่า เพื่อหาพระบ้าง เพื่อเที่ยวดูของเก่าบ้าง มีครั้งหนึ่ง ได้มีโอกาศไปเที่ยวแถวๆหมู่บ้านชุมชน คลองตะเคียน ในจังหวัดอยุธยา เลยได้เข้าไปนั่งเล่นในวัดแถวๆนั้น จำไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไรแต่รู้ว่าเป็นวัดเก่า เจอหลวงพ่อ องค์หนึ่งก็มีอายุพอสมควร เลยได้นั่งคุยกัน คุยไปคุยมาก็ไม่พ้นเรื่องพระ เราก็เลยถามท่านเกี่ยวกับประหวัติของพระเครื่องชุดนี้ ท่านก็เมตาเล่าให้ฟัง พอจะได้ใจความว่า เมื่อก่อนนี้แถวคลองตะเคียนเป็นหมู่บ้านของพวกนักรบและก็อาจารย์ผู้มีวิชา เขาอยู่อาศัยกัน เพราะก็ตั่งอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดมากนัก เวลาประชุมพลหรือเรียกเข้าประจำการก็เป็นการง่าย แต่เดิมนักรบหรือขุนศึกเวลาเขาจะออกรบก็ต้องมีของดีไว้ประจำกาย ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดก็ดี หรือพระเครื่องก็ดี พระกริ่งคลองตะเคียนก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าผู้สร้างเป็นพระหรืออาจารย์ผุ้เรืองวิชา  การพบพระกริ่งชุดนี้เขาบอกว่าพบตามวัดเก่าและเนินดินแถบคลองตะเคียน แรกเริ่มก็ไม่มีใครสนใจเพราะพระมีกระจายอยู่ทั่วไป เหตุเพราะสมัยก่อนไม่นิยมเอาพระที่เป็นของวัดเข้าบ้านมันไม่ดี แต่ของดีมันจะดังก็ช่วยไม่ได้ เหตุก็เกิดขึ้น เนื่องจากเด็กวัยรุ่นแถวหมู่บ้านคลองตะเคียน ยกพวกตีกันกับเด็กตลาดเจ้าพรมในตัวเมือง ปรากฎว่าเด็กคลองตะเคียนโดนฟันด้วยสาระพัสอาวุทมีด ชนิดที่ไม่น่าจะรอดมาได้ เสื้อขาดวิ้นไปหมด แต่เมื่อเพื่อนๆมาดูตามร่างกายแล้วก็ไม่พบว่าจะมีเลือนใหลออกมาตากตัวพบแต่รอยแดงกับรอยช้ำ เป็นที่กล่าวขวัญกันยกใหญ่ ทำให้จากเดิมที่พระไม่มีใครสนใจกับเริ่มเก็บกันไว้ที่ละองค์สององค์ จนในที่สุดก็ไม่มีให้เก็บอีก  ทั้งๆที่ ที่ตรงนั้นเป็นดง อิสลาม หมายความว่ามีแต่อิสลามทั้งนั้นเลยในแถบหมู่บ้าน จนพูดกันว่า ขนาดอิสลามยังเก็บกันเลย เหนียวไม่เหนียวขนาดใหนก็ดูเอา  สำหรับวิธีดูพระชุดนี้ ก็ในเน้นดูที่ธรรมชาติความเก่าของพระดังเช่นดูพระกรุทั่วไป เพราะมันจะฟ้องเก๊แท้ในตัวเอง นอกจากนั้นต้องมีคราบกรุสีขาวติดที่องค์พระทุกองค์ แล้วก็ดูตัวจาร ซึ่งของปลอมสมัยก่อนจะจารกันซะตัวหนาเท่าบ้าน  ทั้งที่ของแท้ๆเขาจะจารเล็กและก็คมดูเข้มขลัง  อาจารย์เคยมีพิมใหญ่นิยม สวยมากอยู่องค์หนึ่ง ปัจจุบันพระกริ่งใหล่ยกองค์นี้อยู่กับ ท่านเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งได้นิมนไปจำวัดกับท่านเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ท่านมาขอนิมนคลองตะเคียนองค์นั้นไป เคยถามท่าน ติดตลก ว่าท่านเป็นพระ จะเอาพระแนวนี้ไปทำอะไร ท่านก็เมตาตอบว่าตัวท่านเองก็ออกศึกบ่อยเหมือนกันหมายความว่าได้รับนิมนไปสวดบ่อย เกิดดีไม่ดีขึ้นรถลงเรือมีเหตุการไม่คาดฝันเกิดขึ้น ท่านจะได้อยู่ยงคงกระพัน กลับมาแลกพระกับโยมต่อได้ ก็เลยตัดใจให้ท่านไป เหตุการผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เคยได้พระชุดนี้อีกเลยเพราะหายากจริงๆ  จนเมื่อเร็วๆนี้ ได้มาอีกองค์ แต่สภาพไม่สวยพระเจ้าของเดิมทำตกกับพื้นซีเมนที่บ้าน ทำให้พระแตกเป็นสามชิ้น แต่เนื่องด้วยชอบพุทธคุณเลยจำเป็นต้องตีแลกมา ระหว่าง กริ่งคลองตะเคียนหักซ่อม กับ กระต่ายแกลบพิมพ์เล็ก สวยมาก ทำให้ลงเอยด้วยประการนี้แล ท่านก็อาจจะจอพระที่ชอบใด้เพืยงแต่ใจเย็นๆ

เปรียบเที่ยบ กริ่งคลองตะเคียน เก๊-แท้  ด้านหน้า (บนแท้ ล่างเก๊)

