พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา

❤ ช่วงนี้เก็บแต่พระย่อย พระหลักไม่ทันเซียนใหญ่เค้า ❤


❤ ช่วงนี้เก็บแต่พระย่อย พระหลักไม่ทันเซียนใหญ่เค้า ❤

   
 

พระหลักไม่ได้กับเค้า เราเก็บได้แต่พระย่อย เศร้า

 
     
โดย : หนานน้อย   [Feedback +24 -0] [+0 -0]   Tue 27, Mar 2012 23:27:24
 








 
 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 1 ] Tue 27, Mar 2012 23:28:24

 

    ต๋อนแรกดูไกล ๆ นึกว่า เหรียญครูบาปากกอง  อะหยังมาเหมือนกั๋นแต้ว่า สีท่าจะโรงงานเดียวกั๋น ปี้หนานเก็บสายเหนือทุกสายเลยน้อ....นี้ขนาดพระย่อยนา..ถ้าเป๋นพระหลักจะขนาดใหน ...หา....จะไปถล่มตั๋วนักเน้อ...ปี้หนาน...ช้างม่อย..emo_15

 
โดย : พระธนบดี    [Feedback +67 -0] [+0 -0]   [ 2 ] Tue 27, Mar 2012 23:33:41









 

ครูบาอุ่น วัดป่าแดง อริยสงฆ์แดนล้านนาที่มรณภาพแล้ว ศรีษะขึ้นรูปก้นหอย(เกศาพระเจ้า) ถึง 3 วาระจนเป็นข่าวโด่งดังทางสื่อ และเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่งครับ

ครูบาอุ่น อรุโณ ท่านเป็นคนกรุงเก่าโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค.๒๔๖๖ ที่ อ.มหาราช  จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ คำ โยมมารดาชื่อ เติม นามสกุลเดิมคือ กลิ่นเกษร มีพี่น้อง ๓ คน
ในวัยเยาว์ โยมบิดามารดาได้ส่งท่านเรียนหนังสือจนจบชั้น ม.๒ เมื่อมีอายุครบเกณฑ์ทหาร ได้ถูกเกณฑ์ไปเป็น ทหารบกในหน่วยปืนกลเล็ก (ป.ก.น.๑๑) ที่ อ.บางปะอิน อยู่ ๒ ปี
หลังจากปลดประจำการแล้ว มีอายุได้ ๒๔ ปี ในปี ๒๔๙๐ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดปากคลอง ต.หัวไผ่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยมี พระครูพรหมสมาจารย์ วัดประดู่ (ตะบอง) ต.ปากกระทุ่ง อ.มหาราช เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ช้อย วัดปากคลอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาสมุทร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายา "อรุโณ"  เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนนักธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีและโทตามลำดับ
นอกจากนี้ท่านยังสนใจในด้านพุทธาคมและกัมมัฏฐาน จึงได้ไปฝากตัวเรียนวิชากับครูบาอาจารย์หลายรูป ทั้งที่เป็น พระสงฆ์และฆราวาส

 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 3 ] Tue 27, Mar 2012 23:36:58









 

อาทิ...
หลวงตาบุญ           เรียนวิชาคงกระพันชาตรี
ครูโปร่ง                เรียนด้านเมตตามหานิยม
หมอปาน              เรียนวิชาแก้คุณไสยและปราบผี
พระอาจารย์พัด      เรียนด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด
ครูโล                  เรียนวิชาคงกระพัน
ครูรอด                เรียนวิชาทำน้ำมนต์
พระอุปัชฌาย์เฟื่อง วัดหนองอึ่ง เรียนสูตรสนธิและกัมมัฏฐาน
หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง เรียนวิชาทำตะกรุด
หลวงพ่อโอภาสี     เรียนวิชากสิณไฟ

ในปี ๒๕๒๐ ท่านจึงได้ออกจากวัดปากคลอง มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ เพื่อที่จะหา สถานที่สงบปฏิบัติธรรมโดยจุดมุ่งหมายของท่านจะมุ่งไปที่ จ.เชียงราย

