หากจะบอกว่า ความลับของเหรียญรุ่นสามของครูบาสิริฯ  มีสองชนิด  และจัดสร้างไม่พร้อมกัน  เพียงเท่านี้ก็คงจะไม่น่าสนใจที่จะเปิดเผยความลับซักเท่าไหร่

เมื่อเป็นเช่นนี้  ความลับอะไร  ที่ทำให้เหรียญรุ่นสามนี้  เป็นที่น่าสนใจ

ขอเฉลย   นั่นคือ ความลับ ของเหรียญ รุ่นสาม  แบบมีห่วง  อะจิ

ก่อนจะเอ่ยถึงความลับของเหรียญ  จึงขอเล่าประวัติความเป็นมาของเหรียญรุ่นสาม เป็นอันดับแรกก่อนดังนี้

เหรียญ รุ่นสาม  จะมีสองชนิด  คือชนิดไม่มีห่วง(หมดห่วง)   และชนิด มีห่วง   ดังรูปตัวอย่าง

เหรียญชนิดไม่มีห่วง(หมดห่วง)

ท่านครูบาสิริ  ได้จัดสร้างขึ้น จำนวน 6,000 เหรียญ  เมื่อ  21 พย.33 เมื่อปลุกเสกครบ 5 เดือน  ถึงวันที่ 15 เมย.34  ท่านครูบาสิริฯ ก็นำออกให้ประชาชนบูชา    โดยเริ่มให้บูชาในวันที่ 15 เดือน เมย   นั่นเอง  ส่วนที่ยังไม่มีคนบูชา  ท่านครูบาสิริฯก็ยังคงปลุกเสกต่อไปจนถึงวันมรณะภาพ   ในอังคารที่  17 มีค 35  (ในความเห็นของผู้เขียนเห็นว่า  เหรียญนี้  ท่านครูบาสิริฯ ได้ตั้งใจทำอย่างดีเยี่ยมจริงจัง  เป็นอย่างมาก   ฝากไว้ให้ลูกศิษย์และประชาชน  อันเป็นความตั้งใจครั้งสุดท้ายของชีวิตท่าน จึงทำให้มีเหรียญบางส่วน มีระยะปลุกเสกเป็นระยะเวลายาวนาน มากกว่าหนึ่งปี)

มาถึงความลับของเหรียญรุ่นสาม ชนิด มีห่วง

เหรียญนี้ได้จัดสร้างขึ้นหลังจากท่านครูบาสิริฯ  ได้มรณะภาพไปแล้ว โดยวัดปากกองได้จัดสร้างขึ้นประมาณ 6,000 เหรียญ    มาถึงตรงนี้   ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยอยู่ในใจในพุทธคุณของเหรียญรุ่นนี้  ว่าจะสู้เหรียญรุ่นสามชนิดหมดห่วงได้หรือ

เรื่องนี้  หาเป็นเช่นนั้นไม่  ผมจะได้เล่าถึงความลับของเหรียญรุ่นนี้ให้ฟังดังนี้

เหรียญ รุ่นนี้(มีห่วง)ที่จัดสร้างขึ้น จำนวน 6,000 เหรียญนั้น ในปี 2535  ปีที่ท่านครูบาสิริฯได้มรณะภาพนั่นเอง  และในปีนั้น   ได้นำเหรียญทั้งหมด เข้ากรุงเทพฯ  ไปร่วมในงานบุญ พิธีปลุกเสกพระ  ของวัด เวฬุราชิน  ในพิธีปลุกเสกนั้น  ได้มีพระเกจิที่สำคัญร่วมสมัย  ที่เข้าร่วมในพิธีปลุกเสก  เช่น

หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง  สิงห์บุรี

หลวงพ่อ อุตตมะ วัด วังก์วิเวกการาม  กาญจนบุรี

หลวงพ่อเปิ่น  วัดบางพระ นครปฐม

หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่  นครราชสีมา  เป็นต้น

ซึ่งเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว

นอกจากนี้ เหรียญรุ่นนี้  ยังได้ทำการปลุกเสกในงานเพระราชทานพลิงศพของ ท่านครูบาสิริ  โดย คณาจารย์ ทางภาคเหนืออีกจำนวนหนึ่ง   จำนวน  2 วัน ในวันที 14-15 มีค.38  และจ่ายจ่ายให้ประชาชนผู้มาร่วมงานวันพระราชทางเพลิงศพในวันสุดท้าย(วันเผา) คือวันที่ 16 มีค.38 

นี่แหละครับ  คือความลับอันยิ่งใหญ่ของเหรียญรุ่นนี้   ที่ผ่านพิธีการปลุกเสกโดยพระเกจิชื่อดังแห่งยุค     เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่น่าเก็บสะสมได้อย่างไรกัน  อย่ามองข้ามโดยเด็ดขาด   เพราะเป็นเหรียญดี   เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยรัก

ริมฝั่งวัง