เปรียบเที่ยบ กริ่งคลองตะเคียน เก๊-แท้ ด้านหน้า (บนแท้ ล่างเก๊)

เปรียบเที่ยบ กริ่งคลองตะเคียน เก๊-แท้ ด้านหน้า (บนแท้ ล่างเก๊)

เปรียบเที่ยบ กริ่งคลองตะเคียน เก๊-แท้ ด้านหลัง (บนแท้ ล่างเก๊)

ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ

ผมว่าการสอบเนี่ยดีมากเลยครับ (ถึงแม้ตัวเองจะทำไม่ค่อยได้ก็เหอะ) ในอนาคตหากเป็นไปได้ผมอยากให้มีการสอบแบบนี้ก่อนกับผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการรับพระหน้างานประกวดน่าจะดีไม่น้อย งานประกวดจะได้มีมาตรฐานขึ้นกว่านี้มาก

ขนาดกอล์ฟยังต้องมีการเทิร์นโปรเพื่อเป็นมืออาชีพแต่วงการพระใครขายพระเก่งก็ได้เป็นเซียนเป็นกรรมการผมว่ามันออกจะแปลกๆ ไปๆมาๆอนาคตจะหามาตรฐานไม่ได้ กลายเป็นว่าพระอยู่กับคนขายพระเป็นพระแท้แต่อยู่กับชาวบ้านธรรมดาเป็นเก๊

เอ๊ะ! ชักออกทะเล เอาเป็นว่าผมชอบที่มีการสอบแบบนี้มากครับ (ถ้ามีสอบจริงผมว่าคงต้องระวังจะมีการวิ่งเต้นแอบโกงแบบสอบตำรวจแน่ๆ)

  "เมือก่อน" ผมโหยหาการเรียนรู้จากที่ต่างๆ เช่น เว็ปลานนา(ที่เคยเปิดสอนไปแล้ว) รอจนแล้วจนรอดก็ไม่เปิดสอนอีกซักที คิดว่าหมดหวังแล้ว พอมาเจออาจารย์ที่เปิดสอนแบบไม่มีห้องเรียน ไม่เก็บค่าเล่าเรียนนับว่าเป็นโชดวาสนาของผมอย่างมาก ดังพระมาโปรดเหมือนต้นข้าวที่รอน้ำฝน ทำให้ตาสว่างขึ้นมาก ต้องขอขอบอาจารย์ อเล็ก ใว้ณ.ที่นี้ด้วย จากพ่อค้ากาแฟ ตลาดเมืองใหม่

พระกรุ พระเก่า ถ้าไม่ช่วยกันเผยแพร่และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย ในการดูขั้นต้นยังไง รวมถึงเก๊-แท้ ยังไง ก็คงจะมีแต่นักเล่นรุ่นเก่า หรือ อยู่ในวงแคบๆ ที่เล่นหากัน เพราไม่สามารถ ชี้ชัดได้ว่าเก๊-แท้ ยังไงด้วยตัวเอง ต้องพึ่งตาคนอื่นดู ผิดกับเพราะเกจิ รุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น( กริ่ง,โลหะ,เหรียญ,ดิน,ผง ) มีข้อยุติในตัว และ สามารถแยกแยะด้วยตัวเองได้ นี้คือเหตุผลหนึ่งที่นักเล่นรุ่นใหม่หันไปสนใจ พระเกจิรุ่นใหม่ 

ขอบคุณ อ.อ เล็ก ที่ให้ความรู้และข้อมูล

"ขออีกนิดครับ"   อาจารย์ช่วยลงรูปหล่อๆของอาจารย์หน่อยครับ จะไปเจอตรงใหนได้ยกมือใหว้ถูก อาจารย์เปิดร้านที่ใหนจะได้แวะเยียมเยือนได้        สุดท้า้้้ยนี้ผมขออวยพรให้อาจารย์และคอบครัวจงมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไปยิ่งๆขึ้น

ขอบคุณมากครับที่ให้กำลังใจอาจารย์และติดตามเรียนรู้  ปกติอาจารย์ไม่ได้เปิดแผงพระครับ แต่เป็นนักเก็บสะสมพระกรุตัวยงครับคือเช่ามาเก็บไว้ ทุกสภาพที่เป็นพระกรุแท้ๆ มีปล่อยบ้างก็ให้คนที่สนิดกันหรือคนที่ยากได้ เช่น อาจารย์อยากได้องค์นั้นองค์นี้ ราคาเท่านั้นเท่านี้ ขอให้บอกมา ถ้าอาจารย์มีก็ให้เขาเช่าไปหรือถ้าไม่เช่าก็เอามาแลกกับอาจารย์ได้ ส่วนมากจะเป็นแบบนี้ สำหรับ อาจารย์เองเล่นแต่พระกรุอย่างเดียว ไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง นอกจากพระกรุแล้ว  อย่างอื่นอาจารย์ก็ยอมแพ้ เช่น พระเหรียญ หรือ รูปหล่อ อาจารย์ไม่เป็นเลย จึงไม่มีเก็บไว้ เพราะดูไม่เป็น ส่วนรูปถ่าย เอาไว้เรียนจบหมด สุดท้ายแล้วจะลงให้ดูนะครับ ถ้าอยากพูดคุยซักถามก็โทรมาหาอาจารย์ได้ทุกคน ยินดีให้คำปรึกษา ปัญหาพระกรุทุกรูปแบบ ตลอด 24 ซม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากค่าโทรศัพ ที่โทรมาพูดคุย

ปล อาจารย์ อเล็ก

ขอบคุณครับ ถ้ามีบล็อกส่วนตัวอย่าลืมฝากลิงค์ให้ผมด้วยนะครับ

ด้วยความเคารพ