พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา

เจาะเหรียญรุ่นหนึ่งครูบาสิริธรรมโฆษิตวัดปากกอง


เจาะเหรียญรุ่นหนึ่งครูบาสิริธรรมโฆษิตวัดปากกอง

   
 

สวัสีครับ  ผมเป็นสมาชิกใหม่ มาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง  จึงขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

 

บทความนี้  เขียนในฐานะตามความเห็นของคนเริ่มสะสมพระและไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน   แต่เพราะเกิดจากศรัทธาที่มีต่อท่านครูบาวัดปากกองครับ กอร์ปกับเพิ่งได้พระมาใหม่จึงขอนำมาโชว์ด้วยนั่นเอง  วัตถุประสงค์ครั้งนี้เพื่อเป็นวิทยาทานเผยแพร่ให้ความรู้   และให้ยังคงหลงเหลือข้อมูลจากคนรุ่นหนึ่งส่งต่อ หรือส่งผ่านไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง  และคนรุ่นต่อๆไป   มิให้ข้อมูลบางอย่างต้องสูญหายไปจากความทรงจำพร้อมกับกาลเวลา   ข้อมูลนี้มิได้มีเจตนาที่จะสร้างความเสียหายหรือสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใค  หากมีอะไรล่วงเกินบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการขอยืมภาพประกอบ  ฯลฯ   ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

เมื่อประมาณกลางเดือน เมษายน 2553 ผมได้รับลูกอมของพระครูสิริธรรมโฆษิต วัดปากกอง  มาจากคุณ เชน  เชียงใหม่ (ขออนุญาตที่เอ่ยนามของท่าน) พร้อมทั้งคุณเชน ยังบอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของลูกอมที่เอาไว้กันผี  รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์  ประสบการณ์อันลี้ลับ ความขลัง  การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ  ของท่านพระครูสิริธรรมโฆษิต    และอีกหลายๆอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นการสะกดวิญญาณผีตายโหงจำนวนนับร้อย  แห่งเส้นทางสายสารภีเชียงใหม่มาไว้ในศาลเพียงตาเดียวกัน  (เพื่อไม่ให้เป็นผีเร่ร่อนเที่ยวมาหลอกหลอนผู้คนที่สัญจรในเส้นทางสายนี้)  ที่ไม่มีใครกล้าทำนอกจากท่านครูบาสิริฯเท่านั้น  เป็นต้น    จนเป็นเหตุให้ผมมีความเลื่อมใส ศัทธา  เป็นอย่างยิ่ง   ผมจึงได้สนใจเกี่ยวกับวัตถุมงคลของครูบาท่านฯ  พร้อมยังมีความต้องการที่จะสะสมเหรียญของท่านเอาไว้  และได้รู้ว่าเหรียญของท่านมีถึงสามรุ่น  ความนิยมแต่ละรุ่นก็ต่างกัน  โดยเฉพาะรุ่นหนึ่ง ค่านิยมมากจริงๆ  ยิ่งค่านิยมมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมเกิดความสนใจมากขึ้นเท่านั้น

 

 
     
โดย : ริมฝั่งวัง   [Feedback +19 -0] [+0 -0]   Mon 3, May 2010 07:44:41
 




 

แล้วเกิดอะไรขึ้นกับความสนใจของผมหละครับ

 

จากการที่ผมได้เสาะแสวงหา ในหลายๆแหล่ง  ยิ่งทำให้เกิดความสับสนกับผมเป็นอย่างมาก  เช่น

 

ทั้งๆที่เหรียญเหมือนกัน  ความสวยพอๆกัน  ทำไมราคาจึงต่างกันมากมาย  บางองค์หลักพันต้นๆ   บางองค์หลักพันปลายๆ บางองค์หลักหมื่นต้นๆ

 

ทำไมบางองค์เนื้อโลหะของพระจึงไม่เหมือนกันบางองค์เป็นเนื้อทองแดงผสม  บางองค์เป็นเนื้อทองแดงเถื่อน

 

ทำไมเมื่อเป็นรุ่นหนึ่งเหมือนกัน ทำไมบางองค์ดูเก่ามาก  ทำไมบางองค์ดูไม่เก่าเท่าที่ควร

 

ทำไมบางองค์จึงมีจาร  บางองค์ไม่มีจาร

 

