พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ
โชว์พระเกจิอาจารย์ล้านนา

ห ล ว ง ปู่ แ ห ว น รุ่นเมตตา ๒๕๒๐ (วัดรัตนวนาราม ภาคแรก)


ห ล ว ง ปู่ แ ห ว น  รุ่นเมตตา ๒๕๒๐ (วัดรัตนวนาราม ภาคแรก)

   
 

การสร้างวัดรัตนวนาราม

 

 

ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ ท่านพระภิกษุไพบูลย์ สุมงฺโล วัดป่าสำราญนิวาส (ศิษย์หลวงปู่แว่น ธนปาโล และท่านพระอาจารย์หลวง กตปุญฺโญ) ได้มีโอกาสไปในงานศพของท่านพระอาจารย์สมฯ ที่สำนักสงฆ์ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ในงานนั้นท่านได้พบกับท่านพระอาจารย์ทอง จนฺทสิริ (วัดอโศการาม สมุทรปราการ) พร้อมด้วยท่านพระอาจารย์จันดี เขมปญโญ (วัดท่าสะอาด สกลนคร) หลังจากเสร็จการประชุมเพลิงศพแล้ว ท่านอาจารย์ทอง ท่านถือโอกาสนิมนต์ให้มาเยี่ยมญาติโยมทางพะเยากับท่าน เพราะว่าครั้งหนึ่งท่านพระอาจารย์ทองเคยเดินทางมาปลีกวิเวกในป่าเขาเขตจังหวัดเชียงรายมากหลายครั้ง  ถึงกับเคยมาจำพรรษาที่บนเขาในถ้ำแห่งหนึ่งที่เรียกว่า ถ้ำผาจรุยของเชียงราย

 

ท่านพระอาจารย์ไพบูลย์ เล่าว่า ท่านเป็นพระผู้น้อยพรรษา อายุเพิ่งจะเพียง ๕ พรรษา ในเมื่อครูบาอาจารย์ท่านได้นิมนต์ หรือชวนให้เดินทางมาพร้อมกับท่าน ท่านอาจารย์ไพบูลย์ถือว่าเป็นมงคลที่ได้รับเมตตาให้มีโอกาสติดตาม เพราะในแวดวงพระกัมมัฏฐานถือกันว่าการได้ติดตามเดินทางไปกับครูบาอาจารย์นั้นเป็นโอกาสอันประเสริฐ ครั้นเมื่อได้เดินทางถึงอำเภอพะเยา ท่านอาจารย์ทองก็ได้แวะปักกรด ณ สถานที่ที่ว่าเป็นวัดร้างที่ชาวบ้านร่ำลือกันมากว่าผีดุ มีซากเจดีย์ ซากโบสถ์ เศียรพระพุทธรูปแตกหักมากมาย ท่านได้ปักกรดบำเพ็ญเพียร ณ สถานที่แห่งนี้ เกิดนิมิตขึ้นหลายครั้งหลายคราคืนแล้วคืนเล่าจนคืนสุดท้ายในคืนที่สี่ท่านก็ได้ตัดสินรับปากกับเจ้าหญิงในนิมิตองค์หนึ่ง ท่านหลวงพ่อไพบูลย์จึงอยู่ ปักกรด ณ ที่นี้ต่อเพียงลำพัง หลังจากที่พระอาจารย์เดินทาง

 

ต่อไปเชียงราย ท่านจำพรรษา ณ ที่นี้ ครั้นออกพรรษาท่านก็ออกธุดงค์ต่อไปตามวิสัยของพระกัมมัฎฐาน

 

                        หลวงพ่อไพบูลย์ สุมงฺโล ท่านกลับมาที่พะเยาอีกเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๑๓ คณะศรัทธาญาติโยมเริ่มรู้จักคุ้นเคยกับท่านเป็นจำนวนไม่น้อยแล้ว พากันบ่นว่า ที่ท่านให้ถากถางป่าให้สะอาดร่มรื่น เพียงเฉพาะบริเวณที่พักสงฆ์และเดินจงกรม และที่ญาติโยมจะมาถวายจังหันปฏิบัติธรรมเท่านั้น ส่วนบริเวณอื่นให้ทิ้งคงสภาพป่าไว้เพื่อความสงัดวิเวกนั้น ทางญาติโยมใคร่จะถากถางป่าให้กว้างขวางกว่าเดิม เพราะผู้คนเริ่มจะมาที่นี่มากขึ้นแล้ว จะได้มีที่กราบไหว้ปฏิบัติธรรมบ้าง การกลับมาคราวนี้ ชาวบ้านญาติโยมก็ได้นิมนต์ท่านหลวงพ่อให้อยู่ ณ ที่นี่ตลอดไป โดยชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันสร้างทั้งหมดเพียงหลวงพ่อรับปากรับคำว่าจะอยู่ ณ ที่นี่เท่านั้น ทำให้หลวงพ่อระลึกถึงนิมิตในครั้งสุดท้ายที่ได้รับปากกับเจ้าหญิงองค์นั้น (เจ้าหญิงรัตนสุดาวดีสัตตบงกช)

 

