ตะกรุดมหาโสฬลมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี
สุดยอดตะกรุดอันดับหนึ่งของประเทศไทย

ตะกรุดมหาโสฬลมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี หนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยม และถือว่าเป็นจักรพรรดิแห่งตะกรุดยอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีอายุการสร้างเกินกว่า 100 ปี 
หลวงปู่เอี่ยมท่านได้มีการสร้างตะกรุดไว้หลายคราว และมีหลาขนาด ส่วนใหญ่ตะกรุดของท่านทำมาจากโลหะแก่ทองเหลือง หรือที่เราเรียกเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า เนื้อฝาบาตร ส่วนที่เป็นเนื้อทองแดง และเนื้อตะกั่วก็มี สันนิษฐานว่าเป็นการสร้างในยุคต้นๆ

ภายในแผ่นโลหะท่านได้ลงคาถาไว้ด้วยกันหลายบท มีทั้งที่ลงคาถาโสฬลมงคล คาถาไตรสรณคมณ์ และคาถาตรีนิสิงเห เป็นต้น 

ตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยมส่วนใหญ่จะลงรักถักเชือก พอกผงเกือบทุกดอก เชือกที่ถัก กับรักที่ลงพอกตะกรุด จะมีเอกลักษณ์พิเศษต่างจากตะกรุดของเกจิอาจารย์อื่นๆ คือ เชือกที่นำมาถักตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยม ส่วนใหญ่จะนำด้ายสายสิญจน์มาฝั้น และถักแทนเชือกเส้นอื่นๆ เมื่อผ่านระยะการใช้งานมาหลายๆปี สายสิญจน์ที่นำมาฝั้นถัก จะเสื่อม ชำรุดได้ง่ายกว่าเชือกเส้นอื่น แต่เชือกที่ถักก็มีเสน่ห์มากๆ ในดอกที่ค่อนข้างสมบูรณ์ คือ จะมีลักษณะแห้ง สวย รัดตัวเป็นสีน้ำตาลคล้ายเปลือกไม้

ส่วนรักที่ลงนั้นก็จะค่อนข้างพิเศษ คือ หลวงปู่เอี่ยมท่านได้นำน้ำรักมาผสมกับชันยาเรือ ทำให้น้ำรักกอดเกาะกับผง เหนียวแน่น แห้ง แข็ง ใส ดูงดงามมาก

เอกลักษณ์อีกอย่างของตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ทุกดอกจะมีกลิ่นหอม ฉุน ของกลิ่นชันโบราณ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตะกรุด หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงเลยทีเดียว

ทั้งเชือกถัก และรักที่ลงในตะกรุด หลวงปู่เอี่ยม จึงเป็นที่มาของการเรียก ตะกรุดมหาโสฬลมงคลว่า ต้อง"ป่นเหมือนแป้ง แห้งเหมือนไม้" ซึ่งคำว่า ป่นเหมือนแป้ง หมายถึง เชือกที่ถักทำมาจากด้ายสายสิญจน์ การแห้ง และความชำรุดทำให้ทรุดตัวได้ง่ายกว่าเชือกปอทั่วไป เมื่อผ่านระยะเวลาผ่านไปนานๆ เป็น 100 ปี ด้ายสายสิญจน์ เนื้อจะนิ่ม ป่นได้ง่าย เมื่อใช้มือสัมผัสตะกรุด

ส่วนคำว่า แห้งเหมือนไม้ หมายถึง เชือกด้ายสายสิญจน์ เมื่อรักที่ผสมชัน ได้พอกเกาะเป็นระยะเวลานานๆ สีของรัก จะถูกเชือกด้ายดูดซึม ทำให้สีอ่อนลงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไหม้ คล้ายกับเนื้อไม้แห้งๆ
 

>>>ขอขอบคุณข้อมูลจาก พี่ นุ เพชรรัตน์ และขออนุญาติลงโชว์ตะกรุดเพื่อเปรียบเทียบ เพื่อเป็นวิทยาทานครับ ขอบคุณครับ...<<<