ทำไมมีรุ่นหนึ่งแบน  รุ่นหนึ่งกลม

 

ทำไมมีเหรียญกะไหล่ทอง

 

ทำไมมีบล๊อคมากมาย  แล้วจะรู้ได้อย่างไรเหรียญไหนจริง  เหรียญไหนแท้  ฯลฯ

ในที่สุดปัญหาและข้อสงสัยต่างๆเหล่านี้  ก็ได้คลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว  เมื่อผมได้พบเจอลูกศิษย์สายตรงของท่านครูบาฯ  คือท่าน พตท.สนธยา  คำมงคล (สวป สภ.ทากาศ จ.ลำพูน)  ซึ่งเป็นลูกศิษย์ตัวจริง  เสียงจริง สายตรงจริง   รวมทั้งบิดาของท่านสารวัตร  ก็ยังเป็นโยมอุปัฏฐากอันใกล้ชิดของท่านพระครูสิริมาโดยตลอดเวลาที่ยาวนานมากจนไม่อาจคำนวณเวลาได้ว่ายาวนานเท่าใด   โดยผมได้พบท่านสารวัตร เมื่อวันที่ 29 เมย 2553

ท่านสารวัตรได้เล่าถึงความเป็นมาของเหรียญรุ่นหนึ่ง  ซึ่งแม้จะไม่ละเอียดเท่าที่ควร  เนื่องจากข้อมูลบางอย่างมิได้มีการจดบันทึกไว้  ได้แต่บรรยายมาจากความทรงจำของท่านล้วนๆเท่านั้น    แต่ผมก็ยังพอจับใจความสำคัญๆ  เอาไว้ได้ดังนี้

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 1 ] Mon 3, May 2010 07:49:14





 

เหตุใดเหรียญรุ่นหนึ่งจึงมีสองบล๊อคคือหนึ่งแบนและหนึงกลม

 

เนื่องจากท่านครูบาสิริฯ เป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมมา พรหมจักโก วัดพระบาทตากผ้า จ.ลำพูน   ณ เวลานั้น  ช่างที่ทำเหรียญของครูบาพรหมมาฯ(ที่กรุงเทพฯ) ได้นำเหรียญที่จัดทำเสร็จแล้วมาส่งให้ครูบาพรหมมาฯ  และเหตุนี้ทำให้ช่างทำพระได้มีโอกาสกราบนมัสการท่านครูบาสิริฯ   จนเป็นเหตุให้ช่างทำพระเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านครูบาสิริฯเป็นอย่างมาก  และในปีนั้นเอง ประมาณปี 2514 หรือ 2515 ไม่แน่ชัด ( ทั้งนี้ก็จากความทรงจำของท่าน สารวัตรนั่นเอง)   จึงได้รับอาสาที่จะจัดสร้างพระเหรียญรูปเหมือน ให้กับท่านครูบาสิริฯ  ทั้งๆที่ท่านครูบาสิริ ไม่มีสตางค์จะจัดสร้าง  แต่นายช่างก็ยังรับอาสาที่จะทำให้  โดยทะยอย จัดสร้าง ทีละน้อย  ในช่วงเวลาระหว่าง ปี 2515-2519  และจัดส่งให้ท่านครูบาสิริๆไปเรื่อยๆ(นี่เองจึงเป็นต้นเหตุของกำเนิดเหรียญรุ่นหนึ่ง) 

 

เมื่อจัดสร้างไม่พร้อมกัน  ความเก่าของเหรียญจึงมีความแตกต่างกันไป  เหรียญไหนสร้างก่อน ก็มีความเก่ากว่าเหรียญที่สร้างใหม่  และท่านพระครูก็ทะยอยปลุกเสกแจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหาไปเรื่อยๆ  เหรียญที่สร้างรุ่นแรกๆประมาณ 500 เหรียญ จะมีลักษณะหัวเลขหนึ่งแบน  (เป็นที่มาของบล๊อคเลขหนึ่งหัวแบน) ต่อมาเมื่อท่านครูบาสิริฯ ได้พบว่าตรงเลขหนึ่งหัวแบน   เห็นว่าไม่สวย จึงได้ให้นายช่างทำพระที่อยู่กรุงเทพฯนั้น  ทำหัวเลขหนึ่งเสียใหม่ ให้มีลักษณะเป็นหัวกลม(จึงกลายเป็นที่มาของบล๊อคเลขหนึ่งหัวกลม)  โดยค่อยๆทะยอยจัดสร้างบล๊อคหัวกลมจนครบ 2000 เหรียญก็หยุดสร้าง  นอกจากนี้ยังมีการจัดสร้างเป็นพิเศษอีก 9 เหรียญ เป็นเหรียญเงิน(อยู่ที่ คุณปรีชา ทิพย์เนตร(ไวตาทิพย์)