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนสถานที่แห่งนี้ก็กว้างขวางมากขึ้นกว่าแต่เดิม ญาติโยมก็มามากขึ้น พระพุทธรูปที่แตกหักจมดิน ชาวบ้านขุดขึ้นมาปฏิสังขรณ์เพียงองค์สององค์เศียรหัก คอหัก แขนหัก นำมาต่อเติมให้ครบองค์พอเป็นพระประธานให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ มีที่พึ่งทางจิตใจ บางคนมาอธิฐานขอพร กลับได้บังเกิดผล ชาวบ้านเรียกพระสององค์พี่น้องนี้ว่า หลวงพ่อเกษม และหลวงพ่อสุข ประดิษฐานในหลังคาเดียวกันเรียกกันเป็นชื่อแฝดว่า หลวงพ่อเกษม-สุข เมื่อสร้างศาลาเสร็จท่านหลวงพ่อก็ลาญาติโยมออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ จวบจนจะเข้าพรรษาท่านจึงกลับมาพะเยาอีก

 

เวลาถัดมาอีก ๒ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ก็มีคณะศรัทธาญาติโยมทั้งใกล้และไกล ส่วนใหญ่จากกรุงเทพมหานคร ก็ได้มารู้จักและเกิดศรัทธาที่จะทะนุบำรุงสร้างสถานที่นี้ให้เป็นวัดอย่างสมบูรณ์ในทางพุทธศาสนา มีการสร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์ จึงได้ติดต่อจัดทำไปตามระเบียบราชการ โบสถ์ได้รับเมตตาจากคุณสกลจิต พนมวัน ณ อยุธยา เป็นประธานในการสร้างพร้อมคณะศรัทธาทั่วสารทิศ ช่วยกันจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ส่วนเจดีย์นั้นได้รับเมตตาจากหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ อนุญาตให้จัดทำเหรียญรูปท่านจำนวน ๔๐,๐๐๐ เหรียญ สำหรับมอบให้ผู้บริจาคสร้างเจดีย์ พร้อมทั้งให้ชื่อเหรียญนั้นว่า รุ่นเมตตา ปัจจัยที่ได้จากการที่มีผู้บูชาเหรียญรุ่นนี้ ได้นำมาสร้างเจดีย์จนเสร็จเรียบร้อยเป็นศรีสง่าแก่วัดให้ชื่อว่ารัตนเจดีย์ วัดนี้ได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดรัตนวนาราม

 

ในการตั้งชื่อวัดรัตนวนาราม และเจดีย์รัตนเจดีย์นั้น เหตุผลหนึ่งก็เป็นมงคลนามในตัวอยู่แล้ว หรืออีกอย่างหนึ่งก็น่ามีสาเหตุสำคัญ คงเป็นเพราะหลวงพ่อไพบูลย์ คงระลึกถึงพระคุณของนางสังฆรัตนะ หรือเจ้าหญิงรัตนสุดาวดีศรีสัตตบงกช ที่สนับสนุนจนการก่อสร้างทุกอย่างแล้วเสร็จไปตามนิมิตที่นางขอให้ท่านสร้างวัด จึงได้นำเอานาม รัตน ของนางนี้จารึกไว้เป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงตลอดไป จะด้วยบังเอิญหรือประจวบเหมาะหรือตั้งใจอย่างไรก็ตามแต่ ในศิลาจารึกที่พิพิธภัณฑ์เชียงแสน ก็ยังปรากฏชื่อวัดนี้และสถานที่ตั้งอนุมานว่าจะอยู่ที่พะเยาตรงบริเวณเดียวกันนี้ด้วย วัดรัตนวนารามในหลักศิลาจารึก วัดรัตนวนารามในเหตุการณ์ปัจจุบัน ทำไมไปตรงกับชื่อสมัยอดีตได้......วัดรัตนวนาราม เริ่มสร้างขึ้นมาเมื่อ พ.ศ.๒๐๑๔ ส่วนวัดรัตนวนาราม เริ่มสร้างขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ ดูราวกับกงล้อแห่งกาลเวลาจะหมุนย้อนซ้ำรอยเดิม 

 

โบสถ์ของวัดรัตนวนารามนั้น สมเด็จพระอริยวงศคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก (วาสน์ วาสโน) แต่ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ มาเป็นองค์ประธานในการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๘

 

รัตนเจดีย์ จำลองแบบมาจากพระธาตุจอมกิตติ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ โดยเจ้าพระคุณสมเด็พระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ส่วนยอดฉัตรเก้าชั้นของเจดีย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อยอดฉัตร เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๑ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

 

ครั้นการก่อสร้างโบสถ์ เจดีย์ รวมทั้งกุฏิกรรมฐานและเสนาสนะอื่นๆ สำเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ไปทรงประกอบพิธียกช่อฟ้า ตัดลูกนิมิต และทรงยกฉัตรเก้าชั้นยอดรัตนเจดีย์ วัดรัตนวนาราม เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๒ ระยะเป็นเวลาที่จังหวัดพะเยา เพิ่งแยกออกมาจากจังหวัดเชียงราย จึงเป็นประวัติการณ์ที่สำคัญของชาวจังหวัดพะเยา ได้มีโอกาสเฝ้าเบื้องพระยุคลบาททุกพระองค์อย่างใกล้ชิดเป็นที่ปิติยินดีแก่ปวงพสกนิกรเหลือที่จะพรรณนา

 

 
     
โดย : dangphayao   [Feedback +0 -0] [+0 -0]   Tue 25, Aug 2009 16:43:57
 
 
เดี๋ยวว่างๆจะกลับมาอ่านใหม่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วเพลิ้ย..เพลีย
 
โดย : อู๊ดผมยาว    [Feedback +18 -0] [+0 -0]   [ 1 ] Tue 25, Aug 2009 17:21:28

 
ห ล ว ง ปู่ แ ห ว น รุ่นเมตตา ๒๕๒๐ (วัดรัตนวนาราม ภาคแรก) : พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.