จนกระทั่งได้พบวัดที่มีความสงบและ เป็นวัดที่พุทธบริษัท พระสงฆ์ และชาวบ้านร่วมกันปฏิบัติกัมมัฏฐานวัดนั้นคือ "วัดป่าแดง" ตั้งอยู่ใน หมู่บ้านป่าสักขวาง ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ปัจจุบันอยู่ทางทิศเหนือของที่ว่าการอำเภอสันกำแพง ท่านได้เข้าพำนักที่วัดป่าแดงตั้งแต่นั้นในฐานะพระลูกวัด เสมือนหลวงตารูปหนึ่ง มีกุฏิหลังเล็กๆ อยู่ด้านหลัง
โดยไม่แพร่งพรายฐานะอันแท้จริงของท่านให้ใครทราบว่า ท่านเป็นถึงพระครูสัญญาบัตรมาก่อนและมีชื่อเสียงโด่งดัง จากภาคกลางมาแล้ว
ต่อมา พระอธิการบุญมี เจ้าอาวาสรูปก่อนมรณภาพ คณะกรรมการวัดและศรัทธาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันขอให้ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมา

ถึงแม้ ครูบาอุ่น ท่านจะหลบลี้หนีหน้าญาติโยม เพื่อหาความสงบในการปฏิบัติธรรม จนกระทั่งชื่อเสียงค่อยๆลบเลือนหายไปกับกาลเวลา
แต่เพชรก็ยังคงเป็นเพชร ชื่อเสียงของท่านเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อศิษย์ของท่านได้ทำ ปฏิทินรูปครูบาอุ่น ขึ้น เพื่อแจกในเทศกาลปีใหม่ ได้เกิดเหตุการณ์บังเอิญขึ้นคือ
ขณะที่ชาวบ้านกำลังเผากองขยะอยู่นั้น ปรากฏว่า มีแผ่นกระดาษไม่ไหม้ไฟอยู่แผ่นหนึ่ง เมื่อไปดูก็ปรากฏว่าเป็น "ปฏิทินรูปครูบาอุ่น"
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านจึงพากันแตกตื่นหาเก็บรูปปฏิทินใส่กรอบบูชากันเป็นการใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันมากราบไหว้บูชาท่านจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว

 

 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 4 ] Tue 27, Mar 2012 23:38:31









 

ครูบาอุ่น มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๓ ธ.ค.๒๕๔๔ สิริรวมอายุได้ ๗๙ ปี พรรษา ๕๕
ในวันมรณภาพนั้น ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์คือ ขณะที่ศิษยานุศิษย์และแพทย์ได้ช่วยกันตกแต่งสรีระทำความสะอาดร่างและครองผ้าจีวรใหม่ให้กับท่าน

ปรากฏว่า ที่ศีรษะของครูบามีรอยนูนเล็กๆ เริ่มจากท้ายทอยและเพิ่มมากขึ้นๆลักษณะเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเท่าๆ กัน
โดยรอยนูนนั้นชัดเจนมาก คล้ายๆ กับเศียรพระพุทธรูป อีกทั้งใบหูของท่านก็ยาวขึ้นด้วย เป็นที่ปลื้มปีติแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมาก
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค.๒๕๔๕ อันเป็นวันที่จะประกอบพิธีบรรจุสรีระของครูบาลงในหีบแก้วเหตุการณ์เดิมก็บังเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ร่างกายของท่านยังอ่อนนุ่มเหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ ไม่แข็งกระด้างเหมือนคนที่เสียชีวิตทั่วไปและไม่มีกลิ่นเหม็น
ทั้งๆ ที่มรณภาพมาแล้วถึง ๒๕ วัน เป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์จำนวนมาก


 

 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 5 ] Tue 27, Mar 2012 23:39:19

 

สาธุ ครับ ตุ๊ ครับ

 
โดย : tongsound    [Feedback +16 -0] [+0 -0]   [ 6 ] Tue 27, Mar 2012 23:45:13









 
 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 7 ] Tue 27, Mar 2012 23:48:38









 
 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 8 ] Tue 27, Mar 2012 23:52:59

 

ผมก่อตั้งข้อสังเกตุว่า ลักษณะเหมือนเหรียญครูบาปากกองเหมือนกันครับ ลักษณะเหมือนกันมาก และอีกอย่างที่หูเหรียญจะมีขีด สามขีดเหมือนครูบาปากกองเลยครับ

 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 9 ] Tue 27, Mar 2012 23:54:53

 

เยี่ยมมากมายคับ  ^_^

 
โดย : mtparasite    [Feedback +1 -0] [+0 -0]   [ 10 ] Wed 28, Mar 2012 10:57:17

 
❤ ช่วงนี้เก็บแต่พระย่อย พระหลักไม่ทันเซียนใหญ่เค้า ❤ : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.