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 2 ] Mon 3, May 2010 07:51:40









 

จากการที่หยุดสร้างนี่เอง ทำให้พระเริ่มขาดแคลน   เมื่อมีน้อยความต้องการมีมาก  เหรียญจึงมีราคาค่างวดที่สูงขึ้นตามตัว  จากเหตุนี้จึงเริ่มมีการทำเหรียญปลอมขึ้นมา โดยลูกศิษย์บางคนของท่านครูบาสิริฯนั่นเอง  ทั้งนี้เหตุดังกล่าว  ท่านครูบาสิริฯไม่เคยทราบมาก่อนเลย แม้กระทั่งท่านมรณะภาพท่านก็ยังไม่เคยทราบ 

 

 

แต่การสร้างพระปลอมนี้ มิได้ทำจากบล๊อคเดิม(บางกระแสข่าวบอกว่าทำจากบล๊อคเดิม)  และมิได้ทำจากช่างคนเดียวกันที่กรุงเทพ  แต่ทำจากโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคกลาง  เนื่องจากเทคโนโลยี่ในการทำเหรียญปลอมทำได้เหมือนของจริงมาก   จึงทำให้สร้างปัญหาในการแยกแยะอันไหนของจริงอันไหนของปลอม   แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  เมื่อสร้างจากคนละบล๊อค และจากคนละโรงงานความแตกต่างของเหรียญก็ย่อมจะมี    และทำให้สามารถแยกแยะความแตกต่างของเหรียญจริง กับเหรียญปลอมได้

 

เหรียญปลอม แม้จะมีตำหนิหลายๆแห่ง ในการจัดทำในหลายๆครั้ง  แต่ละครั้งก็จะปรากฏตำหนิที่แตกต่างกันไปจากเหรียญจริง  เช่นเหรียญปลอมบางพิมพ์มี ตำหนิขี้กากใต้ตัว พ (ด้านหน้า)  บางพิมพ์มีตำหนิที่เป็น ตามด ใกล้บริเวณยันต์ที่ เจ็ดนาฬิกา( ด้านหลัง)  หรือบางพิมพ์มีตำหนิ จุดไข่ปลาใกล้บริเวณยันต์ตรงตำแหน่งที่เก้านาฬิกา(ด้านหลัง)  เป็นต้น  จนสุดท้ายถึงแม้ว่าเหรียญปลอมจะทำปลอมได้ใกล้เคียงกับเหรียญจริงก็ตาม   แต่เมื่อโรงงานที่จัดสร้างเหรียญจริงและเหรียญปลอมเป็นคนละแห่งกัน   จึงมีจุดตายในการแยกแยะว่าอันไหนเป็นเหรียญจริง  อันไหนเป็นเหรียญปลอม

 

 

แล้วจะแยกแยะเหรียญจริงได้อย่างไร     เนื่องจากเครื่องปั๊มเหรียญแต่ละเครื่องย่อมจะสร้างล่องลอยการตัดขอบเหรียญที่ไม่เหมือนกัน  เมื่อเครื่องป๊มเหรียญปลอมและเหรียญจริงเป็นคนละเครื่องกัน   ลักษณะบ่งเฉพาะของขอบเหรียญที่ถูกตัดย่อมต่างกันไปเช่นกัน  ในเหรียญจริงขอบตัดของเหรียญ(ด้านขอบเหรียญ)บริเวณทิศ สิบเอ็ดนาฬิกา  จะแสดงเอกลักษณ์ของขอบเหรียญที่ถูกตัดแตกต่างจากขอบของเหรียญปลอมอย่างชัดเจน  คล้ายกับลายพิมพ์นิ้วมือฉันใดก็ฉันนั้น  หรือคล้ายกับลอยตำหนิขอลูกกระสุนปืนที่ออกจากรังเพลิงของกระบอกปืน   ย่อมก่อให้เเกิดตำหนิล่องลอยที่แตกต่างกันไปเช่นกัน  ตามตัวอย่างบางกระทู้ที่บางท่านได้กรุณาสละเวลาชี้ตำหนิบอกจุดตายในการดูไว้แล้ว   ซึ่งจะปลอมอย่างไร จุดนี้ก็มิอาจจะทำปลอมให้เหมือนของจริงได้

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 3 ] Mon 3, May 2010 07:55:00









 

อ้าวแบบนี้ เหรียญที่ไม่มีตำหนิจุดตายตรงนี้จะกลายเป็นเหรียญปลอมทุกเหรียญหรือ

 

กรณีนี้ หาเป็นเช่นนั้นไม่ ( ตรงจุดนี้  ท่านที่เป็นกรรมการในการรับประกวดพระ  พึงต้องใช้ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง)   กรณีดังกล่าวมีเหตุเนื่องมาจากเมื่อประมาณปี 2529 ท่านรองผู้อำนวยการการไฟฟ้านครหลวง(ท่านชาญกิจ ไชยวงศ์) ในขณะนั้น (เป็นน้าแท้ๆของท่านสารวัตรผู้เล่า)   ได้จัดให้มีการทอดกฐินจากกรุงเทพฯไปที่วัดปากกอง   เหตุดังกล่าว ท่านรองการไฟฟ้าฯ จึงได้ขออนุญาตท่านครูบาสิริฯ  ขอจัดสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งเพิ่มอีกครั้ง(ซึ่งเป็นการทำเพิ่มเป็นครั้งสุดท้าย )(โดยช่างที่กรุงเทพฯ)   ขอจัดทำประมาณ 1000 เหรียญ  โดยเหรียญนี้จะเป็นเนื้อทองแดงเถื่อน ซึ่งลักษณะผิวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน  (ผู้เขียนก็ไม่ทราบว่าลักษณะเหรียญที่ทำด้วยทองแดงเถื่อนจะเป็นอย่างไร  แม้ท่านสารวัตร จะอธิบายถึงลักษณะ  แต่ผู้เขียนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเนื่องจากไม่มีความชำนาญ  สมาชิกท่านใดมีตัวอย่าง ก็ขอรบกวนโพสให้เพื่อนๆสมาชิกชมหน่อยนะครับ)

เหรียญที่จัดทำใหม่ 1000 กว่าเหรียญในครั้งนี้ได้แจกให้กรรมการกฐิน  และเมื่อเป็นเหรียญที่จัดทำขึ้นใหม่  ตำหนิในการพิจารณาว่าเป็นเหรียญจริงหรือเหรียญปลอม  ที่เป็นจุดตายจึงไม่เหมือนกับเหรียญรุ่นแรกๆประมาณ 2500 เหรียญที่จัดทำในช่วงปี 2515-2519 ดังกล่าวข้างต้น  การดูจึงต้องวิเคราห์ถึงเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ดี(กรณีนี้จึงทำให้เหรียญรุ่นหนึ่งมีเนื้อโลหะที่แตกต่างกัน)  แต่ขอย้ำว่าแม้จะไม่มีตำหนิจุดตายดังกล่าว เหรียญที่จัดทำใหม่นี้ ก็มิใช่เป็นเหรียญปลอมอย่างแน่นอน  ที่สำคัญเหรียญรุ่นนี้ เมื่อจัดสร้างในปี 2529 ตรงหัวเลขหนึ่งย่อมจะเป็นหัวกลมเท่านั้นไม่ควรจะมีหัวแบนอย่างเด็ดขาด   เหรียญรุ่นนี้ท่านครูบาสิริได้ทำการปลุกเสกเป็นพิเศษถึงเจ็ดวันเต็มๆ(ท่านสารวัตรกล่าวย้ำ)  จากการวิเคราะห์ของตัวผู้เขียนเห็นว่า  เหรียญรุ่นหนึ่งที่จัดสร้างใหม่ในปี 2529 จำนวน 1000 เหรียญนี้   จากเหตุที่มีกฐินจากกรุงเทพฯ  เหรียญรุ่นนี้ส่วนมากจึงน่าจะอยู่กับคนกรุงเทพฯเป็นส่วนใหญ่   จึงทำให้ไม่เกิดการแพร่หลายให้เห็นเท่าที่ควร

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 4 ] Mon 3, May 2010 08:00:38









 

ต่อข้อสงสัยที่ว่าเหรียญทองชุบทองมีจริงหรือไม่

 

ท่านสารวัตรได้ยินคำถามนี้ถึงกับหัวเราะออกมา  และกล่าวว่ามีจริงซิครับ  คนที่ทำขึ้นคือท่านสารวัตรนั่นเองเป็นคนทำ   โดยท่านสารวัตรได้ขออนุญาตจากท่านครูบาสิริฯแล้ว

 

การจัดเหรียญชุบทองนี้ คือ     ท่านสารวัตรได้นำเหรียญรุ่นหนึ่งที่ได้ปลุกเสกแล้ว  จำนวน  8  เหรียญ ( มีทั้งเหรียญที่เป็นบล๊อคเลขหนึ่งหัวแบนและหัวกลมอย่างละ 4 เหรียญ)   โดยในปี 2533 จ.ส.ต.สนธยา  คำมงคล(ยศของท่านสารวัตรในขณะนั้น) ได้เดินทางไปกรุงเทพเพื่ออบรมเป็นนายร้อยตำรวจ  จึงได้นำเหรียญรุ่นหนึ่งจำนวน 8 เหรียญที่ท่านสะสมไว้ไปด้วย   และถือโอกาสนี้  ได้นำเหรียญดังกล่าวไปชุบทองที่หลังกระทรวง คลองหลอด ที่กรุงเทพฯ  โดยชุบทองอย่างหนามากๆในราคาเหรียญละ 200 บาท (นี่เองเป็นต้นเหตุที่ทำไมกะไหล่ทองจึงดูใหม่นัก  ก็เพราะเหตุชุบทองอย่างหนา  และเพิ่งชุบทองเมื่อประมาณปี 2533 นี่เอง) ( แต่ถึงอย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเหรียญจัดทำในครั้งแรกๆ  ตำหนิจุดตายในการดูว่าเป็นเหรียญจริงจึงมีจุดเดียวกันกับเหรียญยุคแรกๆจำนวน 2500 เหรียญนั่นเอง)

 

เหรียญชุบทองนี้เป็นเหรียญที่มีความพิเศษอย่างหนึ่ง คือ   นอกจากจะทำการปลุกเสกมาแล้วครั้งหนึ่งในยุคแรกแล้ว   ท่านสารวัตรยังขออนุญาตท่านครูบาสิริ ขอนำเหรียญทั้งแปดนี้เข้าในพิธีการปลุกเสกร่วมกับเหรียญรุ่นสามอีกด้วย   ซึ่งเหรียญรุ่นสามนี้เริ่มปลุกเสกเดี่ยว ตั้งแต่วันที่ 21 พย 2533 และนำเข้าพิธีปลุกเสกครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 เมย 2534    เหรียญชุบทองรุ่นนี้จึงผ่านพิธีการปลุกเสกถึงสองครั้งสองคราว   และมีจำนวนน้อยมากๆเพียง 8 เหรียญเท่านั้น  ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีเหรียญรุ่นนี้เก็บไว้  จึงแบกรับความภาคภูมิใจไว้เถอะครับ  เหรียญรุ่นนี้จึงเป็นเหรียญที่น่าเสาะแสวงหา  น่าเก็บสะสมรักษาไว้เป็นอย่างยิ่ง   เหรียญรุ่นนี้  ท่านสารวัตรได้มอบให้ผู้บังคับบัญชาและลูกน้องคนสนิทไปบางส่วน  แต่ก็ยังคงเหลืออยู่กับท่านสารวัตรอีก 2 เหรียญ

 

 

เหรียญชุบทอง  ตามตัวอย่างนี้   ท่านสารวัตรได้เปิดเผยว่า  ท่านได้มอบให้กับลูกน้องคนสนิทของท่านที่เป็นนายดาบตำรวจ  อยู่ที่จังหวัดพะเยาว์ ไว้นั่นเอง    ในการวิเคราะห์ของตัวผู้เขียน   เนื่องจากเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ติดรางวัลที่สาม จากงานประกวด พระเครื่อง พระบูชาฯ ณ เจ เจ ฮ้อบบี้ มาร์เก็ต เชียงใหม่  เมื่อปี 2552  เนื่องจากผิวทองยังใหม่อยู่มาก  จึงต้องขอชมเชยกรรมการมา ณ  ที่นี้ด้วย  ที่ท่านเก่งจริงๆ  ดูได้ขาด  มีการวิเคราะห์ที่ดี   มิใช่จะตีเก๊ไปอย่างง่ายๆ  อันจะเกิดผลเสียกับเหรียญจริง  เสียงจริง  และผ่านการปลุกเสกถึงสองครั้งเป็นที่พิเศษแตกต่างจากเหรียญปกติอื่นๆ  ไปอย่างไม่น่าให้อภัย

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 5 ] Mon 3, May 2010 08:05:32

 

ต่อข้อสงสัยถึงเหรียญของท่านมีบางส่วนที่มีการจาร จริงหรือไม่

 

กรณีนี้ ท่านสารวัตรได้เล่าเพิ่มเติมว่า   มีจริงๆโดยจารอักขระ นะมิ  จำนวน 208 เหรียญ เท่านั้น แจกกฐินของแม่สาวัลเลย์ ในปี 2519  เนื่องจากเหรียญนี้มีจำนวนน้อยมาก   จึงเป็นที่หวงแหนของนักสะสมเป็นอย่างมากเช่นกัน  ทำให้มีโอกาสเห็นได้น้อยมาก

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 6 ] Mon 3, May 2010 08:07:17





 

สุดท้ายนี้  ต้องขอจบเพียงเท่านี้ก่อนเนื่องจากตัวผู้เขียนมีเวลาไม่มากนัก   ณ โอกาสนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านสารวัตร พตท.สนธยา คำมงคล   สวป.สภ.ทากาศ จ. ลำพูน  เป็นอย่างยิ่ง  ที่ท่านยอมสละเวลาอันมีค่าของท่าน  เล่าข้อมูล  ข้อเท็จจริง  เรื่องจริง เสียงจริง  ให้เป็นที่ยุติถึงประวัติความเป็นมา    จุดชี้เป็นชี้ตาย  รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ของเหรียญรุ่นหนึ่งที่เป็นเหรียญจริงและเหรียญปลอม  ไม่ต้องเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยใดๆอีก  ไว้เป็นวิทยาทาน ทั้งต่อคนรุ่นนี้   รุ่นหน้า   รวมทั้งต่อตัวผู้เขียนด้วย   รวมถึงบุญคุณอันใหญ่หลวงของท่านสารวัตรที่มีต่อตัวผู้เขียนเอง  ที่ท่านยอมสละเหรียญรุ่นหนึ่งให้กับตัวผู้เขียนถึงสามเหรียญ   รวมทั้งลูกอมรุ่นหนึ่ง(สีเขียว)(ตามที่ได้โชว์ไว้ในกระทู้แล้ว อันเป็นลูกอม ที่ ณ  เวลาปัจจุบัน  น่าจะเป็นลูกอมในตำนานของหมู่เฮาชาวล้านนาไปเสียแล้ว  แม้เราๆท่านๆจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมายสักเพียงใด  ก็มิอาจจะหาลูกอมรุ่นหนึ่งสีเขียวนี้  มาไว้ในความครอบครองอย่างง่ายดายนัก        เพราะท่านครูบาสิริ  จะทำน้อยมากๆ โดยจัดทำไว้เป็นพิเศษสำหรับแจกจ่ายให้กับศิษย์รักจริงๆเท่านั้น  ซึ่งต่างจากลูกอมรุ่นหนึ่งสีเทาที่จัดสร้างเป็นจำนวนมากกว่า  เพื่อไว้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่เลื่อมใสในตัวท่านครูบาสิริฯ  ที่ยังพอจะเก็บได้อยู่  แต่ก็ไม่ง่ายนักเช่นกัน

 

 

หมายเหตุ  เนี่องจากการเขียนในครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดจากความทรงจำล้วนๆ  ข้อเท็จจริงบางอย่างอาจจะไม่สมบูรณ์และอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง  ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ  และถ้าพอมีเวลาบ้าง  ขอรบกวนลูกศิษย์สายตรงของท่านครูบาสิริฯ  ร่วมด้วยช่วยกันเสริมแต่งข้อมูล  ข้อเท็จจริงต่างๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นต่อไปด้วยเทอญ

 

 

ด้วยรักหมู่เฮาชาวล้านนา

 

ริมฝั่งวัง

 

3 พค. 53

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 7 ] Mon 3, May 2010 08:09:23

 

ยอดเยี่ยมไปเรยครับ  เป็นกำลังใจ สำหรับผู้สร้างสรรข้อมูลดีๆ

เอาไปเรยครับ  1 ดวง

 
โดย : พระช้างเผือก    [Feedback +37 -0] [+0 -0]   [ 8 ] Mon 3, May 2010 09:08:41

 
เยี่ยมครับรวมด้วยช่วยกันอีกแรงของดีๆบ้านเราจะได้ไม่สูญหายไปกับกาลเวลา
 
โดย : แหร่มจริง    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 9 ] Mon 3, May 2010 09:38:02

 
 
โดย : proprayad    [Feedback +0 -0] [+0 -0]   [ 10 ] Mon 3, May 2010 10:02:28

 
ปรบมือดังๆ เยี่ยมมาก ครับ   เพื่อนพ้องน้องพี่ ผมมีเหรียญหนึ่ง กำลังยืนเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้าที่โรงเรียนวัดปากกอง เพลงจบท่านก็เดินมาหา มอบให้กับมือ 1เหรียญ เก็บมาจนถึงทุกวันนี้
เป็นกำลังใจกันต่อไปนะครับ

 
โดย : pootom999    [Feedback +10 -0] [+0 -0]   [ 11 ] Mon 3, May 2010 10:38:40

 
 
โดย : คนดวงดี    [Feedback +13 -0] [+0 -0]   [ 12 ] Mon 3, May 2010 19:18:25

 
 
โดย : p.som    [Feedback +42 -0] [+1 -0]   [ 13 ] Mon 3, May 2010 22:12:10









 

ยอดเยี่ยมสำหรับข้อมูลดีๆครับ...ขอแจมโชว์เหรียญมีจารตามประวัติด้วยครับ

ส่วนพระผงอิทธิเจของครูบาปากกอง ท่านใดมีข้อมูลประวัติการจัดสร้าง ช่วยให้ความรู้เป็น

วิทยาทานให้ด้วยครับ...

 
โดย : คนนิคมหละปูน    [Feedback +1 -0] [+1 -0]   [ 14 ] Mon 3, May 2010 23:23:22





 

สุดยอดความรู้แห่งวิทยาทานจริงๆครับ....ขอบคุณจากใจจริงครับ

 
โดย : สิบสองปันนา    [Feedback +1 -0] [+0 -0]   [ 15 ] Tue 4, May 2010 10:27:53

 
สุดยอดจริงๆคับ สำหรับข้อมูล  เป็นแรงเชียร์ให้นำมาลงอีกคับ ข้อมูลแบบนี้ถ้าไม่มีการบันทึกไว้่ ก็น่าเสียดาย เพราะอาจสูญหายไป เวลาจะสืบค้นก็หายาก ปรบมือดังๆคับ
 
โดย : mtparasite    [Feedback +1 -0] [+0 -0]   [ 16 ] Tue 4, May 2010 11:21:29

 

ขอขอบคุณทุกคำชมนะครับ   ผมเป็นเพียงผู้ถ่ายทอดจากท่านสารวัตรเท่านั้นครับ

และเพราะศรัทธาในตัวท่านครูบาจริงๆ  จึงได้ถ่ายทอดเรื่องราวในครั้งนี้

เหรียญของท่านสินสองปันนา สวยจริงๆขอรับ

และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมด้วยช่วยแจมตัวอย่างเหรียญต่างๆมา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ

ไงๆขอเหรียญทองแดงเถื่อนด้วยนะครับ  อยากจะเห็นจริงๆอะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มสะสมเพิ่มได้หลายชิ้นเหมือนกัน   ถ้าว่างๆจะถ่านภาพมาให้ชมขอรับ

 

 
โดย : ริมฝั่งวัง    [Feedback +19 -0] [+0 -0]   [ 17 ] Tue 4, May 2010 15:26:44

 
ตัวจริง ศรัทธาจริง ต้อง คุณริมฝั่งวัง ครับผ้ม
 
โดย : หนานน้อย    [Feedback +24 -0] [+0 -0]   [ 18 ] Tue 4, May 2010 18:10:03

 
เจาะเหรียญรุ่นหนึ่งครูบาสิริธรรมโฆษิตวัดปากกอง : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.